วิเคราะห์บอลยูโร สเปน-ฝรั่งเศส

ฟุตบอลยูโร 2012

 

ยูโร 2012 รอบ 8 ทีมสุดท้าย

สเปน - ฝรั่งเศส

เวลา: 01.45 น.
สนาม: ดอนบาสส์ อารีน่า
ผู้ตัดสิน: นิโกล่า ริซโซลี่ (อิตาลี)
ถ่ายทอดสด: ช่อง 3

 

ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

สเปน

18 มิ.ย. 55 ชนะ โครเอเชีย 1-0 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
14 มิ.ย. 55 ชนะ ไอร์แลนด์ 4-0 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
10 มิ.ย. 55 เสมอ อิตาลี 1-1 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
3 มิ.ย. 55 ชนะ จีน 1-0 (เหย้า) กระชับมิตร
30 พ.ค. 55 ชนะ เกาหลีใต้ 4-1 (กลาง) กระชับมิตร

ฝรั่งเศส

19 มิ.ย. 55 แพ้ สวีเดน 0-2 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
15 มิ.ย. 55 ชนะ ยูเครน 2-0 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
11 มิ.ย. 55 เสมอ อังกฤษ 1-1 (กลาง) ยูโรรอบสุดท้าย
5 มิ.ย. 55 ชนะ เอสโตเนีย 4-0 (เหย้า) กระชับมิตร
31 พ.ค. 55 ชนะ เซอร์เบีย 2-0 (เหย้า) กระชับมิตร

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา

3 มี.ค. 53 กระชับมิตร ฝรั่งเศส 0-2 สเปน
6 ก.พ. 51 กระชับมิตร สเปน 1-0 ฝรั่งเศส
27 มิ.ย. 49 ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย สเปน 1-3 ฝรั่งเศส
28 มี.ค. 44 กระชับมิตร สเปน 2-1 ฝรั่งเศส
25 มิ.ย. 43 ยูโรรอบสุดท้าย สเปน 1-2 ฝรั่งเศส

ความพร้อม-สภาพทีม

สเปน

สเปนพร้อมลงสนามด้วยสภาพทีมที่สมบูรณ์เต็มร้อย โดยไม่มีปัญหานักเตะเจ็บหรือแบนเลย แต่ก็มีผู้เล่นตัวหลักหลายคนติดคาดโทษใบเหลืองอยู่ ซึ่งก็คงไม่มีผลต่อการจัดทัพของบิเซนแต้ เดล บอสเก้ในนัดนี้

อิเคร์ กาซิยาส ผู้รักษาประตูกัปตันทีม จะลงเฝ้าเสาเช่นเดิม โดยหวังเพิ่มสถิติไม่เสียประตูในยูโรเป็นนัดที่ 7 ให้ได้

ในแผงแบ๊กโฟร์ก็ไม่น่าจะมีการปรับเปลี่ยนอะไร แม้ว่าอัลบาโร่ อาร์เบลัว แบ๊กขวาจากเรอัล มาดริด จะโดนวิพากษ์วิจารณ์เยอะกับฟอร์มการเล่นที่ไม่ค่อยเข้าตา หลังได้โอกาสเป็นตัวจริงในรายการนี้ เพราะเซร์คิโอ รามอสถูกขยับไปยืนเซ็นเตอร์แทนคาร์เลส ปูโยลที่หลุดโผไปเพราะเจ็บ

รามอสจะเล่นตรงกลางคู่กับเคราร์ด ปิเก้เช่นเดิม โดยมีฆอร์ดี้ อัลบารับหน้าที่แบ๊กซ้าย ส่วนฆวนฟรานที่ถูกเรียกร้องให้ลงมาเป็นแบ๊กขวาแทนคงยังต้องนั่งสำรองต่อไป

ทางด้านเซร์คิโอ บุสเก็ตส์และชาบี้ อลอนโซ่ สองมิดฟิลด์ตัวรับ จะยับคู่กันยืนเป็นตัวกันชนอยู่หน้าแผงหลังเช่นเดิม ในระบบ 4-2-3-1 หรือยืดหยุ่นเป็น 4-3-3 ได้ โดยชาบี้ เอร์นานเดซจะยืนสูงในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ที่คอยคุมจังหวะการเล่นของทีม

ส่วนดาวิด ซิลบาและอันเดรส อิเนียสต้าเป็นตัวจี๊ดในการขึ้นเกมรุกริมเส้นทั้งสองฝั่ง และทะลุทะลวงเข้าโจมตีแผงหลังคู่ต่อสู้ รวมถึงคอยป้อนบอลเข้ากลางให้ "นักเตะเบอร์ 9" เข้าทำ

เฟร์นานโด ตอร์เรสน่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงติดต่อกันเป็นนัดที่ 3 หลังรับบทหัวหอกตัวเป้ามาในสองนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม และซัดไปแล้ว 3 ประตู ทำให้เชส ฟาเบรกาสที่โดนจับมายืนกองหน้าทั้งที่เป็นกองกลางในนัดแรก อาจจะยังถูกเก็บไว้เป็นตัวสำรองอีกครั้ง

ผู้เล่นบาดเจ็บ: -
ผู้เล่นโดนแบน: -
ผู้เล่นติดใบเหลือง: ฆอร์ดี้ อัลบา, อัลบาโร่ อาร์เบลัว, เฟร์นานโด ตอร์เรส, ชาบี้ อลอนโซ่, ฆาบี้ มาร์ติเนซ

ความพร้อม-สภาพทีม

ฝรั่งเศส

ฝรั่งเศสต้องปรับแนวรับใหม่เมื่อฟิลิปป์ เม็กแซส หนึ่งในเซ็นเตอร์แบ๊กตัวหลัก รับใบเหลืองใบที่สองไปในเกมที่แล้ว ทำให้ชวดบู๊นัดนี้ และโลร็องต์ บล็องก์ก็ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากส่งโลร็องต์ กอสเซียลนี่ ซึ่งยังไม่เคยลงเล่นในแมตช์แข่งขันจริงมาก่อน ลงมายืนคู่กับอดิล รามี่แทนในตำแห่งปราการหลังตัวกลาง เพระมีนักเตะตำแหน่งนี้อยู่แค่ 3 คนในทีมเท่านั้น

อ๊อปชั่นอื่นๆ คือการถอยมิดฟิลด์ตัวรับคนใดคนหนึ่งมาเล่นตำแหน่งนี้แทน ซึ่งไม่น่าจะอยู่ในชอยส์ของกุนซือทีมเลส์ เบลอส์ ที่ต้องยอมรับการตัดสินใจของตัวเอง หลังยังเสี่ยงใช้งานเม็กแซสในเกมที่แล้วทั้งที่ไม่จำเป็น

มาติเยอ เดอบูชี่ที่ยึดตำแหน่งแบ๊กขวาตัวจริงไว้ได้ในทัวร์นาเมนต์นี้ เป็นอีกคนที่มีใบเหลืองคาดโทษอยู่ แต่ก็จะลงทำหน้าที่ตามเดิม โดยมีกาแอล กลิชีรับหน้าที่แบ๊กซ้าย หลังแย่งตำแหน่งมาจากปาทริซ เอฟร่าได้

เกมนี้บล็องก์อาจจะตัดดสินใจแพ็คเกมกลางสนาให้แน่นขึ้นไปอีก ด้วยการส่งให้สองมิดฟิลด์ตัวรับอย่างยานน์ เอ็มวีล่าและอาลู ดิยาร์ร่าลงเล่นพร้อมกันอีกครั้ง และเติมโยฮัน กาบายที่ได้พักในนัดก่อนเพราะมีอาการบาดต้นขา ลงสนามไปเป็นตัวตัดเกมการจ่ายบอลที่มีประสิทธิภาพของสเปนอีกคน

ฟร็องค์ ริเบรี่และซาเมียร์ นาสรี่ สองตัวหลักในการปั้นเกมรุกให้กับทีม มีอาการบาดเจ็บที่เอ็นร้อยหวายและหัวเข่า จนพลาดการซ้อมระหว่างสัปดาห์ไป แต่ก็น่าจะพร้อมลงสนามได้ตามเดิม

ขณะที่คาริม เบนเซม่า หัวหอกตัวเก่ง จะรับบทศูนย์หน้าตัวเป้าเช่นเดิม แม้จะยังเบิกสกอร์แรกไม่ได้เลยจาก 3 นัดในรอบแบ่งกลุ่มก็ตาม

ส่วนอูโก้ โยริส ผู้รักษาประตูกัปตันทีม จะปักหลักเป็นปราการด่านสุดท้ายเช่นเดิม

ผู้เล่นบาดเจ็บ: ฟร็องค์ ริเบรี่, ซาเมียร์ นาสรี่
ผู้เล่นโดนแบน: ฟิลิปป์ เม็กแซส
ผู้เล่นติดใบเหลือง: เฌเรมี่ เมเนซ, มาติเยอ เดอบูชี่

วิเคราะห์รูปเกม

สเปนดูเหมือนจะแพ้ทางฝรั่งเศสเวลาต้องโคจรมาพบกันในรายการใหญ่ๆ และครั้งนี้แชมป์เก่าและเต็งหนึ่งจะมีโอกาสแก้มืออีกครั้ง หลังจากทำผลงานร้อยเปอร์เซ็นต์มาในรอบแบ่งกลุ่ม แม้ว่าฟอร์มนัดสุดท้ายที่ไม่มีผลแล้วจะดูแผ่วๆ ลงไปบ้างก็ตาม

ส่วนฝรั่งเศสก็ฟอร์มสะดุดแพ้ในนัดล่าสุดเช่นกัน หลังจากมีการปรับเปลี่ยนผู้เล่นมาตลอดทั้ง 3 นัดแบบยังไม่ซ้ำกันเลย เกมนี้คงต้องจัดทีมชุดที่คิดว่าลงตัวที่สุดและเข้ากับแผนการเล่นที่จะหยุดยั้งเกมการจ่ายบอลที่มีประสิทธิภาพของสเปนให้ได้ และนั่นหมายถึงว่านักเตะแดนกลางของทีมตราไก่จะต้องคอยตัดเกมของมิดฟิลด์กระทิงดุให้ไม่ไหลลื่นเหมือนเคย

นัดนี้จุดอ่อนของทั้งสองทีมอาจจะอยู่ในแนวรับ เพราะโลร็องต์ กอสเซียลนี่มีประสบการ์ในทีมชาติไม่มาก แต่ก็ต้องลงมาเจอกับบิ๊กแมตช์เลย สวนอัลบาโร่ อาร์เบลัวของสเปนก็ต้องรับมือกับการโจมตีของฟร็องค์ ริเบรี่ให้ได้

เกมนี้ทั้งสองทีมน่าจะสู้กันสนุก แม้โอกาสในการครองบอลของสเปนคงจะสูงกว่า แต่จังหวะฉาบฉวยและการวางบอลแม่นๆ ของฝรั่งเศสก็ประมาทไม่ได้เช่นกัน ทำให้นัดนี้อาจจะยังไม่รู้ผลแพ้ชนะใน 90 นาที

รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:

สเปน (4-2-3-1): 1. อิเคร์ กาซิยาส; 17. อัลบาโร่ อาร์เบลัว 3. เคราร์ด ปิเก้ 15. เซร์คิโอ รามอส 18. ฆอร์ดี้ อัลบา; 16. เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ 14. ชาบี้ อลอนโซ่; 21. ดาวิด ซิลบา เดซ 8. ชาบี้ เอร์นาน 6. อันเดรส อิเนียสต้า; 9. เฟร์นานโด ตอร์เรส
โค้ช: บิเซนเต้ เดล บอสเก้

ฝรั่งเศส (4-3-3): 1. อูโก้ โยริส; 2. มาติเยอ เดอบูชี่ 4. อดิล รามี่ 21. โลร็องต์ กอสเซียลนี่ 22. กาแอล กลิชี่; 6. โยฮัน กาบาย 18. อาลู ดิยาร์ร่า17. ยานน์ เอ็มวิล่า; 11. ซาเมียร์ นาสรี่ 10. คาริม เบนเซม่า 7. ฟร็องค์ ริเบรี่
โค้ช: โลร็องต์ บล็องก์

ฮอตสกอร์: เสมอ 1-1

ล้อมกรอบ

*สเปนเคยเก็บคะแนนในรอบแบ่งกลุ่มยูโรได้ 7 แต้มขึ้นไปแค่ครั้งเดียวก่อนหน้านี้ นั่นคือปีที่พวกเขาได้แชมป์ยูโร 2008 หลังหยิบ 9 คะแนนเต็มในรอบแบ่งกลุ่ม
*หลังจากแพ้สวิตเซอร์แลนด์ 1-0 ในการลงเตะฟุตบอลโลก 2010 นัดแรก สเปนก็ชนะถึง 16 จาก 17 นัดในแมตช์แข่งขันจริงหลังจากนั้น (เสมอครั้งเดียวในเกมกับอิตาลีในนัดแรกของรอบแบ่งกลุ่มยูโรครั้งนี้)
*สเปนชนะในรอบ 8 ทีมสุดท้ายของทัวร์นาเมนต์ใหญ่แค่ครั้งเดียวจาก 9 นัดหลังสุดที่ลงแข่ง (เกมกับปารากวัยในฟุตบอลโลก 2010) โดย 4 นัดในจำนวนนี้ต้องตัดสินด้วยการยิงจุดโทษ ซึ่งสเปนชนะได้แค่ครั้งเดียว (เกมกับอิตาลีในยูโร 2008)
*ในการลงเตะทัวร์นาเมนต์ใหญ่ 25 นัดหลังสุด สเปนเสียประตูให้คู่ต่อสู้มากกว่าหนึ่งลูกแค่เกมเดียวเท่านั้น นั่นคือการแพ้ฝรั่งเศส 3-1 ในฟุตบอลโลก 2006
*สเปนยังไม่เคยเอาชนะฝรั่งเศสได้ในแมตช์แข่งขันจริง (เสมอ 5 แพ้ 1)
*ฝรั่งเศสเอาชนะสเปนได้ 2 จาก 3 ครั้งที่พบกันในยูโร (ชนะ 2 เสมอ 1) และทุกครั้งที่โค่นกระทิงดุได้ ทีมตราไก่ได้ครองแชมป์ (ชนะ 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศยูโร 1984 และชนะ 2-1 ในรอบ 8 ทีมสุดท้ายยูโร 2000)
*ความพ่ายแพ้ต่อสวีเดน 2-0 ในเกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้ฝรั่งเศสถูกหยุดสถิติไม่แพ้ติดต่อกันลงที่ 23 นัด (ชนะ 16 เสมอ 7)
*อิเคร์ กาซิยาสทำสถิติไม่เสียประตูในยูโรมาแล้ว 6 นัด เท่ากับดิโน ซอฟฟ์ของอิตาลี และเป็นรองเพียงเอ๊ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ของฮอลแลนด์ที่ทำสถิติสูงสุดไว้ที่ 9 นัด
*เชส ฟาเบรกาสลงเล่นในฐานะตัวสำรองไปแล้ว 6 นัดในยูโร เป็นรองเพียงสถิติของอารอน วินเตอร์ของฮอลแลนด์ที่ทำไว้ 7 นัด
*คาริม เบนเซม่ามีโอกาสยิงประตู 17 ครั้งโดยยังไม่ได้เลยแม้แต่ลูกเดียว ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดในยูโรครั้งนี้ของนักเตะที่ยังยิงประตูแรกไม่ได้
*ฟร็องค์ ริเบรี่เป็นนักเตะที่ต้องเล่นบอลในจังหวะตัวต่อตัวกับคู่ต่อสู้สูงที่สุดในยูโรครั้งนี้ (75) และเป็นฝ่ายเอาชนะได้ 45% ของจำนวนนั้น
*สเปนได้ครองบอลเกิน 50% ถึง 19 จาก 20 นัดหลังสุดที่ลงเตะในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ โดยเกมเดียวที่ยกเว้นคือนัดชิงชนะเลิศยูโร 2008 ที่พบกับเยอรมนี ซึ่งสเปนได้ครองบอลน้อยกว่าที่ 46%