10 ค่าตัวแพงสุดแห่งพรีเมียร์ลีก
ฟุตบอล : ซัมเมอร์ปี 2013 ศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกหนังโลก เมื่อสร้างสถิติซื้อ-ขายกระจายเป็นมูลค่ามากกว่า 700 ล้านยูโร สูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งพรีเมียร์ลีก และสูงที่สุดในโลกของฟุตบอล
ปีนี้เป็นปีของเวิลด์เร็คคอร์ด ค่าตัวแพงที่สุดในโลกได้เกิดขึ้นแล้ว (แกเร็ธ เบล จาก สเปอร์ส ไป เรอัล มาดริด) ตามด้วยอีกมากมายหลายสถิติ นักเตะค่าตัวเกินกว่า 40 ล้านยูโร เกิดขึ้นเป็นว่าเล่น ราวกับกับว่าค่าตัวนักเตะสมัยนี้มันชักเฟ้อขึ้นเรื่อยๆ
วันนี้เราจะไปดู 10 นักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดบนเวทีพรีเมียร์ลีกกันครับ หน่วยเงินใช้เป็นยูโรนะครับ (1 ยูโร = 42 บาท)
10. มามาดู ซาโก้
(ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไป ลิเวอร์พูล 19 ล้านยูโร)
ย้ายในวันสุดท้ายของตลาดซื้อขายนักเตะซาโก้ ถือเป็นปราการหลังอนาคตไกล เขาแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ เปแอสเช ในฐานะดาวรุ่งห่งยุค แต่การที่ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ซื้อผู้เล่นเกมรับเข้าสู่ทีมมากมายช่วง 2-3 ปีหลัง ทำให้ ซาโก้ ต้องเสียตำแหน่งไป และกลายเป็น ลิเวอร์พูล ที่ชนะเลิศคว้าตัวปราการหลังวัย 23 ปี ไปร่วมทัพ
9. เปาลินโญ่
(โครินเธียนส์ ไป สเปอร์ส 20 ล้านยูโร)
เริ่มสร้างชื่อขึ้นมาเมื่อครังพา โครินเธียนส์ ปราบ เชลซี ในนัดชิงฟีฟ่า คลับเวิลด์คัพ ก่อนจะแจ้งเกิดแบบเต้มตัวกับทีมชาติบราซิล ชุดแชมป์ฟีฟ่า คอนเฟเดอเรชั่นส คัพ ลงเล่นเป็นตัวจริงทุกนัด ต้องบกว่า สเปอร์ส ตาแหลมคมมากที่มือไวคว้า เปาลินโญ่ มาร่วมทีม และเวลานี้เขาคือผู้เล่นตัวจริงในแผงมิดฟิลด์ของ "ไก่เดือยทอง" เรียบร้อย
8. อันเดร ชูร์เล่
(ไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น ไป เชลซี 21 ล้านยูโร)
ชูร์เร่ แจ้งเกิดขึ้นมากับ ไมนซ์ 05 ช่วงปี 2010-2011 ก่อนเจ้าตัวจะเสี่ยงมาลัยเลือกย้ายไป เลเวอร์คูเซ่น แถมยังรักษาฟอร์มดีอย่างต่อเนื่อง จนก้าวขึ้นไปติดทีมชาติเยอรมันชุดใหญ่ ประกอบกับวัยเพียงแค่ 22 ปี ไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่จะเป็นการซื้ออนาคตของทีมเชลซี อย่างแท้จริง
7. อัลบาโร่ เนเกรโด้
(เซบีย่า ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 23 ล้านยูโร)
นี่คือกองหน้าตัวเป้าอย่างแท้จริง โดดเด่นทั้งลูกยิงที่ทรงพลัง แถมด้วยการเหาะเหินเดินอากาศ เนเกรโด้ คือดาวยิงที่เรอัล มาดริด ไม่เห็นคุณค่า เขาเลือกไปสร้างชื่อกับ อัลเมเรีย และเซบีย่า สุดท้ายเป็น "เรือใบสีฟ้า" ที่ได้ตัวไปชนิดไร้คู่แข่ง และตอนนี้ เนเกรโด้ ก็พังประตูแรกภายใต้สีเสื้อแมนฯ ซิตี้ ได้แล้วด้วย
6. สเตฟาน โยเวติช
(ฟิออเรนตินา ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 25.5 ล้านยูโร)
โยเวติช คือกองหน้าที่กุนซือทุกคนต้องการร่วมงานด้วย "โยโย่" มีคุณสมบัติทุกอย่างในตัวเอง การลงมาเชื่อมเกม, เปิดป้อนบอลให้เพื่อน และการยิงประตูที่เด็ดขาด "เรือใบสีฟ้า" สามารถเอาชนะ ยูเวนตุส และอาร์เซนอล ในการชิงตัว โยเวติช แต่ที่น่าสงสัยก็คือทำไมถึงตรงนี้เขายังไม่ได้ลงเล่นเลยสักนัดเดียว??
5. เอริค ลาเมล่า
(โรม่า ไป สเปอร์ส 30 ล้านยูโร)
สเปอร์ส เร่งมองหาตัวแทนของ แกเร็ธ เบล อย่างเต็มที่ ก่อนที่จะมาได้ตัวแทนคือ เอริค ลาเมล่า เขาเป็นผู้เล่นริมเส้นยุคใหม่ ถนัดเท้าซ้ายแต่ประจำการอยู่ทางปีกขวา ทีเด็ดของดาวรุ่งอาร์เจนไตน์คือการปั่นบอลโค้ง เขาทำได้บ่อยครั้งกับ โรม่า เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
5. โรแบร์โต้ โซลดาโด้
(บาเลนเซีย ไป สเปอร์ส 30 ล้านยูโร)
สาเหตุหลักๆ ที่ทำให้ สเปอร์ส ยอมทุ่มเงินซื้อ โซลดาโด้ มาร่วมทัพ เป็นเพราะว่ากองหน้าที่มีอยู่ในทีมฝากผีฝากไข้ไม่ค่อยได้ เม็ดเงิน 30 ล้านยูโร ที่จ่ายให้ บาเลนเซีย น่าจะช่วยให้ "ไก่เดือยทอง" มีเกมรุกที่เด็ดขาดมากขึ้น จุดเด่นของ โซลดาโด้ อยู่ที่จังหวะพังประตูในกรอบเขตโทษ
4. มารูยาน เฟลไลนี่
(เอฟเวอร์ตัน ไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 32 ล้านยูโร)
กว่าที่ "ปีศาจแดง" จะรู้ตัวว่ากองหลังยวบยาบขนาดไหน ต้องรอให้แพ้ ลิเวอร์พูล ก่อนหรืออย่างไร แถมกว่าจะได้ตัวก็ต้องรอจนถึงวินาทีสุดท้าย เฟลไลนี่ น่าจะเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระแดนกลางของ ไมเคิ่ล คาร์ริค ที่แทบจะรับบทหนักอยู่คนเดียว เขาถือเป็นมิดฟิลด์ที่ครบเครื่องมากคนหนึ่ง แถมหัวยังฟูอีกต่างหาก!
3. วิลเลี่ยน
(ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค ไป เชลซี 38 ล้านยูโร)
ปีกชาวบราซิเลี่ยน แจ้งเกิดเป็นพลุแตกกับ ชัคเตอร์ฯ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ เชลซี ฤดูกาลที่ผ่านมา เขาสามารถยิงประตูใส่ "สิงโตน้ำเงินคราม" ได้ด้วย ฉะนั้นไม่ต้องแปลกใจเมื่อสบโอกาส เชลซี จึงรีบตว้าตัวทันที แถมเป็นการปาดหน้า สเปอร์ส คู่ปรับร่วมเมืองอีกต่างหาก
2. แฟร์นานดินโญ่
(ชัคเตอร์ โดเน็ส์ค ไป แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 40 ล้านยูโร)
มิดฟิลด์สัญชาติบราซิล ออกจะโนเนมไปสักนิดหากเทียบค่าตัว 40 ล้านยูโร อย่างไรก็ตามเขาย้ายมาพร้อมกับแย่งตำแหน่งตัวจริงไปจาก แกเร็ธ แบร์รี่ ในทันที และเวลานี้เขาคือคู่หุในแดนกลางของ ยาย่า ตูเร่ กองกลางเบอร์ 1 ของทีม สไตล์วิ่งสู้ฟัดของเขาเอาชนะใจผู้เป็นกุนซือได้ไม่ยาก
1. เมซุต โอซิล
(เรอัล มาดริด ไป อาร์เซน่อล 50 ล้านยูโร)
ไม่มีสัญญาณอะไรบ่งชี้มาก่อนเลย สำหรับซูเปอร์ดีลครั้งนี้ เพราะจู่ๆ อาร์เซนอล ก็โผล่มาคว้าตัวกองกลางทีมชาติเยอรมัน ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขาย ค่าตัวเป็นสถิติสโมสร พร้อมด้วยคาดหวังถึงโทรฟี่แชมป์ ที่น่าจะทำให้สาวก "ไอ้ปืนใหญ่" กลับมามีลุ้นคว้ามสำเร็จอีกครั้ง
เรื่องโดย "บุญเติม"