"เดอะ เซนต์"ชี้30เสียงจากด.2ชี้ชะตาเก้าอี้"บังยี"
ฟุตบอล : ความคืบหน้ากรณีการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ที่ยังหาทางออกไม่ได้ หลังจาก "บังยี" วรวีร์ มะกูดี ที่ปัจจุบันรักษาการนายกฯ ออกมายืนยันว่า ต้องใช้ธรรมนูญของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ "ฟีฟ่า" มาบังคับใช้ในการเลือกตั้งภายในวันที่ 30 ก.ย. มิเช่นนั้นจะถูกแบนอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งแนวทางดังกล่าว ยังมีเสียงคัดค้านจากหลายฝ่ายนั้น
ล่าสุด "เดอะ เซนต์" นายอรรณพ สิงห์โตทอง รองประธานสโมสรชลบุรี เอฟซี เผยว่า ตอนนี้ต้องแล้วแต่สมาคมว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ทั้งนี้สมาคมต้องยึดตามกฎหมายของประเทศไทยด้วย ไม่ใช่อะไรๆ ก็บอกว่า ต้องทำตาม "ฟีฟ่า" อย่างเดียว ซึ่งการที่ธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่าระบุให้ไทยใช้ 72 เสียงนั้นเชื่อว่าฟีฟ่าฟังความข้างเดียวจากคำแนะนำของนายวรวีร์
ขณะเดียวกัน ก็เห็นชอบในหลักการธรรมนูญใหม่ 72 เสียง แต่ขั้นตอนต่างๆ มันยังไม่สะเด็ดน้ำ โดย 72 เสียงนั้น จะมี 30 เสียงที่มาจากดิวิชั่น 2 ซึ่งตรงนี้ยิ่งไม่มีหลักการอะไรมารองรับเลย เป็นการเลือกกันเอง ส่วนทีมจากถ้วย ข ค ง นายวรวีร์บอกเอาทีมแชมป์กับรองแชมป์ แต่กับดิวิชั่น 2 ที่ระดับสูงกว่ากลับจะใช้วิธีเลือกเอง แต่กลับไม่เอาทีมแชมป์กับรองแชมป์ในแต่ละโซนที่มีผลงานดีและลงทุนสูง ซึ่งนั่นก็น่าจะบอกได้ว่า 30 เสียงนี้คือเครื่องชี้วัดที่สำคัญของนายวรวีร์ในการเลือกตั้งครั้งนี้
"ผมไม่เข้าใจว่าเป็นเพราะเหตุใดนายวรวีร์จึงต้องดิ้นรนขนาดนี้ ทั้งๆ ที่กระแสสังคมก็ไม่เอาเขาแล้ว อีกทั้งนายวรวีร์ก็หมดความชอบธรรมในการบริหารงานแล้วด้วย ส่วนตอนนี้ผมขอชะลอเรื่องการยื่นหนังสือกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ไปก่อน เพราะจะขอดูรายละเอียดต่างๆ อีกครั้ง"
ด้าน "ทอม" กษิติ กมลนาวิน คอลัมนิสต์กีฬาชื่อดัง เผยว่า ตนได้ยื่นความจำนงต่อสมาคมฟุตบอลฯ แล้วว่า จะขอลงชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ ในครั้งนี้ด้วย เพื่อเป็นทางเลือกให้กับสโมสรสมาชิกที่ไม่เห็นด้วยทั้ง นายวรวีร์ มะกูดี, นายวิรัช ชาญพานิชย์ และ นายพินิจ งามพริ้ง
"ผมคลุกคลีกับวงการฟุตบอลไทยมา 40 ปี เรื่องแพ้ผมไม่เคยกลัวหรือใครจะว่าอะไรก็แล้วแต่ แต่ผมต้องการเข้ามาพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ก้าวหน้าขึ้น" นายกษิติ กล่าว