อินทรีตีปีกขยี้กรีซ4-2 ทะลุตัดเชือกยูโร 2012

ฟุตบอลยูโร 2012

 

รอบ 8 ทีมสุดท้าย

เยอรมัน 4-2 กรีซ

 
วันที่ 22 มิถุนายน 2555
สนาม: อารีน่า จีแดนส์ค
ผู้ตัดสิน: ดาเมียร์ สโคมิน่า (สโลวีเนีย)

 

"อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ทีมเต็มแชมป์ ลงสนามในรอบ 8 ทีม สุดท้าย พบกับ กรีซ โดยเกมนี้ โยอัคคิม เลิฟ จัดทีมแบบเซอร์ไพรส์ เมื่อส่ง มิโรสลาฟ โคลเซ่ , อันเดร ชูรร์เล่  และ มาร์โค รอยส์ เดินเกมรุก

ส่วน กรีซ ไม่มีกัปตันทีมคนเก่ง คารากูนิส และในแดน มี จอร์จอส ซามาราส และ ฟานิส เกคัสเป็นตวชูโรง

เริ่มเกมมาเป็นฝ่ายเยอรมัน ที่เดินเกมเข้าหาในทันที นาทีที่ 3 ซามี่ เคดิร่า ได้ซัดไกลจากนอกกรอบเขตโทษ มิคาลิส ซิฟากิส รับบอลกระฉแอกมาเข้าทาง อันเดร ชูรร์เล่ จิ้มบอลซุกก้นตาข่าย แต่ผู้กำกับเส้นยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อนแล้ว

นาที 11 เยอรมันยังได้ลุ้นต่อเนื่อง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ จ่ายบอลให้ มาร์โค รอยส์ หลุดเข้าไปซัดด้วยซ้าย แต่บอลพุ่งหลุดกรอบออกหลังไปแบบมีลุ้น

นาที 22 เยอรมันทำชิ่งกันอย่างสุดสวย ก่อนเป็น เมซุต โอซิลที่ได้ยิงเหน่งๆ ด้วยซ้ายข้างถนัด แต่บอลเบาเกินไปทำให้ มิคาลิส ซิฟากิส นายทวารของกรีซ พุ่งรับไว้ได้ทัน

จากนั้นเยอรมันได้ลุ้นอีกครั้ง นาที 25 มาร์โค รอยส์ ได้วิ่งเข้าไปอัดด้วยขวาเต็มข้อ แต่บอลพุ่งหลุดเสาแรกออกหลังไปอย่างน่าผิดหวัง

นาที 32 กรีซ ได้ลุ้นเป็นจังหวะแรก เมื่อ ดิมิตริส ซัลปินกิดิส ลากบอลตัดเข้ากลางกรอบประตู ก่อนยิงด้วยซ้าย แต่บอลไม่ผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์

ถึงนาที 39 กองเชียร์เมืองเบียร์ ได้เฮกันลั่นสนาม เมื่อ ฟิลิปป์ ลาห์ม แบ็กซ้ายกัปตันทีม ดันสูงขึ้นมาตะบันด้วยขวา บอลพุ่งไซต์ก้อยเสียบตาข่ายแบบสุดงาม เยอรมัน ขึ้นนำ กรีซ 1-0

หมดครึ่งเวลาแรก เยอรมัน  นำ กรีซ 1-0

ครึ่งหลังเป็นทาง กรีซ ที่แก้เกมก่อนโดยเปลี่ยนผู้เล่นทีเดียวสองคนส่ง ธีโอฟานิส เกคัส และ จอร์จอส โฟตาคิส โดยลงมาแทนที่ โซติริส นินิส กับ จอร์จอส ซาเวลาส ส่วนทางฝั่ง เยอรมัน ยังไม่มีการเปลี่ยนตัว

น.55 หลังจากโดนไล่ถลุงอยู่นานทางฝั่ง "เทพนิยาย" ก็มาตามตีเสมอสำเร็จ จากจังหวะที่ ดิมิทรอส ซัลปันจิดิส เลี้ยงลุยมาจากริมเส้นฝั่งขวา ก่อนจะเปิดเรียดไปหน้าประตูและเป็น จอร์จอส ซามาราส ที่ขึ้นชาร์จบอลจ่อๆ เข้าประตูไปจนได้ กรีซ ตีเสมอเป็น 1-1

พอโดนตีเสมอไปได้ไม่นานทางฝั่ง เยอรมัน ก็กลับมาเป็นฝ่ายขึ้นนำได้สำเร็จ เมื่อ เยโรม บัวเต็ง ที่เติมขึ้นทางขวา โยนบอลมาหน้าประตู ซามี่ เคดิร่า วิ่งมากระโดดซัดวอลเล่ย์กลางประตู บอลพุ่งแสกหน้า ซิฟาคิส ที่พยายามจะป้องกันเข้าไปให้ขึ้นนำ 2-1

จากนั้นฝั่ง "อินทรีเหล็ก" ก็เปลี่ยนตัวเป็นคนแรกส่ง โทมัส มุลเลอร์ ลงสนามแทน อังเดร ชูเร่ ที่เหมือนจะไม่มีส่วนร่วมกับเกมมากนัก

น.68 กลายเป็นว่าสกอร์เริ่มไหล โอซิล โยนบอลจากทางฝั่งขวาไปหน้าประตู และเป็นทาง โคลเซ่ ที่อาศัยจังหวะเทกตัวขึ้นโขกเข้าประตูไปโล่งๆ โดยที่ทาง ซิฟาคิส จะพยายามออกมาตัดบอล แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ เยอรมัน นำ 3-1

กรีซ เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่ง นิคอส ลิเบโรปูลอส ลงสนามไปแทน จิจอริส มาคอส

และสถานการณ์ของฝั่ง "อินทรีเหล็ก" ยิ่งดีขึ้นมากกว่าเดิมหลังได้ประตูที่สี่ เมื่อ โคลเซ่ ได้หลุดไปซัดในเขตโทษติดเซฟ ซิฟาคิส บอลกระดอนมาเข้าทาง มาร์โก รอยส์ วิ่งมาซัดแบบไม่จับ บอลพุ่งชนเสากระดอนตกพื้นเข้าประตูไป เพิ่มสกอร์ให้ทีมนำขาด 4-1

พอเห็นว่าเกมเริ่มขาด "อินทรีเหล็ก" ก็เปลี่ยนตัวทีเดียวสองคนสุดท้ายส่ง มาริโอ เกิตเซ่ รวมไปถึง มาริโอ โกเมซ โดยถอด รอยส์ และ โคลเซ่ ออกไป

น.89 กรีซ มาได้ประตูที่สองเพิ่มจากลูกจุดโทษหลังจากที่ เยโรม บัวเต็ง ไปใช้มือบล็อกลูกยิงของ วาซิลิส โตโรซิดิส ผู้ตัดสินชี้เป็นลูกโทษทันที และเป็น ดิมิทรอส ซัลปันจิดิส ซัดไปทางมุมขวาคนละทางกับ มานูเอล นอยเออร์ เข้าไปให้ทีมไล่มาห่างๆ 2-4

ช่วงท้ายเกม กรีซ พยายามบุกเข้าใส่เพื่อหวังทำประตูเพิ่มแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หมดเวลา เยอรมนี เป็นฝ่ายเอาชนะ กรีซ ไปแบบขาดลอย 4-2 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ไปรอพบผู้ชนะระหว่าง "สิงโตคำราม" อังกฤษ หรือ "อัซซูรี่" อิตาลี ที่จะลงแข่งในวันอาทิตย์

 

รายชื่อ 11 ผู้เล่นที่ลงสนาม

เยอรมัน (4-2-3-1): 1. มานูเอล นอยเออร์; 20. เยโรม บัวเต็ง 5. มัทส์ ฮุมเมิ่ลส์ 14. โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์ 16. ฟิลิปป์ ลาห์ม; 6. ซามี่ เคดิร่า 7. บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์; 9.อันเดร ชูรร์เล่  8. เมซุต โอซิล 21. มาร์โค รอยส์; 11. มิโรสลาฟ โคลเซ่
โค้ช: โยอัคคิม เลิฟ

กรีซ (4-2-3-1): 13. มิคาลิส ซิฟากิส; 15. วาซิลิส โทโรซิดิส 5. คีเรียกอส ปาปาโดปูลอส 19. โซคราติส ปาปาสตาโธปูลอส 3. จอร์จอส ซาเวลลาส; 2. ยานนิส มานยาติส, 21. คอสตัส คัตซูรานิส; 14. ดิมิตริส ซัลปินกิดิส 16. จอร์จอส โฟตากิส 7. จอร์จอส ซามาราส; 17. ฟานิส เกคัส
โค้ช: เฟร์นานโด ซานโต๊ส

(ภาพจาก : Gettyimages)