ฟุตบอล : "ฟีฟ่า" สั่งสมาคม สั่งพัทยาถอนฟ้องภายใน 24 มิ.ย. พร้อมจัดเลือกตั้งนายกสมาคมตามธรรมนูญใหม่ ภายใน 30 ก.ย. กูรูกีฬาไทยอดีต บก.อาวุโสมติชน ระบุ หากแหกกฎฟีฟ่าวงการฟุตบอลไทยพังแน่ กระทบเร็วสุด บุรีรัมย์ ชวดเตะ ชปล.,ชลบลูเวฟ อดเตะฟุตซอลเอเชีย
ความคืบหน้าของการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ภายหลังจากที่นายวรวีร์ มะกูดี และสภากรรมการทั้งชุดหมดวาระลงไปเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา
แต่ทางสมาคมฟุตบอลฯ ยังคงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เนื่องจากมีคำสั่งศาลจังหวัดมีนบุรี คุ้มครองชั่วคราวบริษัทสโมสรฟุตบอล พัทยา จำกัด ที่เป็นโจทก์ฟ้องสมาคมฯ ไม่ให้มีการนำเอาธรรมนูญฉบับใหม่ตามร่างของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า มาลงมติรับรองในการประชุมใหญ่สามัญเมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่าทาง ฟีฟ่าได้ทำการส่งหนังสือกลับมายังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ แล้ว เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 17 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยทางฟีฟ่าได้มีคำสั่งมายังสมาคมฟุตบอลฯ 2 ข้อด้วยกัน ดังนี้
1.ให้ทางสมาคมฟุตบอลฯ ออกคำสั่งให้บริษัทสโมสรฟุตบอล พัทยา จำกัด หรือสโมสร พัทยา เอฟซี ทำการถอนฟ้อง ภายในวันที่ 24 มิถุนายน 2556 หากทางพัทยา ไม่ปฏิบัติตาม ฟีฟ่า จะแบนสมาคมฟุตบอลฯ ทันที
2.ให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ด้วยธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่า ภายในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ซึ่งเป็นวันที่ฟีฟ่าจะบังคับใช้ธรรมนูญฉบับใหม่นี้อย่างเป็นทางการ หากสมาคมฟุตบอลฯไม่สามารถดำเนินการดังกล่าวได้ จะมีบทลงโทษจากฟีฟ่าด้วยการถูกแบนเช่นกัน
ผู้สื่อข่าว"ไทยลีกออนไลน์" ได้ติดต่อสัมภาษณ์นายประดิษฐ์ นิธิยานันท์ อดีต บก.อาวุโสของนสพ.มติชนและถือเป็นกูรูวงการกีฬาที่เจาะลึกกับวงการกีฬานานาชาติมายาวนานได้
ระบุกรณีที่จะเกิดขึ้นกับวงการฟุตบอลของประเทศไทยหากกรณีฟีฟ่าสั่งลงโทษสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯที่ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งฟีฟ่าว่า สิ่งที่จะมีผลในระยะใกล้ที่สุดคือ
การแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซีแชมเปี้ยนส์ลีก ที่ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เข้ารอบ 8 ทีม ก็จะหมดสิทธิแข่งขัน,ทีมฟุตซอลชลบุรี บลูเวฟ ก็จะไม่ได้แข่งชิงแชมป์เอเชีย,ผู้ตัดสินระดับฟีฟ่าของไทยก็จะถูกงดทำหน้าที่ และนักฟุตบอลต่างชาติที่เล่นฟุตบอลอาชีพซึ่งมีจำนวนมาก ฟีฟ่า ก็จะไม่คุ้มครอง หรือหมดสัญญาแล้ว ต้นสังกัดก็อาจจะไม่ทำใบโอนย้ายหรือไอทีซี มาให้สโมสรฟุตบอลในประเทศไทย
ผู้สื่อข่าวได้ถามต่อไปอีกว่า มีเคยเกิดขึ้นกับประเทศต่างๆในลักษณะใกล้เคียงกับกรณีของไทยหรือไม่ นายประดิษฐ์ตอบว่า ประเทศคูเวต ถูกฟีฟ่าลงโทษเพราะการเมืองแทรกแซงเมื่อนายกรัฐมนตรีสั่งแต่งตั้งคนเข้ามาเป็นนายกสมาคมฯ และอินโดนีเซีย ประเทศใหญ่มีประชากร 200 กว่าล้านคน เกิดปัญหาระหว่าง 2 กลุ่มที่เป็นระดับมหาเศรษฐีกับผู้นำกองทัพ ฟีฟ่าก็สั่งแบน ในที่สุดก็ต้องเลือกตั้งตามธรรมนูญฟีฟ่า ด้วยจำนวน 80 เสียง
นายประดิษฐ์ นิธิยานันท์ ได้ย้ำว่าในประเด็นที่ฟีฟ่าเพ่งเล็งประเทศไทยเป็นพิเศษ ซึ่งตนเองไปฟังเจ้าหน้าที่ฟีฟ่า ที่มาชี้แจงในวันที่ 14 มิ.ย นั้น เขาซีเรียสในเรื่องนี้มาก
เนื่องจากนายวีรวีร์ มะกูดี รักษาการนายกสมาคมฯ เป็นบอร์ดฟีฟ่าด้วย ทำให้ฟีฟ่าต้องการทำทุกอย่างให้ถูกต้อง บังคับให้ได้ตามธรรมนูญ
"ผมว่าฟีฟ่าเพ่งเล็งไทยมากเป็นพิเศษ เพราะพี่ยี (นายวรวีร์ มะกูดี) เป็นบอร์ดฟีฟ่าด้วย อาจจะต้องเชือดไก่ให้ลิงดู อาจจะรุนแรงมากกว่าประเทศที่เคยโดนฟีฟ่าลงโทษมาก่อนหน้านี้" กูรูกีฬาไทยกล่าว