วิเคราะห์บอลยูโร โครเอเชีย - สเปน

 

ฟุตบอลยูโร 2012

กลุ่ม ซี นัดที่ 3

โครเอเชีย - สเปน

เวลา: 01.45 น.
สนาม: อารีน่า กดันสค์
ผู้ตัดสิน: โวล์ฟกัง สตาร์ค (เยอรมนี)
ถ่ายทอดสด: ช่อง 3

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

โครเอเชีย

14 มิ.ย. 55 เสมอ อิตาลี 1-1 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
10 มิ.ย. 55 ชนะ ไอร์แลนด์ 3-1 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
2 มิ.ย. 55 เสมอ นอร์เวย์ 1-1 (เยือน) กระชับมิตร
25 พ.ค. 55 ชนะ เอสโตเนีย 3-1 (เหย้า) กระชับมิตร
29 ก.พ. 55 แพ้ สวีเดน 1-3 (เหย้า) กระชับมิตร

สเปน

14 มิ.ย. 55 ชนะ ไอร์แลนด์ 4-0 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
10 มิ.ย. 55 เสมอ อิตาลี 1-1 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
3 มิ.ย. 55 ชนะ จีน 1-0 (เหย้า) กระชับมิตร
30 พ.ค. 55 ชนะ เกาหลีใต้ 4-1 (กลาง) กระชับมิตร
26 พ.ค. 55 ชนะ เซอร์เบีย 2-0 (กลาง) กระชับมิตร

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

7 มิ.ย. 49 กระชับมิตร สเปน 2-1 โครเอเชีย
23 ก.พ. 43 กระชับมิตร โครเอเชีย 0-0 สเปน
5 พ.ค. 42 กระชับมิตร สเปน 3-1 โครเอเชีย
23 มี.ค. 37 กระชับมิตร สเปน 0-2 โครเอเชีย

ความพร้อม-สภาพทีม

โครเอเชีย

โครเอเชียพร้อมส่งทีมชุดเดิมจาก 2 เกมแรกลงสนามอีกครั้งในเกมนี้ โดยนิคิช่า เยลาวิช ศูนย์หน้าของเอฟเวอร์ตัน ยังคงลงเตะได้ตามปกติ แม้จะมีไข้จนไม่ได้ร่วมซ้อมกับทีมในช่วงบ่ายวันเสาร์ก็ตาม แต่ก็เป็นเพราะเหตุผลที่ต้องการให้เขาได้พักอย่างเต็มที่เท่านั้น

เกมนี้สลาเวน บิลิชต้องตัดสินใจว่าจะใช้แผนการเล่นแบบไหน หลังจากใช้ระบบ 4-4-2 ยืนพื้นมา แต่ก็ปรับระบบเป็น 4-2-3-1 ในครึ่งหลังของเกมที่แล้ว จนทำให้เกมดีขึ้นและตีเสมออิตาลีได้ในที่สุด

ในแผนบีนั้นขยับมาริโอ มานด์ซูคิช ซึ่งซัดไปแล้ว 3 ประตูจาก 2 นัดแรกไปช่วยทำเกมริมเส้น และให้เยลาวิชเป็นศูนย์หน้าตัวเป้าคนเดียว โดยมีลูก้า โมดริชขยับสูงขึ้นมาเป็นตัวสนับสนุนเกมรุกอยู่ด้านหลัง ส่วนริมเส้นอีกฝั่งเป็นการขึ้นเกมของอิวาน เปริซิช

นัดนี้กุนซือทีมตราหมากรุกยังต้องเน้นเต็มที่ และน่าจะจัดทีมเล่นด้วยระบบคอนเซอร์เวทีฟแบบเดิมๆ เพื่อเน้นความแน่นอนเอาไว้ก่อน แต่ก็ยังต้องพยายามทำประตูให้ได้เช่นกัน เพราะหากหวังเสมอแบบเข้ารอบเลยก็ต้องยิงสเปนให้ได้ 2 เม็ดด้วย

เกมนี้ 11 ผู้เล่นตัวจริงของโครเอเชียน่าจะเป็นชุดเดิมที่มีสติเป้ เปลติโคซ่าลงเฝ้าเสา ส่วนแผงแบ๊กโฟร์ประกอบด้วยดาริโอ เซอร์น่า, เวดราน ชอร์ลูก้า, กอร์ดอน ชิลเดนเฟลด์ และอิวาน สตรินิช

แผงกลางมีอิวาน ราคิชิ, อ๊อกเยน วูโคเวยิช, ลูก้า โมดริช และอิวาน เปริซ

ขณะที่แนวรุกเป็นสองคู่หัวหอกหน้าเดิมระหว่างมาริโอ มานด์ซูคิชกับนิคิช่า เยลาวิช ซึ่งช่วยกันเหมา 4 ประตูที่ทีมได้มาจาก 2 นัดแรก

ผู้เล่นบาดเจ็บ: -
ผู้เล่นโดนแบน: -
ผู้เล่นติดใบเหลือง: ลูก้า โมดริช, นิโก้ ครันชาร์, กอร์ดอน ชิลเดนเฟลด์

ความพร้อม-สภาพทีม

สเปน

แชมป์โลกและแชมป์ยุโรปโชว์ฟอร์มสดให้เห็นอีกครั้งในเกมล่าสุด ด้วยการกระซวกไอร์แลนด์ไปเบาะๆ 4 เม็ด ถีบยักษ์เขียวตกรอบไปเป็นทีมแรก พร้อมทั้งหยิบตั๋วผ่านเข้ารอบต่อไปเป็นทีมแรกไว้ได้เช่นกัน

เกมนี้สเปนเล่นแค่เสมอก็จะเป็นที่หนึ่งของกลุ่มทันที แต่บิเซนเต้ เดล บอสเก้และลูกทีมต่างก็ออกมายืนยันว่าจะลงเล่นเพื่อชัยชนะเหมือนกับทุกนัด เพราะกระทิงดุเล่นเป็นแต่เกมบุกเท่านั้น ไม่คิดมาอุดเล่นด้วยทฤษฏีสมคบคิดเพื่อร่วมมือกันเขี่ยอิตาลีตกรอบอย่างแน่นอน

เครื่องหมายคำถามสำหรับเกมนี้คือสเปนจะจัดชุดใหญ่แบบเดียวกับสองนัดแรกลงสนามหรือไม่ หลังมีนักเตะตัวหลักๆ โดนใบเหลืองกันระนาวไปแล้วหลายคน และจะโดนพักแข้งในรอบ 8 ทีมสุดท้ายทันที ถ้ารับไปอีกเหลืองในนัดนี้

ในการซ้อมครั้งสุดท้ายของทีมในช่วงเช้าวันอาทิตย์ เดล บอสเก้จัดทีมลงเตะด้วยการใช้ 11 ตัวจริงจากนัดที่แล้วลงเล่นในทีมเดียวกัน ทำให้คาดหมายกันว่าเขาอาจจะส่งนักเตะชุดเดิมลงสนามอีกในนัดนี้ โดยไม่เน้นเรื่องพักบางคนเอาไว้หรือเอาคนที่ติดใบเหลืองไปแล้วออก

เฟร์นานโด ตอร์เรสกับเชส ฟาเบรกาสสลับกันลงเล่นในแมตช์ซ้อม แต่นัดนี้คาดกันว่าน่าจะเป็นตอร์เรสที่ได้ลงยืนเป็นศูนย์หน้าอีกครั้ง หลังซัดไป 2 เม็ดในนัดที่แล้ว ส่วนฟาเบรกาสที่ถูกจับมาเล่นกองหน้าแบบเซอร์ไพรส์ในนัดแรก และทำไป 2 ประตูจาก 2 นัด คงต้องนั่งสำรองไปก่อนเช่นเดียวกับเกมที่แล้ว

ขณะที่เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ มิดฟิลด์ต้วรับตัวหลัก พร้อมลงสนามได้ตามเดิม แม้จะมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่เท้ามาจากเกมก่อน

ทางด้านฆวน มาต้า, ซานติ กาซอร์ล่า และฆาบี้ มาร์ติเนซต่างต้องรอลุ้นโอกาสว่าจะได้ลงเล่นบ้าง หากกุนซือทีมกระทิงดุจะมีการปรับเปลี่ยนโผจริงในนัดนี้

ผู้เล่นบาดเจ็บ: -
ผู้เล่นโดนแบน: -
ผู้เล่นติดใบเหลือง: ฆอร์ดี้ อัลบา, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ชาบี้ อลอนโซ่, ฆาบี้ มาร์ติเนซ

วิเคราะห์รูปเกม

แม้สถานการณ์ก่อนแข่งของโครเอเชียจะเป็นต่ออิตาลีอยู่เพราะมีคะแนนมากกว่า และนัดนี้มีโอกาสเข้ารอบได้ด้วยผลเสมอ มองเผินๆ อาจจะง่ายแต่เมื่อโจทย์ของทีมตราหมากรุกในเกมนี้คือสเปน อะไรที่ง่ายๆ ก็ดูจะยากขึ้นมาทันที เพราะแชมป์เก่ายังคงเป็นทีมที่ดูจะมีเลเวลสูงกว่าทีมอื่นๆ ไปหนึ่งขั้นแล้วในชั่วโมงนี้ ด้วยผู้เล่นคุณภาพและระบบการเล่นที่มีมาตรฐาน

แม้นัดนี้จะเล่นแบบไม่มีอะไรต้องลุ้นมากนัก นอกจากตำแหน่งแชมป์กล่มที่ขอแค่เสมอก็เพียงพอ แต่กระทิงดุยังเป็นทีมที่อันตรายเสมอ นัดนี้ต้องวัดใจกันว่าจะจัดตัวผู้เล่นชุดไหนลงสนาม เกมนี้โครเอเชียคงต้องบดบี้ด้วยเกมหนักๆ เข้าใส่ และพยายามตัดเกมรุกที่ต่อเนื่องของสเปนให้ได้ก่อน แล้วค่อยลุ้นโอกาสเหมาะเข้าทำประตู

แต่ด้วยศักยภาพของสเปนแล้ว เกมนี้แม้จะไม่เต็มร้อยแต่ด้วยการเล่นแบบไม่กดดันอะไร ก็น่าจะทำให้ทีมยังมีโอกาสสร้างสถิติสวยๆ ด้วยการชนะรวดทั้ง 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มได้

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

โครเอเชีย (4-4-2): 1. สติเป้ เปลติโคซ่า; 11. ดาริโอ เซอร์น่า, 5. เวดราน ชอร์ลูก้า, 13. กอร์ดอน ชิลเดนเฟลด์, 2. อิวาน สตรินิช; 7. อิวาน ราคิทิช 8. อ๊อกเยน วูโคเยวิช 10. ลูก้า โมดริช 20. อิวาน เปริซิช; 9. นิคิช่า เยลาวิช 17. มาริโอ มานด์ซูคิช
โค้ช: สลาเวน บิลิช

สเปน (4-3-3): 1. อิเคร์ กาซิยาส; 17. อัลบาโร่ อาร์เบลัว 3. เคราร์ด ปิเก้ 15. เซร์คิโอ รามอส 18. ฆอร์ดี้ อัลบา; 16. เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ 8. ชาบี้ เอร์นาน 14. ชาบี้ อลอนโซ่; 21. ดาวิด ซิลบา เดซ 9. เฟร์นานโด ตอร์เรส 6. อันเดรส อิเนียสต้า
โค้ช: บิเซนเต้ เดล บอสเก้

ฮอตสกอร์: สเปนชนะ 1-0

ล้อมกรอบ

*สเปนไม่แพ้โครเอเชียในการพบกัน 3 ครั้งหลังสุด หลังจากแพ้ในการพบกันครั้งแรกเมื่อปี 1994
*เกมนี้จะเป็นแมตช์แข่งขันจริงนัดแรกที่ทั้งสองทีมพบกัน
*ถ้าทั้งสองทีมเสมอกันในเกมนี้ ด้วยสกอร์ตั้งแต่ 2-2 ขึ้นไป โครเอเชียก็จะตามสเปนผ่านเข้ารอบไปทันที
*โครเอเชียไม่แพ้ใครในการลงเตะยูโร 6 นัดหลังสุด (ชนะ 4 เสมอ 2) และทำประตูได้ตลอด 8 นัดหลังด้วย
*สเปนไม่แพ้ใครในการลงเตะยูโร 8 นัดหลังสุด
*ชัยชนะเหนือไอร์แลนด์ 4-0 ในนัดที่แล้วทำให้สเปนหยุดสถิติทำได้แค่ประตูเดียวตลอด 5 นัดหลังสุดที่ลงเตะในฟุตบอลโลกและยูโรรอบสุดท้าย
*ชัยชนะเหนือไอร์แลนด์ 4-0 ยังถือเป็นชัยชนะสูงสุดที่สเปนทำได้ในยูโรด้วย ดีกว่าสถิติเดิมที่เคยชนะรัสเซียด้วยผลต่าง 3 ประตูในยูโร 2008 (ชนะ 4-1 และ 3-0)
*ประตูที่อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ยิงให้อิตาลีถือเป็นประตูแรกที่สเปนเสียไปในรอบ 6 นัดหลังสุดของทัวร์นาเมนต์ใหญ่
*ในรอบ 24 นัดหลังสุดที่สเปนลงเตะในฟุตบอลโลกและยูโร มีเพียงฝรั่งเศสเท่านั้นที่ยิงประตูพวกเขาได้เกินหนึ่งลูก (ฝรั่งเศสชนะ 3-1 ในฟุตบอลโลก 2006)
*มาริโอ มานด์ซูคิชมีโอกาสยิงแค่ 4 ครั้งในสองนัดแรก ซึ่งเข้ากรอบทุกครั้งและกลายเป็น 3 ประตู
*สองประตูในเกมกับไอร์แลนด์ทำให้เฟร์นานโด ตอร์เรสเทียบสถิติของดาวิด บีญ่าในฐานะนักเตะที่ทำประตูให้สเปนได้สูงสุดในยูโรคือ 4 ลูก
*สเปนสร้างสถิติใหม่ในเกมกับไอร์แลนด์ ด้วยการจ่ายบอลกันสูงที่สุดหนึ่งในเกมของยูโรคือ 810 ครั้ง (สถิติเดิม 778)
*ชาบี้ เอร์นานเดซจ่ายบอล 136 ครั้งในเกมกับไอร์แลนด์ (สำเร็จ 127 ครั้ง) ทำลายสถิติเดิมของยูโรที่โรนัลด์ คูมันของฮอลแลนด์ทำไว้ 117 ครั้งในเกมกับเดนมาร์กในยูโร 92
*โครเอเชียทำได้ 4 ประตูในรอบแบ่งกลุ่มของยูโร 3 ครั้งหลังสุดที่ลงแข่ง คือ ยูโร 1996, 2004 และ 2008 และในยูโรครั้งนี้พวกเขาก็ทำไปแล้ว 4 ประตู