โพลดี้+ชิรูด์=อาร์วีพี

ช่วงเดือนที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแส "ยูโรฟีเวอร์" มันแรงแซงกลบทุกอย่างได้หมดจริงๆ

หันไปทางไหน สื่อใด ก็มีแต่ประโคมข่าว ฟุตบอลยูโร กันแทบทั้งสิ้น เล่นเอาเบื่อเอาเลี่ยนกันไปข้าง

ยิ่งตอนนี้เข้าสู่โค้งสุดท้าย มาถึงรอบรองชนะเลิศ ความน่าสนใจ ความเร้าใจ ก็ยิ่งทวีคูณให้น่าติดตามหนักขึ้นไปทุกทีๆ

พูดแล้วก็น่าเสียดายแทน อังกฤษ ทีมขวัญใจมหาชนชาวไทย ที่ไปไม่ถึงฝั่งฝัน (อีกแล้ว) หลังโชคไม่ดีกระเด็นตกรอบ 8 ทีม (อีกแล้ว) เนื่องจากไปดวลจุดโทษแพ้ (อีกแล้ว) ต่อ อิตาลี ด้วยประตูรวม 2-4

ไม่รู้ว่ามันเป็นอาถรรพ์หรืออย่างไร ยิงจุดโทษคราวใด "สิงโต" ไม่ค่อยจะคำรามกับเขาซักที แพ้หนนี้เป็นครั้งที่ 6 จาก 7 ครั้งหลังสุดเข้าไปแล้ว

ส่วนคู่ชิงนั้นจะเป็นสองทีมใด และสุดท้ายชาติไหนจะได้ผงาดชูถ้วยแชมป์ แฟนบอลอย่างเราๆก็ต้องตามลุ้น ตามเชียร์กันต่อไป

แต่สำหรับหน้ากระดาษฉบับนี้ ขอหลีกหนี ยูโร กันซักนิด ลองไปส่องกล้อง มองตลาดซื้อขายนักเตะของเหล่าสโมสรดังในยุโรปกันดูซักหน่อย

ชั่วโมงนี้ใครเป็นสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" ก็คงจะยิ้มปากบานไปยันรูหู เพราะทีมรักเดินเกมฉับไว คว้าสตาร์ดังมาเสริมทัพแล้วถึง 2 คน

 

ไม่เหมือนฤดูกาลก่อนที่เสียตัวเก่งอย่าง เชส ฟาเบรกาส และ ซาเมียร์ นาสรี่ แต่ไม่ซื้อเพิ่ม ต้องไปโดน "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปล่อยของทะลวงดากไหม้ 2-8 ถึงจะรู้ตัว

วันสุดท้ายเทกระจาดจัดหนักคว้าทีเดียว 5 คนรวด จนทำให้ทีมพลิกสถานการณ์จากท้ายตารางกลับมาคว้าโควตา ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้แบบฉิวเฉียด

ทว่าหนนี้ไม่เป็นเช่นนั้น อาร์แซน เวนเกอร์ ไม่เคี้ยวหมากรอต่อราคาให้เมื่อยตุ้ม จัดการฉก ลูคัส โพดอลสกี้ และ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ มาอย่างรวดเร็ว

ถือว่าเป็นการซื้อตัวที่ถูกจุด และถูกใจแฟนปืนไม่น้อย

อย่างที่เราเห็นและเข้าใจกันดี ฤดูกาลที่ผ่านมา กองหน้าของ อาร์เซนอล นอกจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่เล่นยิงเป็นไฟพะเนียงอยู่คนเดียวแล้ว

ศูนย์หน้าที่เหลือแทบฝากความหวังไม่ได้เลย

 

74 ประตูที่ขุนพล "ปืนใหญ่" ยิงได้ในพรีเมียร์ลีก เป็นผลงานของ "อาร์วีพี" คนเดียวเกือบครึ่ง!!! (30 ประตู)

ดังนั้นการเข้ามาของทั้ง โพลดี้ และ ชิรูด์ จึงเป็นเหมือนการเกาถูกที่คัน แม้ว่าทั้งคู่อาจจะไม่ใช่กองหน้าเกรด เอ แต่ก็เป็น บี+ ที่ไว้ใจได้

สถิติการถล่มประตูที่ผ่านมาถือว่ามีดีกรี โพดอลสกี้ แม้ว่าจะไม่สามารถช่วยให้ "แพะบ้า" โคโลญจน์ รอดตกชั้น แต่ 18 ประตูในบุนเดสลีกา ก็ถือว่าหรูหราไม่ธรรมดา

ส่วน ชิรูด์ มาอย่างหล่อ 21 ประตู เป็นดาวซัลโวร่วม พร้อมทั้งพา มงต์เปลลิเยร์ ผงาดคว้าแชมป์ลีก เอิง เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร

ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร หาก "เดอะ กันเนอร์ส" จะคาดหวังให้ 2 หัวหอกตัวใหม่ถล่มประตูแบบถล่มทลายให้กับทีม

อย่างไรก็ตามสิ่งที่ "ปืนใหญ่" เป็นกังวลกันมาก คือการที่ เวนเกอร์ ตัดสินใจเสริมกองหน้าฝีเท้าดีมีระดับมาถึง 2 คน มันเป็นสัญญาณอะไรเกี่ยวกับ ฟาน เพอร์ซี่ หรือไม่

1.ซื้อเพื่อมาเป็นตัวแทนของ "อาร์วีพี" ที่ตัดสินใจแล้วว่าจะย้ายทีม

2.ซื้อเพื่อมัดใจให้ "อาร์วีพี" อยู่ต่อ แสดงให้เห็นว่าทีมมีความทะเยอะทะยาน

 

ทุกอย่าง ณ ตอนนี้มีโอกาสเป็นไปได้หมด จนกว่าที่ ฟาน เพอร์ซี่ จะต่อสัญญา หรือไปชูเสื้อใหม่กับทีมอื่น

หรืออาจจะดราม่า ไม่มีต่อสัญญา ไม่มีย้าย อาร์เซนอล ยอมใช้งานอีกปี แล้วตัดใจเสียฟรีในซัมเมอร์หน้าก็เป็นได้

ถามถึงหัวอกแฟนปืนไม่มีใครอยากเสียกองหน้าตัวเก่งของทีมไปแน่ แต่ถ้าเสียไปจริง ต้องดูว่าการจับคู่กันระหว่าง โพลดี้ และ ชิรูด์ จะสามารถแทนที่ได้ดีแค่ไหน

ดูๆไปแล้วก็ถือว่าเสี่ยงไม่น้อย อย่าง โพดอลสกี้ เอง ตอนย้ายไปเล่นให้กับ บาเยิร์น มิวนิค ที่เป็นบิ๊กทีมก็ดูจะไม่สวยงามนัก และยิ่งเป็นครั้งแรกที่ย้ายออกมาเล่นในต่างแดน ก็คงต้องลุ้นกันว่าจะมีปัญหาเรื่องการปรับตัวหรือไม่

ขณะที่ ชิรูด์ ยิ่งอันตรายกว่า เพราะประสบการณ์ผ่านเกมระดับชาติยังน้อย กับทีมชาติ ฝรั่งเศส ในยูโร 2012 ก็เป็นเพียงตัวสำรอง แม้จะมีรางวัลการันตีจากลีกเอิง แต่หลายฝ่ายก็กลัวจะท่าดีทีเหลวเหมือน มารูยาน ชามัค ที่โดนวิญญาณสากเข้าสิงห์ไปแล้ว

แต่ถ้าเกมพลิก อาร์เซนอล ได้ข่าวดี อาร์วีพี ขออยู่ต่อ คำถามใหม่ผุดในหัวทันทีว่า เพอร์ซี่, โพลดี้ และ ชิรูด์ จะสามารถเล่นร่วมกันได้หรือไม่

โดยทรรศนะส่วนตัวคิดว่าเล่นกันได้ ถ้าเทียบสไตล์การเล่นแล้ว ชิรูด์ มีความชัดเจนที่สุด เขาเป็นกองหน้าตัวใหญ่ ถนัดเล่นหน้าเป้า มีจุดเด่นอยู่ที่การเข้าฮอตและการจบสกอร์

แต่กับ โพดอลสกี้ และ ฟาน เพอร์ซี ถือว่ามีความยืดหยุ่นสูง เล่นได้หมดในตำแหน่งตัวรุก ไม่ว่าจะเป็น หน้าเป้า, หน้าต่ำ รวมถึงปีก 2 ข้าง

ดังนั้นลองจำแนกการเล่นร่วมกันทั้ง 3 คนออกมาแบบนี้ก็ดูจะโอเคไม่น้อย

แผน 1 (4-3-3)

โพดอลสกี้   ชิรูด์   ฟาน เพอร์ซี่

แผน 2 (4-3-1-2)

โพดอลสกี้   ชิรูด์
ฟาน เพอร์ซี่

แผน 3 (ระบบ 4-2-3-1)

ชิรูด์
โพดอลสกี้   ฟาน เพอร์ซี่   วัลค็อตต์

อย่างไรก็ตามทั้ง 3 แผนจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ คำตอบอยู่ในใจของหัวหอกดัตช์แมนเพียงคนเดียวเท่านั้น

แต่สำหรับผมในฐานะของ "กันเนอร์ส" เฉกเช่นแฟนปืนทั่วไป คงต้องภาวนาและหวังให้คำตอบมันเป็นบวกด้วยเถ้อ สาธุๆ

เรื่องโดย "เกื้อ บ้านไกล"