AFCมั่นใจโต๊ะเล็กไทยวางระบบดีพัฒนาแน่

สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย ตรวจเยี่ยมและประเมินการพัฒนาฟุตซอลของประเทศไทย กล่าวชม มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

มร.อาลี ทาร์โกลิซาเดห์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาฟุตซอลและฟุตบอลชายหาด สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย พร้อมทั้งคณะทำงานจากสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ที่เดินทางมายังประเทศไทยเพื่อศึกษาระบบโครงสร้างและประเมินการพัฒนาฟุตซอลของประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2556 ที่ผ่านมา โดยในวันที่ 18 พ.ย. ได้ร่วมประชุมกับ นายวรวีร์ มะกูดี ประธานพัฒนาฟุตซอลโลก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ และนายวิฑูร นิรันตราย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามอินเตอร์มัลติมีเดีย (SMM) ในฐานะตัวแทนฝ่ายจัดการแข่งขันฟุตซอลอาชีพประเทศไทย ที่โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ซอฟเฟอริน

นายวรวีร์ ได้เผยประเด็นที่สำคัญหลังจากร่วมพูดคุยกับตัวแทนจากเอเอฟซีว่า "สิ่งที่เอเอฟซีได้แนะนำคือเรื่องที่เรายังขาดคือการจัดอบรมผู้ฝึกสอนอย่างเป็นระบบ แม้ว่าเมืองไทยจะมีโค้ชที่มีฝีมือมากมายแต่ว่าน้อยมากที่พวกเขาจะมีไลเซนส์ ดังนั้นตั้งแต่ปี 2557 สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะร่วมกับเอเอฟซีจัดอบรมโค้ชเพื่อเป็นแม่แบบให้กับรุ่นต่อๆไป โดยทางเอเอฟซีก็ยินดีให้ความช่วยเหลือ ซึ่งที่ผ่านมามีการจำกัดอายุของผู้ที่อบรม แต่วามีการปรับให้เหมาะสมโดยอายุ 18 ปีก็สามารถอบรมการเป็นผู้ฝึกสอนได้แล้ว"

"ยังมีอีกหลายเรื่องที่ได้พูดคุยกับทางเอเอฟซีเพื่อร่วมงานกัน ล้วนเป็นแผนงานที่ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้วางเอาไว้เพื่อพัฒนากีฬาฟุตซอลอยู่แล้ว เรารู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่จะได้ร่วมมือกับเอเอฟซีในการจัดระบบฟุตซอลไทย" 

ทางด้าน มร.อาลี เผยว่า "ชื่อของไทยคือบิ๊กเนมเมื่อพูดถึงกีฬาฟุตซอลในเอเชีย โดยอยู่ในยุคแรกเริ่มที่เอเอฟซีได้จัดการแข่งขันกีฬาฟุตซอลตั้งแต่ปี 1999 และพัฒนาเรื่อยมาจนได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ล่าสุดเป็นเจ้าภาพชิงแชมป์โลก 2012 นอกจากนี้สโมสรของไทยอย่างชลบุรี บลูเวฟ ก็คว้าแชมป์สโมสรเอเชีย 2013 มาได้ด้วย"

"จากการที่เราได้เดินทางไปเยี่ยมสโมสรชลบุรี บลูเวฟ และ การท่าเรือฯ รวมทั้งชมการแข่งขันฟุตซอลระดับเยาวชน และยังมีการพูดคุยกับตัวแทนของผู้ตัดสิน ก็ทำให้มีข้อมูลและหลักฐานต่างๆมากพอที่จะมั่นใจได้ว่าไทยจะพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องแน่นอน" มร.อาลี กล่าวชื่นชม