'สินทวีชัย' โพสต์ยกย่องลูกทีมสู้เพื่อชาติ รับผิดหวังที่มีคนเห็นแก่ตัว
ฟุตบอล : นายทวารกัปตันทีมชาติไทยโพสต์ข้อความระบายความในใจหลังทีมแพ้ตกรอบเอเชี่ยนคัพ เผยลูกทีมสู้สุดใจแล้วเพราะไม่มีใครอยากแพ้ ยกย่องทุกคนในทีมที่เต็มใจช่วยชาติ รับผิดหวังคนเห็นแก่ตัวไม่ยอมช่วยชาติ พร้อมขอบคุณทีมงานทุกคนที่สู้กันอย่างเต็มที่
สินทวีชัย หทัยรัตนกุล กัปตันทีมชาติไทย ออกมาโพสต์ข้อความในเฟสบุ๊คส่วนตัว ระบายความในใจ หลังทีม "ช้างศึก" พ่ายแพ้ให้กับคูเวต 1-3 ตกรอบเอเชี่ยนคัพ 2015 รอบคัดเลือก โดยมีเนื้อหา ว่า
กับความผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าของผลงานทีมชาติไทยชุดเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือก 2015 ที่ผ่านมาไม่นาน ซึ่งเหล่าขุนพลทีมชาติไทยพบกับความพ่ายแพ้มาตลอดและยังไม่มีแต้มเลย ในฐานะที่ผมเป็น 1 ในขุนพลชุดนี้และกัปตันทีม ผมคงไม่มีข้อแก้ตัวใดๆในผลงานครั้งนี้ ผมพร้อมน้อมรับในคำวิจารณ์ต่างๆ กับผลงานที่เกิดขึ้น ผมยอมรับได้ในคำวิจารณ์ที่ในสายตาคนนอกหรือกูรูทั้งหลาย แต่มันคงไม่แฟร์นักกับพวกเราถ้าการวิจารณ์ของคนบางคนกลับกลายเป็นคำด่าต่างๆนาๆ ซึ่งมันเกินกับคำว่าวิจารณ์ แน่นอนผมพูดเสมอว่า"ไม่มีใครอยู่เหนือคำวิจารณ์ และมืออาชีพเท่านั้นที่รับมือกับมันได้" แต่บางครั้งหากมันหยาบคายเกินไป ก็อาจไม่เหมาะนัก
ผมในฐานะกัปตันทีมต้องขอโทษแฟนบอลไทยทุกคนที่ทำให้ท่านทั้งหลายผิดหวังเสียใจและอาจจะทำให้หงุดหงิดบ้างในอารมณ์ต่างๆของท่าน
คนบ้าฟุตบอลอย่างพวกเราย่อมเข้าใจ
ผมเชื่อเหลือเกินในชีวิตนักฟุตบอลทุกคนไม่อยากจะพบกับความพ่ายแพ้ ไม่อยากมีความทรงจำแย่ๆ ไม่อยากมีประวัติที่เต็มไปด้วยรอยด่างของความพ่ายแพ้ ถ้าเลือกได้ทุกคนก็อยากจะพบและจดจำกับชัยชนะ และความสำเร็จกันทั้งนั้น กลิ่นอายของชัยชนะมันหอมกรุ่นกว่าเยอะ ความใฝ่ฝันเหล่านี้เป็นคุณสมบัติที่ดีของนักฟุตบอลอาชีพ แต่ที่สุดของการเล่นฟุตบอล ในสายตาของผม คือการเล่นในนามทีมชาติไทย
"การติดทีมชาติ" มันเป็นความฝันของเด็กๆและนักบอลอาชีพ ที่อาศัยแผ่นดินนี้ทำมาหากิน ทุกๆวันนี้นักบอลมีบ้าน มีรถ มีเงิน มีชื่อเสียงเพราะฟุตบอล แต่ไม่ควรลืมว่า"ฟุตบอลทีมชาติ" คือที่สุดของชีวิต
แผ่นดินนี้มีบุญคุณมากกว่าชีวิตทุกคนจะตอบแทนได้ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ข้าราชการ องค์รักษ์ บุคคลธรรมดา หรือนักฟุตบอลอย่างเรา หากชาติสั่งให้ไปรบก็ต้องไป เราอยู่บนแผ่นดินนี้สำนึกในบุญคุณประเทศ มีหรือที่จะมีเงื่อนไขในการต่อรอง?
พูดถึงสโมสรก็คืออู่ข้าวอู่น้ำที่ดูแลให้นักฟุตบอลอยู่ดีกินดี ไม่ผิดที่นักฟุตบอลเหล่านั้นจะจงรักภักดีต่อสโมสรของเค้า แต่นักบอลไทยที่อยู่ในประเทศไทยลืมคิดรึเปล่าว่าที่สุดแล้ว เหนือชุดสโมสร เหนือเสื้อสีอะไรก็ตาม ความฝันอันสูงสุดของนักฟุตบอลคือการได้ลืมตาอ้าปากและร้องเพลงชาติอย่างภาคภูมิใจว่าชีวิตนึงเราได้ตอบแทนชาติไม่มากก็น้อย
สิ่งที่ผมผิดหวังมากที่สุดกับการแข่งขันของทีมชาติไทยไม่ใช่ความพ่ายแพ้ครับ(ถึงแม้ผมจะเกลียดความพ่ายแพ้มากแค่ไหน)แต่ที่สุดของความเจ็บปวดมันคือการเห็นความเห็นแก่ตัวของคนในชาติที่ไม่ยอมหยิบยื่นมือและเท้ามาช่วยทั้งๆที่เค้าเหล่านั้นก็มีความสามารถที่ดีเลิศและสามารถช่วยเหลือกันได้ถ้าเค้าเหล่านั้นมีใจรักชาติพอ....
เหนือความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ผมเองได้สัมผัสนักบอลอาชีพที่ดี ที่เสียสละ ที่รักชาติและที่สำคัญจิตใจเค้าเหล่านี้แกร่งพอที่จะยอมตายเพื่อชาติได้ ถึงแม้เค้าเหล่านี้อาจจะไม่เลอเลิศ เก่งกาจ เทพ....เท่านักเตะบางคนซึ่งถ้าว่าแล้วก็ไม่น่าให้ราคาเท่าไหร่หรอก แต่ผมพูดได้เลยว่านักเตะทุกคนที่มาในครั้งนี้มาเพราะยังมีความหวัง พวกเราหวังเสมอว่าจะสู้ได้ ถึงแม้จะรู้ว่ามันยากแค่ไหน พวกเราเพียงขอโอกาสได้สู้ การเป็นนักสู้ของเราทำอย่างสุดความสามารถครับ นักสู้ "เกรดบี" "กากๆ" ในสายตาและทัศนะบางท่านก็มีหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยไฟบนเส้นทางที่ไม่สว่าง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราไม่เคยเลือกเวทีในการลงแข่ง ขอแค่ชาติเรียกใช้ เราก็ต้องมา.....
ขอบคุณผู้จัดการทีมชาติไทย,โค้ช,สตาฟโค้ช,แพทย์ประจำทีม,เจ้าหน้าที่ทุกคน และเหล่านักฟุตบอลทีมชาติไทยชุดที่พ่ายแพ้ในครั้งนี้
ขอบคุณที่ทำให้คนอย่างผมเข้าใจว่า ผลการแข่งขันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด
ขอบคุณทุกคนในทีมที่ทำให้รู้ว่า แม้ว่าฟุตบอลบางครั้งจะโหดร้ายแค่ไหน จะสกปรกเพียงใด แต่ท้ายสุดแล้ว...หัวใจของพวกคุณยังมีพื้นที่ (อันกว้าง) เสมอสำหรับคำว่า "ทีม ชาติ ไทย" พวกคุณคือผู้ชนะ......เป็นกำลังใจให้กับคนเสียสละและรักชาติครับ...