ชายผู้ควรได้ตั๋วไปบราซิล

 

ปฏิเสธไม่ได้จริงๆ ว่าการไหลเวียนเปลี่ยนแปลงของกระแสสังคมทำให้จิตใจคนผกผันอย่างรวดเร็ว จากอินเตอร์เน็ตระดับ 56k ต่อผ่านสายโทรศัพท์ที่หลุดมากกว่าติด

ทุกวันนี้เรามี 3G (ปลอมๆ) ที่ปลายนิ้วสัมผัสก็เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้อย่างรวดเร็วทันใจ

จนความอดทนของเราน้อยลงไปทุกที และอารมณ์ชั่ววูบก็วูบไหวแรงจนเกือบจะลืมขันติ

 

 

ตัวแปรมากมายที่เกิดขึ้นนอกจากเรื่องของความอดทน คือเงิน และความสำเร็จที่ล่อตาล่อใจในปริมาณมหาศาลก็ทำให้ผู้คนตัดสินใจเลือกมีทาง เลือกที่น่าจะดีกว่า ทำให้เราแทบไม่เห็นนักเตะอย่าง ไรอัน กิ๊กส์ ที่ประกาศชัดแจ้งว่าขอเล่นให้เพียง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปจนหมดลมหายใจ หรือ เปาโล มัลดินี่ ที่อยู่สวมเสื้อ เอซี มิลาน มาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก หรือแชมป์ว่าว!

 

ฟรานเชสโก้ ต็อตติ เป็นอีกหนึ่งแข้งที่กลายเป็น แรร์ ไอเท็ม ผู้จงรักภักดีและเป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของวงการลูกหนังในยุคนี้ กาลเวลาผันผ่าน ขึ้นและลง มีช่วงที่ดีและร้าย แต่เขาคือผู้ที่ยืนหยัดอยู่กับ "จัลโล่รอสซี่" จนทุกคนยกย่องให้เขาครองบัลลังก์ "เจ้าชายหมาป่า" ณ อาแอส โรม่า ซึ่งถ้าต่อไปได้เป็นผู้อำนวยการ บอร์ดบริหาร และประธานสโมสรตามลำดับ เขาอาจยกระดับเป็ย "ราชาหมาป่า" ได้

 

 

ด้วยวัย 37 ปี ต็อตติ คือรองดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลของ เซเรีย อา ที่แม้โอกาสจะทำประตูทะลุเป้า ซิลวิโอ ปิโอล่า จะดูยากลำบาก เพราะมี 230 ประตู ตามหลังถึง 44 ตุง แต่ไม่ได้แปลว่าเป็นไปไม่ได้ ถ้ายังรักษาความฟิต และลงเล่นเป็นตัวจริงบ้างสำรองบ้าง แต่เป็นสำรองที่มีทีเด็ดซ่อนไว้ แบบที่แค่เห็นหน้าในสนามคู่แข่งก็ขนลุก

 

ฤดูกาลผ่านไปจนตอนนี้ 7 เกม ดาวเตะประสบการณ์สูงทำไปแล้ว 3 ประตู คิดเป็น 1 ใน 4 ของเมื่อซีซั่นที่แล้ว ถ้ายังรักษาความคงเส้นคงวาไปเรื่อยๆ คาดว่าไม่เกิน 30 เกมลีก เขาก็จะยิงได้อย่างน้อย 10 ประตู และระดับความเร็วของเกมลูกหนังแดนมะกะโรนีที่ไม่ได้รวดเร็วเฟี้ยวฟ้าวแบบ อังกฤษ น่าจะช่วยให้อายุการใช้งานของ ต็อตติ ยืนยาวได้ไม่แพ้ ไรอัน กิ๊กส์ 

 

ถามถึงความสามารถ ไม่ต้องตอบเลย เรารู้ดีว่าเขาคือยอดดาวยิง เป็นหนึ่งในไม่กี่รายประจำทัพ "อัซซูรี่" ที่วางบอลตรงจุด 12 หลาเมื่อไรก็ใส่สกอร์ได้ทันที เทียบกับค่าเฉลี่ยของแข้งเลี่ยนที่สังหารลูกโทษไม่เอาอ่าว ต็อตติ คือเพชฌฆาตขนานแท้ และเป็นหนึ่งในผู้ที่ฉายแสงมาตั้งแต่ชุดเยาวชน ไล่ตั้งแต่ชุดแชมป์ ยูโร ยู21 เมื่อปี 1996

ถ้าจะให้ไล่เรียงความสำเร็จคงมีมากมายจนพื้นที่ประจำวันนี้ไม่พอแน่ แต่ที่สุดยอดที่สุดสำหรับพ่อค้าแข้งสักคน คงหนีไม่พ้นแชมป์โลก เวิลด์ คัพ 2006 ซึ่งเขาเป็นตัวจริง แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ร่วมวงยิงเป้าฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม "อัซซูรี่" ชุดนั้นสร้างความฉงนด้วยการไม่พลาดจุดโทษเลย (ฮา) 

 

จบจากการฉลองแชมป์โลกอย่างยิ่งใหญ่เมื่อปี 2006 ต็อตติ ยังไม่เคยติดธง "อัซซูรี่" อีกเลย อาจเป็นเพราะเข้าสู่วัยเลข 3 ทำให้ โรแบร์โต้ โดนาโดนี่ มองข้าม และแม้ มาร์เซโล่ ลิปปี้ จะกลับมาอีกครั้งเพื่อกู้วิกฤตใน เวิลด์ คัพ 2010 ที่แอฟริกาใต้ แต่ทุกอย่างก็ล่มสลายพร้อมกับเสียงวิจารณ์ว่า อิตาลี แก่เกินแกง ทำให้ทุกคนที่ก้าวเข้าสามแยกแทบไม่ได้รับการเหลียวแลจาก เชซาเร่ ปรันเดลลี่ กุนซือคนปัจจุบันที่เปลี่ยนปรัชญาการทำทีมเน้นบุก และเห็นความสำคัญของการถ่ายเลือด 

 

 

แต่หลังจากนั่งกุมบังเหียนมาสักพัก โค้ชคนเก่งเจ้าของรางวัล ออสการ์ กัลโช่ 1 สมัยก็คงเล็งเห็นว่า เด็กจะโตไม่ได้ถ้าผู้ใหญ่ไม่ค้ำจุน ทำให้มีการผสมผสานแข้งมากประสบการณ์ แต่คนที่เรียกมาคือตำแหน่งคีย์แมนที่ใครก็แทนไม่ได้อย่าง จานลุยจิ บุฟฟ่อน และ อันเดรีย ปิร์โล่ เท่านั้น

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีแข้งวัย 30 บวกอีกหลายตำแหน่ง แต่ก็เป็นเพียงการเข้ามาสำรอง หรือผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนตามสมควร โดยมีดาวรุ่งและชายวัยฉกรรจ์เป็นแกนหลัก แต่ถ้าพิจารณาให้ดี กองหน้าที่ใช่อย่าง มาริโอ บาโลเตลลี่ ก็ยังมีปัญหาด้านวินัย 

 

ใครว่า ต็อตติ เป็นคนดีมีมารยาท? ก็อาจไม่ใช่เสียทีเดียว เขาเคยเป็นกองหน้าที่ได้ใบแดงมากกว่ากองหลังมาแล้วในการลงเล่น 1 ฤดูกาล แต่ปัจจุบันด้วยภาระหน้าที่และศักดิ์ศรีรวมถึงความกราดเกรี้ยวสมัยหนุ่มก็ น่าจะลดน้อยลง ทำให้เขาดูสุขุมกว่าในวันวาน และแม้จะไม่ได้รับการเรียกตัวเขาแคมป์ อัซซูรี่ มานาน 7 ปี แต่ "เจ้าชายหมาป่า" ยังคงเจาะตาข่ายคู่แข่งรวมทุกรายการนับได้ 120 หน่วย! แบบนี้จะมองข้ามคงต้องคิดหนัก

 

นอกจาก "ลูกโอ้" ที่เป็นคนพิเศษแล้ว อิตาลีมีตัวเลือกในตำแหน่งกองหน้าอีกหลายคน แต่ถ้าวัดกันจริงๆ กับพื้นที่ของ ศูนย์หน้าตัวเป้าชั่วโมงนี้มีเพียง ปาโบล ออสวัลโด้ ที่พอฟัดพอเหวี่ยง แต่ก็โดนครหาจมหู เพราะเกิดที่อาร์เจนติน่า เป็นพวก "เลือดสีโคลน" อีกรายที่ติดโผมาล่าสุดคู่ จูเซ็ปเป้ รอสซี่ ที่เจ็บแล้วเจ็บอีก แต่กำลังเร่งเค้นฟอร์มกลับมาในเวลาที่ขาดแคลนพอดิบพอดี ซึ่งการหายไปนานเกือบ 2 ปีก็อาจทำให้ใครต่อใครไม่มั่นใจนักว่าจะยืนระยะไหวโดยไม่เดี้ยงอีก

 

 

ส่วนบรรดาตัวเก๋าด้วยกันที่มีโอกาสสอดแทรก อัลแบร์โต้ จิลาร์ดิโน่ ดาวยิงสุดหล่อ (แต่ฝีเท้ากลางๆ) อาจจะแข่งบารมีกับ ต็อตติ ยากหน่อย ขณะที่ อเลสซานโดร เดียมันติ ไม่ได้อยู่ทีมใหญ่ แม้จะอายุอานามมาก แต่ประสบการณ์หรือกึ๋นไม่สู้ ต็อตติ แน่นอน ส่วน อันโตนิโอ คาสซาโน่ ดาวยิงสุดซ่าผู้เคยเป็นลูกทีมของ ปรันเดลลี่ ในยุครุ่งเรืองกับ ฟิออเรนติน่า ก็โรยไปเพียบ และเมื่อโดนขายจาก เอซี มิลาน ไม่มีเกมระดับใหญ่ให้เล่น ไม่ได้เซิ้งแข้งร่วมกับ บาโลเตลลี่ โอกาสที่เขาจะกลับมาติดทีมชาติอีกครั้งก็ฝืดมาก อีกรายที่ดูไม่เลวเลยคือ อันโตนิโอ ดิ นาตาเล่ ซึ่งเก่งเสมอวัยแบบสูสี นอกจากจะวัยใกล้กับ ต็อตติ แล้ว ฝีเท้าก็ไม่หนีมาก และมีความสม่ำเสมอจนต้องยกนิ้ว

 

ภายในไม่เกินเดือนม.ค. 2014 ปรันเดลลี่ น่าจะมีสัก 29 รายชื่ออยู่ในใจ แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะทยอยตัดใครไปบ้างก่อนถึงบราซิลในเดือนมิ.ย. ปีเดียวกัน ซึ่งสำหรับตำแหน่งกองหน้า เมื่อถึงเวลานั้น ต็อตติ อาจจะดูเหมือนกรำศึกกับ โรม่า จนผู้ชมเริ่มไม่ใน่ใจว่า เขาคือตัวเลือกที่ดีหรือไม่ ดังนั้นทางออกก็คือ ปรันเดลลี่ น่าจะคุยกับ รูดี้ การ์เซีย สักหน่อย ว่าขอยืมชายคนนี้ไปลุยแดนกาแฟ ช่วยดูแลให้ด้วยก่อนจะถึง เวิลด์ คัพ เพราะตั๋ว 1 ใบสำหรับบินไปอเมริกาใต้ควรมีโควต้าของยอดดาวยิงที่ชื่อ ฟรานเชสโก้ ต็อตติ อยู่ด้วย!