วรวีร์ นั่งนายก ส.ฟุตบอลไทยต่อหลังลต.ชนะวิรัช

ผลเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ มีมติด้วยคะแนน 42 ต่อ 28 เลือก 'วรวีร์ มะกูดีง เป็นนายกสมาคมฟุตบอลอีก 1 สมัย ขณะ ผู้สมัครบางคนรู้สึกผิดหวัง เชื่อไม่โปร่งใส จ่อฟ้องศาลแพ่งและอาญาให้การเลือกตั้งเป็นโมฆะ

บรรยากาศล่าสุดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และคณะกรรมการบริหาร
ชุดใหม่ ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน ได้เริ่มขึ้นแล้ว โดยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และผู้แทนสหพันธ์ฟุต
บอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้เชิญทั้ง 72 ทีม เข้าห้องประชุม ขณะเดียวกัน นายวิรัช ชาญพานิชย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ พร้อมด้วย นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร ผู้แทนของสโมสรสุรินทร์ ซิตี้ ได้ทำการประท้วง เพราะถูกตัดสิทธิ์และมีการให้ นายสุนทร มีสุวรรณ อดีตกรรมการบริหารสมาคมฟุตบอล ใช้สิทธิ์แทน ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นเล็กน้อย ก่อนที่ นายวิรัช จะเป็นตัวแทนเข้าไปทวงถามภายในห้องประชุม โดยไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้ารับฟังแต่อย่างใด ล่าสุดผ่านไปกว่า 30 นาทีแล้ว ยังไม่มีคำตอบ

กว่า 1 ช.ม. ยังไร้ข้อสรุปผลเลือกนายกฟุตบอลฯ

ผ่านไปแล้วกว่า 1 ช.ม. สำหรับการประชุมนัดพิเศษ เพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมฯ และกรรมการบริหารสมาคมฯ ชุดใหม่ ซึ่งทำการประชุมแบบปิดไม่ยอมให้สื่อมวลชนเข้าทำรายงานข่าวแต่อย่างใด โดยล่าสุดได้มีการสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมที่เดินเข้าไปเสิร์ฟน้ำ ปรากฏว่ามีการเลือกตั้ง และเริ่มมีการนับคะแนนบ้างแล้ว ในขณะเดียวกันการประท้วงของทาง สุรินทร์ ซิตี้ ที่ทำการประท้วงว่าถูกสวมสิทธิ์นั้น ก็ไม่ได้รับการชี้แจงแต่อย่างใด ซึ่งทำให้ สุรินทร์ ซิตี้, นนทบุรี ยูไนเต็ด, พังงา เอฟซี และ ระยอง ยูไนเต็ด เตรียมจะทำการแถลงข่าวถึงขั้นตอนในการประท้วงผลการเลือกตั้งต่อไป

ล่าสุด!เลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลเสร็จสิ้นแล้ว

ความเคลื่อนไหวล่าสุดการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยคนใหม่ และคณะกรรมการบริหารสมาคมชุดใหม่ โดยเมื่อสักครู่ที่ผ่านมา ส.ส.ชาดา ไทยเศรษฐ์ หนึ่งในผู้สมัครสภากรรมการในทีมของ นายวิรัช ชาญพานิชย์ ออกมาเปิดเผยว่า ได้ลงคะแนนเลือกตั้งในส่วนของตำแหน่งนายกสมาคมและอุปนายกเรียบร้อยแล้ว แต่ขอสละสิทธิ์ในการลงคะแนนในส่วนของสภากรรมการ เพราะตัวเองเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมกันนี้ ส.ส.ชาดา ยังเรียกร้องให้บรรดาสื่อมวลชนแพร่ข่าวสารกระบวนการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่มีการนำบุคคลซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบางสโมสรมาลงคะแนนเลือกตั้ง จนก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ มีการยืนยันจากสื่อข่าวภายในว่า ขั้นตอนการลงคะแนนเสียงทั้งหมดได้เสร็จสิ้นแล้ว และคณะกรรมการการเลือกตั้ง กำลังเตรียมการเพื่อจะทำการนับคะแนนอย่างเป็นทางการ

"วรวีร์" นั่งนายกสมาคมฟุตบอลอีกหนึ่งสมัย

ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลเมืองไทย ที่มีการใช้ธรรมนูญใหม่ของฟีฟ่า ซึ่งบังคับให้มีการใช้เสียง 72 เสียงในการเลือกตั้ง ซึ่งปรากฏว่า นายวรวี มะกูดี สามารถรักษาตำแหน่งไว้ได้อีกสมัย ด้วยคะแนน 42 ต่อ 28 มีบัตรเสีย 2 ใบ ซึ่งภายหลังรู้ผลการเลือกตั้ง นายวิรัช ชาญพานิชย์ หนึ่งในผู้สมัครได้ออกมาแถลงข่าวเปิดใจว่ารู้สึกผิดหวังกับกระบวนการจัดการเลือกตั้งที่ไม่โปร่งใส มีการสวมสิทธิ์และตัดสิทธิ์บางสโมสร พร้อมกันนี้ผู้แทนของสโมสรระยอง ยูไนเต็ด สุรินทร์ ซิตี้ ตรัง เอฟซี และพังงา เอฟซี ได้ร่วมเปิดใจในการแถลงข่าวครั้งนี้ด้วย ว่า จะดำเนินการฟ้องร้องตามประมวลกฏหมายเพ่งและอาญามาตรา 100 เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ โดยจะเริ่มดำเนินการยื่นฟ้องร้องต่อศาลในสัปดาห์หน้า

 

"บังยี"  ยังรักษาเก้าอี้ นายกสมาคมฟุตบอลฯ สมัยที่ 4

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จัดการประชุมใหญ่พิเศษ โดยมีวาระเลือกตั้งหานายกสมาคมฯ ซึ่งครั้งนี้มีการใช้ธรรมนูญใหม่ของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) มาใช้ในการเลือกตั้ง ทำให้สโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ลงคะแนนเหลือเพียง 72 เสียง ซึ่งหลังจากใช้เวลาร่วม 3 ช.ม. ในการลงคะแนนผล ปรากฏว่า "บังยี" วรวีร์ มะกูดี เอาชนะ "บิ๊กกร๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้ท้าชิงไป 42-28 คะแนน โดยมีบัตรเสีย 2 ใบ ส่งผลให้ "บังยี" วรวีร์ ครองเก้าอี้ประมุขลูกหนังไทย เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน

 

เดือด! ก่อนลงคะแนน 6 สโมสร ด.2 โดนสวมสิทธิ์ปลอม

ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ก่อนเลือกตั้ง 2 ช.ม. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วิวัฒน์ชัย กุลมาศ ประกาศผลการอุทธรณ์ของ 6 สโมสร ที่มีปัญหาเรื่องผู้ยื่นลงคะแนน 2 สิทธิ์ทับซ้อนกัน ประกอบไปด้วย สุรินทร์ ซิตี้, นนทบุรี, พังงา ลูกอีสานการบินไทย, ตรัง เอฟซี, ระยอง ยูไนเต็ด ที่ส่งเรื่องว่าเป็นผู้ทำทีมอย่างถูกต้อง แต่กลับโดนตัดสิทธิ์โหวต

โดยผลการอุทธรณ์ มีมติ 2-1 ให้คืนสิทธิ์การเลือกตั้งให้ทั้ง 6 ทีม พร้อมเปิดเผยรายชื่อผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเลือกตั้ง ได้แก่ ระยอง ยูไนเต็ด คือ พินิจ สะศนันท์, นนทบุรี ให้ กานต์ จันทรัตน์, สุรินทร์ ให้ นิรันดร์ กัลยาณมิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์, ตรัง ให้ ธัญญา โพธิ์วิจิตร, ลูกอีสาน การบินไทย ให้ ชัยโชค พุ่มพวง, พังงา ให้ ก่อแก้ว พิกุลทอง มีสิทธิ์ลงคะแนน

 

ทีมโดนปล้นสิทธิ์ โวยผลอุทธรณ์ แต่แห้ว กกต.ยันตามมติ

นายปกรณ์ มุ่งเจริญพร กรรมการผู้จัดการนิติบุคลทีมสุรินทร์ และ นายจำรัส นุ้ยสง่า ตัวแทนสโมสรพังงา ได้ออกมาร้องเรียนกับสื่อว่า ตัวเองโดนตัดสิทธิ์ โดยทั้ง 2 มองว่า ไม่เป็นธรรมเท่าใดนัก เพราะมีการคืนสิทธิ์ให้กับคนที่แขวนชื่อเป็นเกียรติแก่สโมสรเท่านั้น ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับการทำทีม "หากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น มันอาจจะไม่โปร่งใสเท่าใดนัก ผมหวังว่า กีฬาจะสร้างความสามัคคี แต่นี่ความแตกแยกกลับเกิดขึ้น ผมจะเปิดเผยความจริงของการเลือกตั้งครั้งนี้ ให้ชาวสุรินทร์ได้รับรู้"

ประธานสโมสรสุรินทร์ กล่าว นายจำรัส นุ้ยสง่า ตัวแทนจากพังงา เปิดใจว่า "ผมอยากรู้ว่า ก่อแก้ว พิกุลทอง ที่ได้สิทธิ์เลือกตั้ง รู้หรือเปล่าว่า สนามฟุตบอลอยู่ที่ไหน ตอนนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำทีมฟุตบอลของพังงาด้วยซ้ำ"

จากนั้น ทาง "ทนายอ๊อด" ภีมเดช อมรสุคนธ์ นายกสโมสร จ.ระยอง กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ผมรู้ข่าวมาว่า จะมีการล้มเลือกตั้ง ซึ่งก็อาจจะมีมูล เพราะคู่แข่งฝ่ายตรงข้ามกลัวที่จะแพ้การเลือกตั้ง ดูอย่างเรื่องสิทธิ์ที่มีปัญหาตอนนี้ คณะกรรมการได้คืนสิทธิ์โหวตเตอร์ให้กับผู้ทำทีมที่แท้จริงแล้ว แต่มาตอนเช้า มีการกลับลำคำตัดสินเฉยเลย ซึ่งเรื่องนี้มันไม่เป็นธรรมและไม่โปร่งใสแน่นอน เพราะตามระเบียบระบุไว้อย่างชัดเจนว่าผู้มีสิทธิ์โหวตจะต้องเป็นผู้เกี่ยวข้องกับการทำทีมอย่างชัดแจ้งถึงจะมีสิทธิ์แต่นี้มันเกิดอะไรขึ้น กับยกการโหวตให้กับคนที่ๆ ไม่มีส่วนกับทีมได้โหวต เรื่องนี้ต้องมีการฟ้องร้องแน่นอน ระยอง ยูไนเต็ด ก็โดนใครที่ไม่รู้มาโหวตแทน และใช้สิทธิ์แทนด้วย

 

"บิ๊กกร๊อง" เคลียร์ฟีฟ่า-ห้ามนักข่าวเข้าประชุม

"บิ๊กกร๊อง" นายวิรัช ชาญพานิชย์ ผู้สมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ ก็ได้เดินทางมาถึงก่อน และได้มีการเข้าไปพูดคุยกับตัวแทนจากฟีฟ่า เกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งครั้งนี้ ทั้งนี้ ทางฟีฟ่า ยังได้ให้ฝ่ายจัดงานแถลงข่าวประกาศไล่ผู้สื่อข่าวนับ 100 ออกจากห้องแถลงข่าว เนื่องจากเกรงว่าผู้สื่อข่าวอยู่ จะทำงานไม่สะดวก

เช่นเดียวกับทาง "บังยี" นายวรวีร์ มะกูดี ผู้สมัครนายกสมาคมฟุตบอลฯ อีกคน และนายกสมาคมฟุตบอลฯ คนเก่า ก็ได้เดินทางมาถึง แต่ก็ยังไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้น

 

'บังยี' นั่งนายกฯ สมัย 4 หลังปิดห้องโหวตเงียบร่วม 3 ช.ม.

ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้สั่งปิดห้องประชุมเพื่อเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ โดยห้ามไม่ให้
สื่อมวลชนเข้าไปรับฟัง ซึ่งจะมีการโหวตเลือกนายกสมาคมฯ และสภากรรมการฯ ปรากฏว่า ในส่วนของ
นายกสมาคมฟุตบอลฯ "บังยี" วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฯ คนเก่า ได้รับเลือกให้เป็นนายกฯ เป็นสมัยที่
4 ด้วยคะแนน 42-28 เสียง เอาชนะ "บิ๊กกร๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ ผู้ท้าชิง ซึ่งมีบัตรเสีย 1 ใบ และงด
ออกเสียง 1 ใบ จาก 72 เสียง

 

'บิ๊กกร๊อง' ตั้งข้อสงสัยฝ่ายอุทธรณ์อาจเป็นฝั่ง 'บังยี'

"บิ๊กกร๊อง" วิรัช ชาญพานิชย์ กล่าวหลังรู้ผลการเลือกตั้งว่า สโมสรที่โดนตัดสิทธิ์ ที่มีสิทธิ์ซ้ำซ้อนนั้น ตอนแรกได้ยื่นอุทธรณ์ ตั้งแต่เมื่อวันก่อน วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา และได้สิทธิ์คืนมาเรียบร้อย แต่พอตอนเช้ากลับมีคนมาลงชื่อแทน ซึ่งกลับไปคืนสิทธิ์ให้กับอีกฝ่าย จึงได้ยื่นเรื่องไปที่กกต. (คณะกรรมการเลือกตั้ง) ซึ่งกลับบอกว่าได้ตัดสินไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในส่วนของคณะกรรมการอุทธรณ์ ประธาน วรวีร์ มะกูดี เป็นคนเลือก แต่รองประธาน ตนเป็นคนเลือก และอีกคน กรรมการเลือก ซึ่งลงชื่อร่วมกัน ส่งให้ฟีฟ่ารับรอง แต่คณะกรรมการอุทธรณ์ กลับเปลี่ยนจากเดิม กลายเป็นคำสั่งของ องอาจ ก่อสินค้า แทน ที่จริงแล้ว องอาจ ไม่มีสิทธิ์แต่งตั้งในการอุทธรณ์ ครั้งนี้ ก็ไม่น่าเห็นชอบ เพราะฉะนั้นคณะกรรมการ ต้องออกมาชี้แจง ที่จริงแล้วน่าจะเรียนเชิญฟีฟ่ามารับทราบด้วย นโยบายที่ฟีฟ่าบอกว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ต้องเป็นประชาธิปไตย และก็โปร่งใส แต่ก็ต้องบริสุทธิ์ ยุติธรรม แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นมันใช่หรือไม่ เราจึงมาทำเรื่องร้องเรียนต่อกกต.เพื่อให้รับความยุติธรรมแก่ทางเรา เพราะทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้ว

"ผมขอแถลงความรู้สึกและสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่เช้า เรื่องแรก ที่มีความรู้สึกว่ามันไม่ถูกต้อง ก็คือ เรื่องอุทธรณ์ คณะกรรมการอุทธรณ์ให้สิทธิ์และตัดสิทธิ์กับผู้มีอำนาจจริงๆ และพิจารณาอยู่อย่างเดียว ไม่ได้เรียกผู้มีสิทธิ์ตัวจริง น่าผิดหวังว่า กรรมการอุทธรณ์ที่ผม กับ วรวีร์ ได้ส่งลงชื่อเพื่อส่งให้ทางฟีฟ่า แต่กลับมีการเปลี่ยนแปลง เป็นที่น่าสังเกตว่า ทำไมถึงมีการเปลี่ยนแปลง คนที่แต่งตั้งก็คือ องอาจ นี่เป็นกรณีรอง การพิจารณาเรื่องอุทธรณ์ จะต้องมีคู่กรณีมา นี่คือข้อสังเกตที่ผมไม่สบายใจ ผมตั้งข้อสังเกตในสิ่งที่เกิดขึ้น ประเด็นที่ 2 ในสิ่งที่เกิดขึ้น ข้อบังคับตามธรรมนูญฟีฟ่า ผู้ที่เป็นโหวตเตอร์ต้องมีความสัมพันธ์กับสโมสร ตามรายชื่อที่เกิดขึ้น บุคคลเหล่านั้นมีความเกี่ยวข้องกับสโมสรนั้นๆ หรือไม่ อย่าง ปตท.ระยอง มี พลเอกชินเสณ เป็นโหวตเตอร์ ทั้งๆ ที่เป็นประธานผู้ตัดสินของโตโยต้าไทยพรีเมียร์ลีก ถ้าเกี่ยวข้องกับสโมสร แสดงว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนกันอยู่ สุนทร มีสุวรรณ เกิดกรณีที่สุรินทร์ ร้องเรียน

ทั้งๆ ที่เจ้าของสิทธิ์มาเอง แต่ไม่ได้รับการพิจารณา การตัดสิน ไม่มีการพิสูจน์ว่าเป็นอย่างไร จะต้องให้โอกาสชี้แจงถึงจะยุติธรรม มีผู้แทนที่เป็นโหวตเตอร์ของ สุรินทร์ ซิตี้ ทั้งๆ ที่สุนทร มีสุวรรณ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับสุรินทร์ ซิตี้ ก็ไม่อยากจะชูประเด็นนี้ แต่อยากแสดงให้เห็นความไม่ชอบมาพากล กับการล็อกโหวต การที่ อจอาจ ออกจดหมายเชิญโหวตเตอร์ให้เข้ามา ทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์ จะต้องเป็นกรรมการเลือกตั้งเท่านั้นที่มีสิทธิ์ สุดท้ายก็มีฟอร์มของคณะกรรมการเลือกตั้งอีกชุด แต่ปัญหาก็เริ่มเกิด มันเป็นข้อสังเกตว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม และไม่มีความโปร่งใส ผมรอดูผลการเลือกตั้งก่อน ขอดูว่าฟีฟ่า และ กกท. จะว่าอย่างไร ทุกเรื่องมันมาจากเอกสารซ้ำซ้อนทำให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น"

"ผมขอปรึกษากับทีมทนายก่อนว่า จะฟ้องร้องได้หรือไม่ ฟ้องศาลปกครองหรือเปล่า ซึ่งไม่ใช่ว่าผมแพ้ชวนตี ผมคิดว่าผมชนะมาตั้งนานแล้ว ที่ทำให้ทุกฝ่ายจับจ้องการทำงานของ นายวรวีร์ มะกูดี อยู่ที่คณะกรรมการเลือกตั้งจะรับรองการเลือกตั้งหรือเปล่า" 

ในส่วนของผู้มีสิทธิ์โหวต มีบางสโมสรที่ผู้มีสิทธิอยู่ในข่ายน่าสงสัย เช่น นนทบุรี, สิงห์ท่าเรือ, ปตท.ระยอง, บีอีซี เทโรศาสน และก่อนหน้านี้ที่โดนตัดสิทธิ์ไปก็คือ อุดรธานี รวมไปถึง 6 สโมสร ที่โดนตัดสิทธิ์ไป ก็คือ พวกของ "บิ๊กกร๊อง" วิรัช และกลับไปมอบสิทธิ์ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสโมสร ได้มาเลือกแทน

 

บังยี แถลงประกาศชัยชนะ ปัดพูดเรื่อง กกต. ไม่โปร่งใส

หลังจากทราบผลการเลือกตั้งทางฝั่ง "บังยี"วรวีร์ มะกูดี พร้อมด้วยบรรดาสภากรรมการ ได้เปิดแถลงข่าวต่อหน้าสื่อมวลชนนับร้อย ถึงชัยชนะในการเลือกตั้ง หลังจากได้รับความไว้วางใจจากสโมสรสมาชิก ให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน ส่วนเรื่องที่ทาง "บิ๊กกร๊อง" วิรัช เตรียมฟ้องร้องศาลปกครองถึงความไม่ชอบมาพากลกับการเลือกตั้ง ทาง บังยี เผยว่า เป็นเรื่องของ กกต. ตนไม่ขอยุ่งเกี่ยว