39เมือง 32ชาติร่วมชิงสิทธิ์เจ้าภาพยูโร2020
39 เมือง จาก 32 ประเทศ ร่วมชิงสิทธิ์ ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรอบสุดท้ายฟุตบอลยูโร 2020 'อังกฤษ-สกอตแลนด์-เวลส์-ไอร์แลนด์' ส่งครบ
บีบีซี สปอร์ต รายงานว่า 4 ชาติในสหราชอาณาจักร ประกอบด้วย อังกฤษ, สกอตแลนด์, เวลส์ และไอร์แลนด์ ต่างพร้อมใจกันส่งเมืองสำคัญ เข้าร่วมชิงสิทธิ์ในการเป็นเมืองหลัก 13 เมือง ที่จะได้รับให้จัดการแข่งขัน ฟุตบอลยูโร 2020 ซึ่งจะเป็นปีที่มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันเพื่อฉลอง 60 ปี สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า)
รายงานระบุว่า อังกฤษ เลือก ลอนดอน, เวลส์ ส่ง คาร์ดิฟฟ์, สกอตแลนด์ ใช้ กลาสโกวส์ และดับลิน ของไอร์แลนด์ ในการประกวดเพื่อชิงสิทธิ์ กับอีก 35 เมืองของ 28 ประเทศ โดย ยูฟ่า จะตัดสินว่า 13 เมืองที่จะได้สิทธิ์ ในเดือนกันยายน ปี 2014 ซึ่งแบ่งเป็น 12 เมือง ที่ได้จัดรอบแบ่งกลุ่ม 3 นัด และรอบน็อคเอาท์ 1 นัด กับอีก 1 เมือง ที่จะได้จัดเกมรอบรองชนะเลิศทั้ง 2 นัด และเกมนัดชิงชนะเลิศ
ทั้งนี้ สเปน เป็นชาติที่ส่งเมืองร่วมชิงสิทธิ์การเป็นเจ้าภาพมากที่สุดถึง 4 เมืองประกอบด้วย มาดริด,บาร์เซโลนา,บิลเบา และ บาเลนเซีย ส่วน โปรตุเกส, โปแลนด์ และ อิตาลี ส่งชาติละ 2 เมือง
สำหรับ 39 เมือง จาก 32 ชาติ ที่เข้าร่วมชิงสิทธิ์ มีดังนี้
อาร์เมเนีย (เยเรวาน), อาเซอร์ไบจาน (บากู), เบลารุส (มินส์ก), เบลเยียม (บรัสเซลส์), บัลแกเรีย (โซเฟีย), โครเอเชีย (ซาเกร็บ), เช็ก (ปราก), เดนมาร์ก (โคเปนฮาเกน), อังกฤษ (ลอนดอน), ฟินแลนด์ (เฮลซิงกิ), ฝรั่งเศส (ลียง), มาเซโดเนีย (สค็อปเย), เยอรมนี (มิวนิค), กรีช (เอเธนส์), ฮังการี (บูดาเปสต์), อิสราเอล (เยรูซาเล็ม), อิตาลี (โรม, มิลาน), คาซัคสถาน (อัสตานา), ฮอลแลนด์ (อัมสเตอร์ดัม), โปแลนด์ (วอร์ซอว์, ชอร์ซอฟ), โปรตุเกส (ลิสบอน, ปอร์โต),ไอร์แลนด์ (ดับลิน), โรมาเนีย (บูคาเรสต์), รัสเซีย (เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก), สกอตแลนด์ (กลาสโกลว์), เซอร์เบีย (เบลเกรด),สเปน (มาดริด, บาร์เซโลนา, บิลเบา, บาเลนเซีย), สวีเดน (โซลนา), สวิตเซอร์แลนด์ (บาเซิล), ตุรกี (อิสตันบูล), ยูเครน (เคียฟ, โดเน็ตส์ค), เวลส์ (คาร์ดิฟฟ์)