ไม่ต้องเป่าเข้าข้าง แค่มีมาตรฐานก็พอ

"ไม่ต้องเป่าเข้าข้าง แค่มีมาตรฐานก็พอ" เป็นข้อความสโลแกนบนป้ายผ้าขนาดใหญ่ที่ติดอยู่ใต้สกอร์บอร์ดในสนามกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด ซึ่งสโมสรร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ฉายา "กระรอกขาวจ้าวสนาม" ใช้เป็นสนามทำการแข่งขันในฐานะเจ้าบ้าน

ข้อความบนป้ายผ้าดังกล่าวทำให้ผู้มาเยือนสนามแห่งนี้รู้สึกแปลกใจ และสงสัยเป็นอย่างมากรวมถึงผมซึ่งได้มีโอกาสเข้าไปในสนามแห่งนี้ด้วย เพราะเหตุใดสนามแห่งนี้จึงต้องติดป้ายผ้าขนาดใหญ่ผืนนี้ไว้ด้วย

ซึ่งจากความสงสัยผมจึงต้องหาผู้ที่จะให้ความกระจ่างได้ดีที่ในเรื่องนี้ และสุดคงไม่พ้นเจ้าของความคิดนี้นั่นก็คือ นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงษ์ ผู้จัดการทีม ร้อยเอ็ด ยูไนเต็ดได้กล่าวว่า ป้ายผ้าดังกล่าวนี้ได้จัดทำขึ้นมาและติดไว้ที่สนามแห่งนี้มากว่าหนึ่งเดือนแล้ว

เพื่อสื่อให้ผู้ทำหน้าที่ตัดสินทุกท่านที่ลงสนามทำหน้าที่ตัดสินเกมที่สโมสรร้อยเอ็ด ยูไนเต็ด ลงทำการแข่งขันได้ทราบถึงจุดประสงค์ของสโมสรแห่งนี้ที่ชัดเจน สาเหตุความเป็นมาของการจัดทำป้ายผ้าที่นี้ขึ้นมานั้นมาจากการที่ผู้ตัดสินทำหน้าที่ตัดสินในสนามแห่งนี้มักจะทำหน้าที่ผิดพลาดบ่อยครั้ง และไม่ได้มาตรฐาน

นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงษ์ ยังกล่าวต่อว่า ถ้าจะถามตนว่ามีสนามแห่งใดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ติดป้ายแบบนี้อีกไหมตนไม่ทราบแต่ตนมั่นใจว่าสนามแห่งนี้เป็นสนามแห่งแรกแน่นอน ที่เรียกร้องให้ผู้ตัดสินเป็นกลางและทำหน้าที่ให้ได้มาตรฐานมากที่สุด

หลายสโมสรและหลายฝ่ายอาจจะยกย่องให้สโมสรร้อยเอ็ด ยูไนเต็ดเป็นทีมใหญ่ในเอไอเอสลีก โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งน่าจะได้เปรียบในเรื่องการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินไม่มากก็น้อย

แต่ตนบอกได้คำเดียวว่าทีมร้อยเอ็ดไม่เคยต้องการและไม่คิดจะกดดันผู้ตัดสินด้วย อีกทั้งสโมสรตนที่เป็นเจ้าบ้านเสียอีกที่มักจะเสียประโยชน์จากการทำหน้าที่ผิดพลาดของผู้ตัดสินมาโดยตลอด
 
ทุกวันนี้ตนพยายามที่จะพัฒนายกระดับสโมสรของตนเองให้มีมาตรฐานที่ดี ทั้งบุคลากรและสนามการแข่งขัน ในส่วนของสนามค่าใช้จ่ายต่อนัดทั้งหมดตกอยู่ที่ 5-6หมื่นบาทซึ่งสูงกว่าบางสโมสรที่ใช้ในศึกสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำ ตนทำทุกอย่างเพื่อต้องการให้แฟนฟุตบอลที่เข้าชมการแข่งขัน ได้ชมเกมฟุตบอลดีๆสนุกและอุ่นใจ

ในระบบรักษาความปลอดภัยที่ทางสโมสรได้ใช้เจ้าหน้าที่ประจำอยู่ทั่วสนามแข่งขัน ซึ่งตนก็อยากให้ทางผู้ตัดสินช่วยยกระดับและพัฒนาการทำหน้าที่ให้ดีตามขึ้นและต้องรีบเร่งทำโดยเร็วด้วย นั่นคือที่มาที่ไปของข้อความบนผืนผ้าขนาดใหญ่ที่ติดไว้ใต้สกอร์บอร์ดในสนามกีฬาจังหวัดร้อยเอ็ด

ผมคิดว่าป้ายผืนผ้าผืนนี้น่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาฟุตบอลอาชีพเอไอเอสลีก และหลายๆสโมสรใหญ่ในแต่ละภาคน่าจะทำตามแบบอย่างดีๆเช่นนี้ด้วย อย่างน้อยมันจะช่วยสะท้อนถึงแนวทางการพัฒนาของกีฬาฟุตบอลที่ทุกสโมสรร่วมด้วยช่วยกัน

อีกทั้งยังจะขจัดความรู้สึกของทีมเล็กอีกจำนวนมากในเรื่องของการที่รู้สึกว่าผู้ตัดสินมักทำหน้าที่เข้าข้างทีมใหญ่ทีมเงินถุงเงินถังเสมอ ในการที่พวกเขาจะต้องแข่งขันด้วยและยิ่งการสนามในการไปเยือนเสมอออกไปได้ด้วยไม่มากก็น้อย
 
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นข้อความบนผืนผ้านี้ที่เขียนว่า "ไม่ต้องเป่าเข้าข้าง แค่มีมาตรฐานก็พอ" หรือจะอะไรอีกหลายอย่างที่แล้วแต่จะใช้ความคิดสร้างสรรกันขึ้นมา  จะไม่บรรลุถึงเป้าหมายและไม่มีคุณค่าใดๆได้เลย ถ้าทุกคนทุกฝ่ายไม่ร่วมกันสร้างจิตสำนึกในเรื่องของจริยธรรม จรรยาบรรณของการทำหน้าที่ทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาฟุตบอล  

ทั้งสโมสรทั้งนักเตะ ทั้งผู้ตัดสินและสื่อมวลชน มาเถอะครับเรามาช่วยกันช่วยพัฒนากีฬาฟุตบอลอาชีพของประเทศไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับโลก พร้อมกับสร้างจิตสำนึกที่ดีให้ทุกคนควบคู่กันไป

เรื่องโดย"โต้ง ล้านนา"