พอได้แล้ว
เอ่อ..มันจะดราม่ากันทุกสัปดาห์เลยใช่มั้ยฮะ
ผมหมายถึงฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีกของบ้านเราฮะ ลีกที่ใครหลายคนสถาปนาว่าเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียนแล้ว ทว่าสำหรับผมเองอาจมองต่างจากคุณๆ ท่านๆ ทั้งหลาย เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียง “เปลือกนอก” เท่านั้น
ส่วนข้างในยังกลวงเปล่าเต็มไปด้วยปัญหาเช่นเดิม แบบที่หาทางรับมือกันแบบไม่หวาดไม่ไหว แน่นอนว่าตั้งแต่สัปดาห์แรกผ่านมาได้เหยียบเดือน หลายเรื่องราวหลากปัญหาก็พุ่งเข้ามาบั่นทอนฟุตบอลไทยมากมาย และส่วนใหญ่แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ส่งผลลบ
กับตัวละครเอกที่ไม่พลาดเข้าฉากตลอดอย่าง ผู้ตัดสิน และ แฟนบอล (บางคน) ยังรังสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้ฟุตบอลไทยเสมอ
เริ่มไล่กันตั้งแต่สัปดาห์แรกระหว่างคู่ เอสซีจี เมืองทองฯ พบ บีอีซี เทโรศาสน แมตช์คอมฯ ทำหน้าที่ผิดพลาดอย่างไม่น่าให้อภัยในเรื่องโควตาผู้เล่น
พ้นหลังให้ 1 วัน กองเชียร์ “กูปรี จำนวนหนึ่งพร้อมใจลงไปบรรเลงเพลงสโมสรในสนามหลัง บีบีซียู กระหน่ำตาข่ายอดีตทีมที่ถูกใครบางคนฉกไปจากแดน “ลำดวน” (กรณีนี้แอบสะใจและเป็นกำลังใจให้แฟนกูปรี)
สัปดาห์ต่อมา “มวลชน” เลือดสีส้มเรือนพันรายพร้อมใจกันบุกเยือนเมืองดอกบัวเพื่อแช่งอดีตทีมรักหน้าสนามแข่ง และแม้จะไม่มีเหตุการณ์อะไรที่รุนแรงเกิดขึ้น ทว่าก็พอที่จะทำให้ภาพลักษณ์ของบอลไทยติดลบไปพอควรในสายตาคนที่ดูถูกบอลไทย
ถัดมากลางสัปดาห์ที่ เอสซีจี สเตเดี้ยม เกมระหว่างเมืองทองฯ พบ การท่าเรือไทย ก็เกิดศึกแก้วน้ำกันระหว่างทั้งสองฝ่าย และแม้จะลงเอยด้วยการมีคนบาดเจ็บของฝั่งทีมเยือนถึง 2 ราย และไม่มีอะไรรุนแรงมากกว่านั้น หรือบทสรุปออกมาในเชิงที่ต่างฝ่ายไม่เข้าใจกัน แต่ก็ทำให้เห็นมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในสนามที่ต้องปรับปรุงให้เข้มกว่าเดิมพอควร
ข้ามไปเกมล่าสุดของ บางกอกกล๊าส เอฟซี พบ พัทยา ยูไนเต็ด การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่ยังคงมาตรฐานเดิมอยู่หลังจากปฏิเสธการได้ประตูของทีม “กระต่ายแก้ว” ถึง 3 หน ทั้งๆ ที่สมควรเป็นประตูแบบใสๆ
แน่นอนว่าหลายคนรอดูบทลงโทษของ เปานาม มงคงชัย เพชรศรี อยู่ว่าจะออกมาเช่นไร เพราะแม้จะมีดีกรีเป็นถึงผู้ตัดสินฟีฟ่า ทว่าพอเห็นการตัดสินแล้วคงได้แต่ส่ายหน้าให้แทนคำตอบ
แต่ทีเด็ดของสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นจะเป็นเกมที่ สนามเขาพลอง ที่ดราม่าทั้งในและนอกสนาม
แน่นอน หากตัดอุปสรรคอื่นออกไป รูปเกมทั้งสองทีมสะเด่าและมันที่สุดเกมหนึ่งในฤดูกาลนี้เลยทีเดียว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การที่ถูกยกธงล้ำหน้าจากไลน์แมนถึง 3 หน ทั้งที่เด็ก 8 ขวบที่มันเล่นบอลมันยังสบถออกมาด้วยถ้อยคำที่น่ารักเลยว่า “ล้ำตรงไหนคะอีสัส” ผลตัดสินคือไลน์แมนท่านนี้จะโดนสั่งพักงานแบบไม่มีกำหนดแล้ว
ส่วนหลังเกมที่มีแฟนทีมเยือนลั่นไกขู่กัน ก็ถูกดำเนินคดีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่อดสงสัยไม่ได้ว่า ณ เวลานี้ภาพลักษณ์บอลไทยค่อยๆ ดิ่งลงเรื่อยๆ จากปัญหาต่างๆ นานาที่มารุมล้อม ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ฟุตบอลไทยที่ใครบางคนสถาปนาว่าเป็นลีกอันดับหนึ่งของอาเซียนจะเป็นเช่นไร
เมื่อกรรมการยังตัดสินเหมือนบอลกีฬาสี เมื่อแฟนบอลยังพกอาวุธมาดูบอล จะให้ผมมองว่านี่เป็นลีกอันดับหนึ่งผมคงต้องมีปัญหากับสมองผมพอควร
พอได้แล้ว!!
ช่วยกันเถอะฮะ ไม่ว่าจะเป็นเบื้องบนที่กำลังกินอยู่อย่างมูมมาม หรือ แฟนบอล ช่วยกันพัฒนาให้ฟุตบอลไทยเราเติบโตไปในทางบวกเถิดฮะ
อย่าให้โตแต่ “เปลือก” เลย
ลาเต้
<< คลิปคู่บางกอกกล๊าส พบ พัทยา ยูไนเต็ด >>
<< ยื่นหนังสือประท้วง >>
<< ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ? >>