ไม่โกง!? มวยอลป.เปลี่ยนระบบให้คะแนนแบบชกอาชีพ
สหพันธ์มวยสากลนานาชาติ (ไอบ้า) ประกาศการปรับเปลี่ยนกฎการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิกหลายข้อ ซึ่งหนึ่งในนั้นรวมไปถึงการชกโดยที่ผู้แข่งขันไม่ต้องสวมเฮ้ดการ์ด หรือ หมวกป้องกันเหมือนที่ผ่านมา
สำนักข่าวเอพีเปิดเผยว่า สัปดาห์นี้ "ไอบ้า" ประกาศการเปลี่ยนแปลงกฎหลายอย่าง ซึ่งส่งผลต่อการแข่งขันทำให้มีแนวโน้มใกล้เคียงกับการแข่งอาชีพมากขึ้นไปอีก
โดยไอบ้า เริ่มการใช้ระเบียบใหม่ทั้งการออกกฎให้ผู้แข่งขันไม่ต้องสวมเฮ้ดการ์ด รวมไปถึงการใช้ระบบการให้คะแนนยกละ 10 แต้ม แบบมวยสากลอาชีพ โดยเชื่อว่า จะช่วยเปลี่ยนภาพการแข่งขันเข้าใกล้มวยอาชีพซึ่งน่าจะเรียกความสนใจจากเหล่านักชกที่ต้องการผันเป็นนักมวยอาชีพ
ทั้งนี้การแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นเริ่มมีการใช้เฮ้ดการ์ดเมื่อปี 1984 และใช้ติดต่อกันมาในโอลิมปิกทั้ง 8 ครั้งอย่างไรก็ตาม ชาร์ลส บัตเลอร์ คณะกรรมการทางการแพทย์ของไอบ้า เปิดเผยโดยอ้างว่า ไม่มีหลักฐานชัดเจนที่แสดงให้เห็นว่า เฮ้ดการ์ดช่วยลดการกระทบกระเทือนได้
อย่างไรก็ตาม ระเบียบของไอบ้า จะส่งผลต่อการชกมวยประเภทชายในการแข่งขันระดับท็อปของไอบ้า ขณะที่มวยหญิงและมวยเยาวชนจะยังคงมีการใส่เฮ้ดการ์ดแข่งอยู่
ขณะเดียวกัน การชกสมัครเล่นยังมีการเปลี่ยนระบบให้คะแนนเป็นยกละ 10 แต้มแบบมวยอาชีพแทนที่ระบบให้คะแนนนับหมัดซึ่งใช้มาตั้งแต่โอลิมปิก ปี 1988 ที่โซล ภายหลังเกิดไฟต์กังขาหลายครั้งซึ่งรวมถึงไฟต์ของรอย โจนส์ จูเนียร์ โดยการชกระบบใหม่จะมีกรรมการให้คะแนน 5 คน ตามระบบการชกอาชีพในรูปแบบ 10-9 หรือ 10-8 ยก
บัตเลอร์ ให้สัมภาษณ์ว่า มวยไม่ควรเป็นระบบ "การนับ" ระบบการให้คะแนนใหม่นั้นจะช่วยลดการบอบช้ำให้กับผู้แข่งขัน ต่างจากระบบให้คะแนนเดิมที่การต่อยลำตัวมักทำได้คะแนนน้อยจนนักชกมุ่งเป้าไปที่ศรีษะ ขณะที่การชกหมัดชุดก็ไม่มีคะแนนให้