บังยียันแจงธรรมนูญฟีฟ่าต่อสโมสรตั้งแต่ปี2552
รักษาการณ์นายกสมาคมฟุตบอลฯ แจงกลางรายการ ธรรมนูญฉบับใหม่สโมสรรับทราบมาตั้งแต่ปี 2552 บิ๊กเหม็น ชี้เป็นเรื่องจริง มีประชุมถึง 8 ครั้ง
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา “บังยี” วรวีร์ มะกูดี รักษาการณ์นายกสมาคมฟุตบอลฯ ได้เดินทางไปออกรายการ
“เจาะข่าวเด่น” ทางไทยทีวีสี ช่อง 3 ซึ่งเจ้าตัวได้พูดถึงสมาคมฟุตบอลฯ ว่าไม่ได้เป็นสุญญากาศเพราะตนเองยังคงเป็นนายกสมาคมฯ อยู่
“ข้อบังคับสมาคมฟุตบอลฯ ข้อ 17.3 ระบุว่าให้คณะกรรมการบริหารชุดเดิมปฏิบัติหน้าไปจนกว่าจะมีการจดทะเบียน
คณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ดังนั้นผมยังคงเป็นนายกสมาคมฟุตบอลฯ เหมือนเดิมและไม่ใช่ตำแหน่งรักษาการณ์ด้วย ดังนั้นสมาคมฯ จึงไม่ได้เป็นสุญญากาศตามที่คุณ วิรัช ชาญพานิชย์ กล่าวอ้างแต่อย่างใด”
“ส่วนเรื่อง 72 เสียง ผมยืนยันว่า ฟีฟ่า ได้ใช้เวลามาศึกษาระบบการดำเนินงานของฟุตบอลไทยเป็นเวลานาน และมีความเห็นว่าประเทศไทยควรใช้ 72 เสียง โดยทีมจากดิวิชั่น 2 ยังไม่เป็นอาชีพเต็มตัว จึงให้ตัวแทนภาคละ 5 ทีมมีสิทธิ์เลือกตั้ง และที่สำคัญต้องจัดการเลือกตั้งภายใต้ธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่าเท่านั้น ก่อนวันที่ 30 ก.ย. โดยไม่สามารถใช้การเลือกตั้งแบบเก่าได้เลย”
“สาเหตุที่ไม่กำหนดอันดับ 1-5 ของทีมจากดิวิชั่น 2 เพราะผมคิดว่าทุกทีมลงทุนไม่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงต้องเปิดโอกาสให้ทุกทีมได้คัดเลือกกันเอง ซึ่งผมคิดว่ายุติรรมที่สุด”
“ธรรมนูญฉบับใหม่ ผมไม่ได้เพิ่งแก้ไข แต่เราได้มีการแจ้งให้สโมสรได้รับทราบในที่ประชุมตั้งแต่ปี 2552 ดังนั้นจึงบอกไม่ได้ว่าผมไม่เคยบอกล่วงหน้า”
ด้าน ไพฑูร ชิตุมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย กล่าวสมทบว่าสมาคมฟุตบอลฯ ได้แจ้งธรรมนูญใหม่ตั้งแต่ปี 2552 จริง จนถึงวันนี้เป็นระยะเวลารวมถึง 8 ครั้ง ซึ่งผมในฐานะคนกลางอยากให้ผู้สมัครและทุกสโมสรเห็นชอบธรรมนูญนี้เพราะถือว่ามีความโปร่งใสและยุติธรรมที่สุด”