เค้าหาว่า“บาร์ซ่า”โกง!
มีตัวเลขมากมายเหลือเกินครับที่เกิดขึ้นหลังจบเกมที่คัมป์นู
“ปีศาจแดงดำ” เอซี มิลาน กลายเป็นเหยื่อล่าสุดที่ต้องมาเสียชีพที่สนามแห่งนี้ หลังจากโดน “เจ้าบุญทุ่ม” บาร์เซโลน่า บดชนะไปได้ 3-1
ลิโอเนล เมสซี่ ที่เล่นไม่ออกในเกมแรกที่ซาน ซีโร่ ยังคงเดินหน้าเขียนประวัติศาสตร์ด้วยปลายสตั๊คของเขา หลายต่อหลายรายการ
เมสซี่ กลายเป็นผู้เล่นที่ทำประตูรวมมากที่สุดภายในฤดูกาลเดียว ของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียบร้อยแล้ว หลังจากยิงได้ 14 ลูก แซงหน้า “ม้าเหล็ก” รุด ฟาน นิสเตลรอย ที่เคนยิงไว้ 12 ประตู ในฤดูกาล 2002-03 สมัยที่ยังเล่นให้กับ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ขออีกเม็ดเดียวเท่านั้น จอมเทพจากแดนฟ้าขาว จะเป็นคนแรกที่ยิงได้เกิน 14 ลูก เพราะถ้าหากนับรวมกับ ยูโรเปี้ยน คัพ เข้าไปด้วย เมสซี่ ทำสถิติได้เท่ากับ โชเซ่ อัลตาฟินี่ ดาวยิงอิตาลี เชื้อสายแซมบ้า ที่ยิงไว้ 14 เม็ดเหมือนกัน ในซีซั่น 1962-63
อย่างไรก็ตาม สิริรวมการถล่มประตูในถ้วยใบนี้ของ เมสซี่ พุ่งกระฉูดเกินหลักครึ่งร้อยไปแตะที่เลข 51 ประตู จากการลงเล่น 65 นัด อีกด้วย
ที่บ้ายิ่งกว่านั้นก็คือ ปีนี้ เมสซี่ กดไปแล้ว 58 เม็ด จากการลงเล่น 49 นัด!!!
ที่สำคัญ มันทำให้ บาร์ซ่า ทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ 5 ปีติดต่อกันเข้าให้แล้ว
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ ชัยชนะของ บาร์ซ่า ดูเหมือนว่า มันมีเรื่องแห่งความกังขาเกิดขึ้น เนื่องมากจากผู้ตัดสิน บียอร์น คุยเปอร์ส ชาวเนเธอร์แลนด์ในเกมนี้ได้มอบ 2 จุดโทษให้กับ บาร์ซ่า
แบบที่ว่ากันว่ามันง่ายเกินไป
ลูกแรกนั้นชัดเจนนะครับ ว่าจังหวะนั้น บาร์ซ่า กำลังจะหมดโอกาสในการพังประตู จนบอลกระดอนกลับไปทำท่าจะเข้าทาง เมสซี่ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ ลูก้า อันโตนินี่ พุ่งเข้าไปสกัดซึ่งต้องบอกว่า มันคนละทิศกับที่ เมสซี่ จะได้บอล
ส่วนลูกโทษที่ 2 จังหวะการทำฟาวล์ในจังหวะลูกเตะมุม อเลสซานโดร เนสต้า ปราการเหล็กของ มิลาน ไปปะทะกับ เซร์คิโอ บุสเกตส์ ซึ่งก็อยู่คนละทางกับที่จะได้บอล
ในฐานะที่ผมเป็นแฟนของทั้ง บาร์ซ่า และมิลาน ใครจะชนะก็ได้ไม่ตื่นเต้น เพราะเชียร์มันทั้งคู่มาเกือบ 20 ปีแล้ว
ก็ยอมรับเช่นกันว่า มันไม่สมควรจะเป็นแบบนี้
บ่อยครั้งที่ผู้ตัดสินมักจะทำให้เกมนั้นไปอีกทางแบบเหลือเชื่อ เกมที่เป็นเกมสนุกและตื่นเต้นต้องเดินออกไปคนละเรื่องแบบนี้
เพราะผู้ตัดสินบ่อยครั้ง
ทั้งที่ไปถามใคร ใครก็ต้องบอกว่า สมควรแล้วที่ บาร์ซ่า จะได้เข้าไปเล่นในรอบตัดเชือก ตามศักดินา ณ นาทีปัจจุบัน แต่มันสมควรอย่างยิ่ง
ที่เวลาเดินไปแล้วจะสง่างามกว่านี้
ไม่แปลกที่ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช กองหน้าตัวแสบของ มิลาน จะออกมาสวดยับหลังเกม พร้อมกับยกเรื่องของทฤษฎีสมคบคิดของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป ที่อยู่เบื้องหลังทำให้ บาร์ซ่า เข้ารอบ
แถมยังบอกอีกด้วยว่า ยูฟ่า ได้กำหนดคู่ชิงปีนี้เอาไว้แล้ว!!!
มันจะขนาดนั้นเลยละหรือ มันจะแย่ขนาดนั้นเลยหรือไม่ ยังไงก็ค่อย ๆ คิดกันไว้ครับว่า คู่ชิงที่เค้าว่าจะเป็น “เอล กลาซิโก้” หรือเปล่า
จะอะไรก็ตาม ใครจะชิงก็ตาม บาร์ซ่า มีสิ่งที่พวกเขาต้องพิสูจน์ความเก่งกาจของพวกเขาอยู่แล้ว นั่นก็คือ ต้องเป็นแชมป์ให้ได้สถานเดียว เพื่อทำสถิติเป็นทีมแรกที่ป้องกันแชมป์ถ้วยนี้เอาไว้ได้
ที่จะทำให้ทุกเสียงวิจารณ์หมดไปทุกหย่อมหญ้า....!!!!
บี แหลมสิงห์
