วิเคราะห์บอลยูโร 2012 เช็ก - โปรตุเกส
ฟุตบอลยูโร 2012
ยูโร 2012 รอบ 8 ทีมสุดท้าย
เช็ก - โปรตุเกส
เวลา: 01.45 น.
สนาม: สตาดิโอน นาโรโดวี่
ผู้ตัดสิน: (ยังไม่กำหนด)
ถ่ายทอดสด: ช่อง 3
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
เช็ก
16 มิ.ย. 55 ชนะ โปแลนด์ 1-0 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
12 มิ.ย. 55 ชนะ กรีซ 2-1 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
8 มิ.ย. 55 แพ้ รัสเซีย 1-4 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
1 มิ.ย. 55 แพ้ ฮังการี 1-2 (เหย้า) กระชับมิตร
26 พ.ค. 55 ชนะ อิสราเอล 2-1 (กลาง) กระชับมิตร
โปรตุเกส
17 มิ.ย. 55 ชนะ ฮอลแลนด์ 2-1 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
13 มิ.ย. 55 ชนะ เดนมาร์ก 3-2 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
9 มิ.ย. 55 แพ้ เยอรมนี 0-1 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
2 มิ.ย. 55 แพ้ ตุรกี 1-3 (เหย้า) กระชับมิตร
26 พ.ค. 55 เสมอ มาซิโดเนีย 0-0 (เหย้า) กระชับมิตร
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
11 มิ.ย. 51 ยูโรรอบสุดท้าย เช็ก 1-3 โปรตุเกส
23 มิ.ย. 39 ยูโรรอบสุดท้าย โปรตุเกส 0-1 เช็ก
ความพร้อม-สภาพทีม
เช็ก
โทมัส โรซิคกี้ มิดฟิลด์กัปตันทีม คงไม่พร้อมกลับมาลงช่วยทีมในนัดนี้ หลังจากเจ็บเอ็นร้อยหวายมาจากเกมที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม จนต้องโดนเปลี่ยนตัวออกในช่วงพักครึ่ง และไม่ได้ลงช่วยทีมในเกมล่าสุด
เขาเพิ่งกลับมาลงซ้อมเบาๆ ได้ในวันพุธ และคงไม่มีทางฟิตพอลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้ได้แน่นอน หรือแม้แต่จะลงมามีส่วนร่วมในช่วงใดช่วงหนึ่งก็ยังต้องลุ้นกันหนักๆ ทำให้ มิชาล บิเล็ค คงจะใช้งานนักเตะชุดเดียวกับนัดที่แล้วอีกครั้ง
ดาเนี่ยล โคลาร์จะได้ลงมาเป็นมิดฟิลด์ตัวรุกแทนที่โรซิคกี้ ในระบบการเล่นแบบ 4-2-3-1 ซึ่งจะเน้นการแพ็กกลางแน่น 5 ตัว และมีหัวหอกตัวเป้าห้อยอยู่แค่คนเดียว แบบที่ใช้มาตลอดสามนัดในรอบแรก
ปีเตอร์ เช็ก นายประตูตัวเก่ง จะลงเฝ้าเสาให้กับทีมเช่นเดิม แม้ฟอร์มของเขาในรายการนี้จะยังดูแกว่งๆ อยู่ แต่ก็ยังฝากผีฝากไข้ได้
ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่ กองหลังผิวสี ซึ่งโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นในรายการนี้ จะประจำการในตำแหน่งแบ็กขวา โดยมี ดาวิด ลิมเบอร์สกี้ ที่ได้ลงมายืนแบ็กซ้ายในสองนัดหลัง จะรับหน้าที่ในตำแหน่งนี้ต่อไป ส่วน มิชาล คาดเล็ช จะยืนเป็นเซ็นเตอร์แบ็กคู่กับ โธมัส ซิว็อค
โทมัส ฮุบช์มัน จะรับหน้าที่เป็นมิดฟิลด์ตัวรับคอยทำลายเกมคู่ต่อสู้ โดยจะยืนต่ำอยู่กลางสนามคู่กับยาโรสลาฟ พลาซิล
ปีเตอร์ ยิราเช็ค และ วาคลาฟ พิลาร์ สองมิดฟิลด์ตัวริมเส้น ซึ่งซัดไปแล้วคนละสองประตู จะยังเป็นตัวจี๊ดในการขึ้นเกมรุกให้กับทีมเช่นเดิม โดย โคลาร์ จะรับหน้าที่เพลย์เมกเกอร์คุมจังหวะการเล่นอยู่ตรงกลาง
มิลาน บารอส ศูนย์หน้าประสบการณ์สูง จะรับหน้าที่หัวหอกตัวเป้าต่อไป แม้จะยังฟอร์มฝืดทำประตูไม่ได้เลยในยูโรครั้งนี้ หลังจากเคยมีดีกรีเป็นดาวซัลโวรองเท้าทองคำของยูโร 2004 มาแล้ว
ผู้เล่นบาดเจ็บ: โทมัส โรซิคกี้
ผู้เล่นโดนแบน: -
ผู้เล่นติดใบเหลือง: โทมัส โรซิคกี้, ปีเตอร์ ยิราเช็ค, ดาเนี่ยล โคลาร์, ดาวิด ลิมเบอร์สกี้, ยาโรสลาฟ พลาซิล, โทมัส เพ็คฮาร์ท
ความพร้อม-สภาพทีม
โปรตุเกส
โปรตุเกสสภาพทีมยังคงแกร่งทั่วแผ่น โดยพร้อมใช้งานนักเตะได้อย่างพร้อมหน้าทุกตำแหน่ง และเปาโบ เบนโต้ น่าจะยังไว้วางใจ 11 ผู้เล่นชุดเดิมที่ลงสนามมาตลอด 3 นัดของรอบแบ่งกลุ่มอีกครั้ง โดยไม่หวั่นในเรื่องสภาพความฟิตของร่างกาย
เกมนี้ทีมฝอยทองคงจะจัดแผนการเล่นตามสไตล์ถนัดที่ 4-3-3 โดยยังคงมี คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ปีกซูเปอร์สตาร์ เป็นกัปตันทีมที่แบกรับความหวังทั้งมวลเอาไว้ และทีมก็น่าจะมีขวัญและกำลังใจเพิ่มมากขึ้นอีก จากสองประตูที่เขาทำได้ในเกมกับฮอลแลนด์
รุย ปาทริซิโอ ผู้รักษาประตูจาก สปอร์ติ้ง ลิสบอน จะรับหน้าที่เป็นปราการด่านสุดท้ายต่อไป ส่วนแผงแบ็กโฟร์มี เจา เปไรร่า ยืนแบ็กขวา เปเป้ กับ บรูโน่ อัลเวส จับคู่กันตรงกลาง และ ฟาบิโอ โคเอนเทรายืนแบ็กซ้าย
มิเกล เวโลโซ่ มิดฟิลด์ของเจนัว จะทำหน้าที่ตัวตัดเกมกลางสนาม หลังจากโชว์ฟอร์มได้ดีในการไล่บดบี้สตาร์ของคู่ต่อสู้จนเล่นไม่ออกมาตลอดสามนัดแรก ส่วน ราอูล เมเรเลส และ เจา มูตินโญ่ จะคอยช่วยกันทำเกมในแดนกลาง แต่ก็มีหน้าที่ในการช่วยเบรกเกมรุกของคู่ต่อสู้ด้วย
โรนัลโด้ จะเป็นตัวขึ้นเกมรุกทางฝั่งซ้าย โดยมี นานี่ ปีกของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด รับหน้าที่ทางฝั่งขวา ส่วน เฮลเดอร์ ปอสติก้า จะยืนเป็นศูนย์หน้าคอยเข้าทำจากตรงกลาง
ผู้เล่นบาดเจ็บ: -
ผู้เล่นโดนแบน: -
ผู้เล่นติดใบเหลือง: เฮลเดอร์ ปอสติก้า, ฟาบิโอ โคเอนเทรา, ราอูล เมเรเลส, คริสติอาโน่ โรนัลโด้, เจา เปไรร่า
วิเคราะห์รูปเกม
เช็กคืนฟอร์มได้ในสองนัดหลังของรอบแบ่งกลุ่ม หลังออกสตาร์ตด้วยการพ่ายรัสเซียยับเยิน 1-4 จนถูกมองว่าไม่น่าจะมีลุ้นเข้ารอบได้ แต่หลังจากปรับทัพได้อย่างลงตัวหลังจากนั้น พวกเขาก็เล่นกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้การขาด โทมัส โรซิคกี้ ไปจะถือเป็นข่าวร้าย แต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะแต่ละคนแล้ว ทำให้เช็กยังคงเป็นทีมที่อันตรายอยู่ โปรตุเกสจึงประมาทไม่ได้ในนัดนี้ หลังจากที่ฟอร์มยังดูไม่ค่อยเข้าที่เข้าทางนัก แต่ก็เก็บชัยชนะมาได้ในสองนัดหลัง ทำให้ผ่านเข้ารอบมาแบบเสียวๆ เช่นกัน
เกมนี้โปรตุเกสน่าจะเป็นฝ่ายครองบอลได้มากกว่า แต่ถ้าเสียบอลก็คงโดนเช็กทำเกมโต้กลับเร็ว โดยเฉพาะจากการลุยของ ปีเตอร์ ยิราเช็ค และ วาคลาฟ พิลาร์ นัดนี้โปรตุเกสคงต้องพยายามเน้นในจังหวะจบสกอร์ให้แน่นอนขึ้น และ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ที่น่าจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้จาก 2 ประตู ในนัดก่อน น่าจะเป็นตัวขับเคลื่อนทีมไปสู่ชัยชนะได้ในนัดนี้
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
เช็ก (4-2-3-1): 1. ปีเตอร์ เช็ก; 2. ธีโอดอร์ เกเบร เซลาสซี่ 3. มิชาล คาดเล็ช 6. โทมัส ซิว็อค, 8. ดาวิด ลิมเบอร์สกี้; 17. โทมัส ฮุบช์มัน 13. ยาโรสลาฟ พลาซิล; 19. ปีเตอร์ ยิราเช็ค 18. ดาเนี่ยล โคลาร์ 14. วาคลาฟ พิลาร์; 15. มิลาน บารอส
โค้ช: มิชาล บิเล็ค
โปรตุเกส (4-3-3): 12. รุย ปาทริซิโอ; 21. เจา เปไรร่า 2. บรูโน่ อัลเวส 3. เปเป้ 5. ฟาบิโอ โคเอนเทรา; 16. ราอูล เมเรเลส 4. มิเกล เวโลโซ่ 8. เจา มูตินโญ่; 17. นานี่ 23. เฮลเดอร์ ปอสติก้า 7. คริสติอาโน่ โรนัลโด้
โค้ช: เปาโล เบนโต้
ฮอตสกอร์: โปรตุเกสชนะ 1-0
ล้อมกรอบ
*เช็กเคยเขี่ยโปรตุเกสตกรอบนี้ของยูโร 96 มาแล้ว ด้วยการเฉือนชนะไป 1-0
*ประตูของ ปีเตอร์ ยิราเช็ค ในเกมกับกรีซเกิดขึ้นใน 2.14 นาทีแรก ของเกม และถือเป็นประตูที่เร็วที่สุดอันดับสามในประวัติศาสตร์ของยูโร
*เช็กยิงกรีซ 2 ประตู ภายใน 6 นาทีแรก หลังจากยังไม่เคยมีทีมใดทำสองลูกได้ใน 14 นาทีแรกของเกมยูโรมาก่อน
*เช็กผ่านเข้ารอบมาจากกลุ่มเอ ด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ติดลบ ซึ่งเหมือนกับในยูโร 96 ที่พวกเขาทะลุไปถึงรอบตัดเชือกได้
*โปรตุเกสชนะเดนมาร์กและฮอลแลนด์ได้สองนัดติด หลังจากแพ้รวดใน 4 นัดแรกที่ลงเตะในปี 2012 และทำได้แค่ประตูเดียวเท่านั้น
*โปรตุเกสยังรักษาสถิติผ่านรอบแบ่งกลุ่มของยูโรได้ทุกครั้งเอาไว้ได้
*สองประตูในเกมกับฮอลแลนด์ทำให้ คริสติอาโน่ โรนัลโด้ ซัลโวไปแล้ว 34 ลูกกับโปรตุเกส แซงหน้าสถิติของ หลุยส์ ฟิโก้ อดีตมิดฟิลด์รุ่นพี่ ไปแล้ว