เหมือนจะเห็น 'ชไมเคิ่ล' ในร่าง 'เด เคอา'
ฟุตบอล : สวัสดีครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย กลับมาพบกันอีกเช่นเคยกับข่าวคราวในแวดวงฟุตบอลต่างประเทศในช่วง 7 วันที่ผ่านมา เรื่องที่ฮือฮามากที่สุดก็คงจะเป็น อัดนาน ยานูซาจ กับสองประตูประเดิมแมตช์แรกในพรีเมียร์ลีก เรียกได้ว่าหล่อขึ้นเป็น 10 เท่าก็คงไม่ผิดนัก
อัดนาน ยานูซาจ, อัดนาน ยานูซาย, อัดนาน จานูซาจ, อัดนาน จานูซาย, อัดนาน ยานูไซย์ ฯลฯ ณ เวลานี้ก็ยังไม่มีข้อสรุปเป็นที่แน่นอนว่า การเขียนและการอ่านที่ถูกต้องคือคำไหนกันแน่ เอาเป็นว่าวันนี้ขอเรียก ยานูซาจ (ออกเสียงตามภาษาอังกฤษ) ไปก่อนละกันนะครับ
เด็กคนนี้ไม่ธรรมดานะครับ (มองกันแบบเป็นกลาง ตัดชื่อสโมสรทิ้งไป) หากใครได้ดูฟอร์มการเล่นมาก่อนหน้านี้จะเห็นเลยว่ามีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง เล่นได้นิ่งเกินวัยอย่างเห็นได้ชัด พกความมั่นใจมาเต็มกระเป๋ากางเกง อาจมีลูกโฉ่งฉ่างและขี้เลี้ยงไปบ้างในบางจังหวะ แต่ประตูที่ 2 ในเกมกับ ซันเดอร์แลนด์ ก็บอกพวกเราได้ว่า เด็กคนนี้มีการตัดสินใจที่ดี
แต่ก่อนที่ 2 ประตูของ ยานูซาจ จะเกิดขึ้น... ในช่วงครึ่งแรกของเกมที่ สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์ ได้มีลูกที่ทำให้ผมถึงกับอุทานในใจเบาๆว่า เห้ย! เซฟได้ไงวะ นั่นก็คือ จังหวะการสปริงตัวพุ่งบินปัดลูกโหม่งของ เอ็มมานูเอเล่ จัคเครินี่ โดยผู้รักษาประตูที่ชื่อ ดาบิด เด เคอา นายทวารวัยละอ่อนชาวสเปน
ช็อตนี้เกิดขึ้นเร็วมาก เด เคอา แสดงให้เห็นถึงปฎิกิริยาที่ยอดเยี่ยม สายตาและความไวช่วยให้ทีมรอดพ้นจากการเสียประตู ซึ่งหากลูกนี้ เด เคอา เซฟไม่ได้ "แมวดำ" อาจหนีห่างไปเป็น 2-0 และอาจทำให้ "ปีศาจแดง" ไม่สามารถพลิกสถานการณ์กลับมาเก็บชัยชนะได้แบบที่เกิดขึ้น
มีข่าวออกมาว่า เดวิด มอยส์ นายใหญ่ของทีมได้กล่าวชื่นชม เด เคอา ตังแต่ในห้องแต่งตัวช่วงพักครึ่งแล้วว่า "ลูกที่นายเซฟนั้น เป็นการช่วยชีวิตพวกเราไว้" แสดงให้เห็นว่าลูกนี้สำคัญจริงๆ
ไม่เพียงเท่านั้น "ยักษ์เดนส์" ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล อดีตนายทวารระดับตำนานของ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ทนไม่ไหวที่จะขอออกมากล่าวชื่นชมโกล์รุ่นน้องรายนี้ว่า "นี่เป็นลูกเซฟที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาเลยทีเดียว" ก็ไม่รู้ว่าจะอวยกันเกินไปหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เด เคอา หล่อขึ้นในช่วงข้ามคืน ซึ่งหากว่า ยานูซาจ ไม่ได้ยิง 2 ประตูในเกมนี้ เด เคอา ก็คงเป็นพระเอกไปแล้ว
ผู้เขียนจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้ชมเกมคู่ระหว่าง อินเตอร์ มิลาน พบกับ แอตเลติโก มาดริด ในศึกยูฟ่า ซูเปอร์คัพ ซึ่งในตอนนั้น เด เคอา ยังเป็นโกล์มือหนึ่งให้ "ตราหมี" ส่วนทีม "งูใหญ่" ก็มี ฮูลิโอ เซซาร์ เป็นผู้รักษาประตู ดีกรีตอนนั้นต่างกันเยอะมาก แต่เล่นไปเล่นมากลับกลายเป็น เด เคอา ที่โชว์ฟอร์มได้ดีกว่าจนในที่สุด แอต.มาดริด ก็เอาชนะไปด้วยสกอร์ 2-0
เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เฝ้าติดตามฟอร์มของนายทวารหุ่นเพรียวรายนี้มาตลอด จนในที่สุดก็แน่ใจว่า เด็กคนนี้แหละ คือตัวแทนของ เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ในอนาคต และวันนี้ เด เคอา ก็เริ่มฉายแววให้ทุกคนเห็นแล้วว่าทำไม แมนฯ ยูไนเต็ด ถึงยอมทุ่มเงินกว่า 17.8 ล้านปอนด์ เพื่อแลกกับการได้ตัว เด เคอา เข้ามาเป็นปราการด่านสุดท้ายในทีม
เด เคอา ในวัย 22 ปี ยังมีเวลาให้พัฒนาและพิสูจน์ตัวเองอีกมากมาย เขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้รักษาประตูในระดับที่ ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล เคยเป็นได้ ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เขาต้องเรียนรู้ ซึ่งแน่นอนว่าหากทีมฟุตบอลทีมไหนมีผู้รักษาประตูที่ไว้ใจได้แล้วล่ะก็ เพื่อนร่วมทีมก็อุ่นใจและทำให้สามารถเล่นได้อย่างสบายใจ ชไมเคิ่ล เคยก้าวไปถึงระดับที่ กองหน้าของทีมคู่แข่งต่างก็กลัวเมื่อต้องเผชิญหน้ากับเขาแบบตัวต่อตัว ซึ่งในสมัยนี้หาผู้รักษาประตูแบบนั้นได้ยากแล้ว
คุณยังจำ ฟาเบียง บาร์เตซ นายทวารดีกรี "แชมป์โลก" ได้หรือไม่ ... เชื่อว่าหลายคนคงยังจำกันได้ ทุกครั้งที่กองหลัง (โดยเฉพาะ เวส บราวน์) ส่งบอลคืนให้กับผู้รักษาประตูทีไร หัวใจมันเสียวแปล๊บทุกที เรียกได้ว่าหลอนกันเป็นปีๆ กว่าอาการนี้จะหายไป ซึ่งแน่นอนว่าความมั่นใจมีส่วนสำคัญมากต่อคนที่ทำหน้าที่ "รักษาประตู"
และแน่นอนว่าตำแหน่งผู้รักษาประตูนั้น ต่อให้เซฟได้ดีมาตลอดทั้งฤดูกาล เซฟลูกยากมาตลอดทั้งปี แต่ถ้าพลาดลูกง่ายๆ เพียงแค่ครั้งเดียว คุณก็อาจตกเป็นเป้าโจมตีจากทุกฝ่ายได้ในทันที คนจะเป็นผู้รักษาประตูที่ดีได้จะต้องมีจิตใจที่แข็งแกร่ง ทนแบกรับความกดดันและแรงเสียดทานจากสิ่งต่างๆได้
ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ปีเตอร์ ชไมเคิ่ล ก็เป็นผู้รักษาประตูคนหนึ่งที่มีคุณสมบัติครบถ้วน !!!