ไทยแลนด์ซีเลคชั่นอัดหม่อง 3-1 ศึกแม่โขงคัพ+คลิป
ความเคลื่อนไหวของทีมชาติไทย ชุดยู-23 ปี ''ไทยแลนด์ ซีเลคชั่น'' ในการแข่งขันฟุตบอลรายการพิเศษศึก ''แม่โขง คัพ'' ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 2-11 พ.ย. นี้ โดยเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาทีมไทย ลงสนามเกมแรกพบกับเมียนมาร์ ที่ลงสนามเป็นเกมที่สองหลังนัดแรกเอาชนะเวียดนามมาได้ 1-0
ในเกมนี้สำหรับนักเตะ 11 คนแรกของทีมชาติไทย ประกอบไปด้วย ผู้รักษาประตู ทศพร ศรีเรือง, โชตินันท์ ธีรภัทรพงศ์, ศักดิ์ดา ฝ่ายอินทร์, อิทธิพร เทพเรียน, รชานนท์ กันยาทอง กองกลาง สารัช อยู่เย็น, อดิศักดิ์ กลิ่นโกสุม, อนิรุตน์ สืบยิ้ม, ชนะ สนวิเศษณ์, วานิช ใจแสน โดยมี จิราวุฒิ สาระนันท์ เป็นกองหน้าตัวเป้า
ส่วนเมียนมาร์ยังมีตัวหลักอย่าง นานดา ลิน เคียว เป็นกำลังหลัก อุง ไม ซอน, โม คู ตุน, ยาน ไน ออ วาง ทาน เปียง เป็นทีเด็ดในการจบสกอร์
เริ่มเกมครึ่งแรก ไทยเซตบอลบุกใส่แหลก แต่ยังทำอะไรแนวรับของเมียนมาร์ไม่ได้ ลุถึง น.4 จิรวุฒิ สาระนันท์ ลากบอลเข้าไปปะทะกับนายทวารเมียนมาร์เจ็บบริเวณศีรษะทำให้เกมต้องหยุดไปประมาณ 3 นาที จากนั้นเริ่มมาสู้กันต่อยังเป็นฝั่งไทยที่อาศัยความสามารถเฉพาะตัวเซตบอลกันแน่นอน
ทว่าถึง น.6 หวิดโดนทะลวง เมื่อ ทาน เปียง ลากเข้าไปยิงบริเวณกรอบเขตโทษบอลหลุดโคนเสาแรกไป อีก 2 นาทีต่อมา ไทยได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ จิราวุฒิ สาระนันท์ กระหน่ำบอลแต่โด่งออกไปเยอะ 10 นาที ผ่านไป ทีมชาติไทยยังเป็นฝ่ายเน้นครองบอลแน่นอนกว่า ทำเอาแข้งเมียนมาร์วิ่งพล่านไปทั่วสนาม นาทีถัดมา ยาน เนียง อู ไปเจตนาเตะ วานิช ใจแสน โดนคาดโทษด้วยเหลืองแรก
น.22 ยังเป็นไทยที่เน้นการเข้าทำทีมเนียนตา หวิดได้ทะลวง เมื่อ จิรวุฒิ สาระยันท์ พลิกเอาบอลก่อนซิ่งสั้นๆ ให้ ชนะ สนวิเศษณ์ แต่ยิงไม่เต็มข้อเข้าซองนายทวารเมียนมาร์
อีก 2 นาที ไทยได้โต้กลับเร็วเป็น วานิช ใจเสน ที่โดนแนวรับเมียนมาร์รวบบริเวณหัวกะโหลก ผู้ตัดสินชี้ให้ไทยได้ฟรีคิกก่อนที่ สารัช อยู่เย็น จะรับหน้าที่ยิงบอลติดกำแพงกระดอนมาเข้าทางซ้ำดาบสอง โด่งข้ามคานไปเยอะ
จากนั้น น. 31 ไทยคุมเกมรุกเอาไว้ได้ทั้งหมดซิ่งกันตามช่อง จังหวะสุดท้าย ชนะ สนวิเศษณ์ ยิงไม่ดีเข้าซองนายทวารเมียนมาร์ เกมของเมียนมาร์ดีขึ้นเมื่อโหมรุกหนักแต่ยังทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอัน
น.35 อนิรุตน์ สืบยิ้ม เสียบอลง่ายๆ โดน ทาน เปียง ซัดบอลออกหลังไปไกล อีก 3 นาทีต่อมา ไทยตอบโต้แบบแสบๆหวิดได้ประตู เมื่อ วานิช ใจเสน พลิกบอลหนีตัวประกบชิ่งต่อให้ จิราวุฒิ สาระนันท์ แต่ยิงไม่ดีบอลเข้าซองนายทวารเมียนมาร์ แถมล้ำหน้าอีกต่างหาก
น.40 เมียนมาร์ต้องเปลี่ยนตัวคนแรก เมื่อ ลาน อู เจ็บเล่นต่อไม่ไหวต้องเอา โช อาคา ลงไปเล่นแทน กระทั่งถึง น.42 ไทยมาได้ประตูจนได้จากจังหวะที่ ชนะ สนวิเศษณ์ ลากบอลเข้าหากรอบเขตโทษโดน นานดา เคียว เกี่ยวขาหลัง ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ สารัช อยู่เย็น จะรับหน้าที่สังหารไม่พลาด ไทยนำ 1-0 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
เกมครึ่งหลังไทยยังเป็นฝ่ายครองเกมได้เป็นส่วนใหญ่มาได้ประตูทิ้งเป็น 2-0 จากจังหวะที่ จิราวุฒิ สาระนันท์ ซิ่งบอลสั้นๆ อนิรุตน์ สืบยิ้ม เติมขึ้นไปซัดแสกหน้า นายทวารเมียนมาร์ ตุงตาข่าย หลังจากที่โดนนำถึง 2 ลูก เมียนมาร์ยังไม่ท้อโชว์พลังอึดเดินหน้า มาได้จุดโทษเป็นจังหวะที่ อิทธิพร เทพเรียน เสียบสกัด ทาน เปียง กองหน้าเมียนมาร์ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที ก่อนที่ หม่อง หม่อง โซ สังหารไม่พลาดให้เมียนมาร์ไล่มาเป็น 1-2
แต่เกมหลังจากนั้นยังเป็นไทยที่เน้นความแน่นอนเป็นหลัก น.84 มาได้ประตูทิ้งห่างเป็น 3-1 จนได้เป็นจังหวะที่ อานนท์ สันหมาด ตักบอลมาให้ ธนากรณ์ แดงทอง พักบอลให้ จิราวุฒิ สาระนันท์ อัดตูมเดียวไม่เหลือซาก ก่อนจบเกมไทยเอาชนะเมียนมาร์ 3-1 มีโอกาสเข้ารอบสูง โดยนัดสุดท้ายจะต้องแพ้เวียดนามถึง 4 ลูก ถึงจะตกรอบแรก ซึ่งดูจากรูปเกมและตัวผู้เล่นยังเหนือกว่านักเตะสกุลเหงียนมากเลยทีเดียว
ภายหลังจบเกม ''บิ๊กเษม'' เกษม จริยวัฒน์วงษ์ ผจก.ทีม เผยว่า ''ถือว่าเป็นชัยชนะที่ต้องแสดงความยินดีกับนักเตะทุกคน หลังจากที่เพิ่งรวมตัวกันมาแค่ 7 วัน แต่ทุกคนก็มีความมุ่งมั่นทุมเทให้ทีมชาติไทย ซึ่งก่อนลงสนามได้พยายามเตือนนักเตะว่าเรามีธงาติติดหน้าอกต้องเล่นให้สุดฝีมือ และพวกเขาก็ทำได้ตามเป้าหมาย''
นอกจากนั้น ผจก.ทีมชาติไทยยังเผยถึงเกมที่จะเจอกับเวียดนามอีกว่า ''มาถึงตอนนี้ผมมั่นใจว่าเราจะต้องเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศให้ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องยกเครดิตให้กับ ''โค้ชเบ๊'' และนักเตะรวมไปถึงทีมงานทุกคน''
ส่วน ''โค้ชเบ๊'' ไพโรจน์ บวรรัตนดิลก กุนซือใหญ่ของทีม กล่าวว่า ''ผมชื่นชมเด็กชุดนี้มากที่เล่นกันได้เหมือนรวมตัวกันมานาน แต่อย่างไรก็ดี ยังมีจุดที่ต้องแก้ไขอีกเยอะ ทั้งเกมรุกและเกมรับ ''
ขณะเดียวกัน ''โค้ชเบ๊'' ยังเผยต่อไปอีกว่า ''มาถึงตอนนี้ผมมั่นใจว่าเราจะต้องเข้ารอบตัดเชือกแน่นอน แต่จะไปเจอกับกับเจ้าภาพ กัมพูชา หรือเปล่านั้นต้องดูเกมนัดสุดท้ายอีกที ทว่านักเตะเล่นได้อย่างนี้ไม่มีปัญหาแน่นอน รอบชิงฯ เจอใครก็ได้ ''
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ในสาย บี มาเลเซีย ชนะ ลาว 3-2 ทำให้มาเลเซียผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศเรียบร้อยแล้ว ส่วนลาวแม้จะแพ้แต่ได้ลุ้นถึงนัดสุดท้ายกับกัมพูชา เจ้าภาพต่อไป โดยโปรแกรมนัดต่อไปของไทยจะพบกับเวียดนาม 6 พ.ย.นี้