เอโต้แฮตทริก!สิงห์ขยี้ผียับ3-1รั้งที่3ต่อ
ฟุตบอล : เอโต้ โชว์ความเทพ ทำคนเดียวสามประตูในเวลาแค่ 50 นาที พา "สิงห์บลูส์" อัด "ปีศาจแดง" สบาย 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 49 แต้ม รั้งที่ 3 ของลีกต่อ ส่วนทีมเยือนยังมี 37 แต้ม อยู่ที่ 7 เหมือนเดิม
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2013/2014 ประจำคืนวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคม 2556 เกมบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ ที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นเจอกันระหว่าง "สิงห์โตน้ำเงินคราม" เชลซี พบ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
เริ่มเกมได้ 17 นาที แฟนบอลใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ก็ได้เฮกันไปก่อน เมื่อ ซามูเอล เอโต้ ครองบอลทางฝั่งซ้าย ก่อนแตะหลอก ฟิล โจนส์ จนผ่านไปได้ ก่อนจะลองซัดนอกกรอบไปแฉลบเท้า ไมเคิ่ล คาร์ริค ที่พยายามป้องกัน บอลลอยเปลี่ยนทางหนีมือ ดาบิด เด เคอา เสียบมุมเข้าไป เชลซี ขึ้นนำ 1-0
น.19 ดาวิด หลุยซ์ มารับใบเหลืองเป็นคนแรกของเกมนี้ หลังไปทำฟาวลบ์แบบไม่สมควรด้วยการไปชักศอกใส่ อันโตนิโอ วาเลนเซีย
น.28 "ปีศาจแดง" เกือบเอาคืนสำเร็จ จากจังหวะที่ ปาทริซ เอวร่า ฉกบอลจากเท้าของ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช ก่อนจะลากเข้าเขตโทษ ก่อนจะลองซัดมุมแคบเต็มข้อด้วยซ้าย แต่ลูกกลับเข้าข้างตาข่ายไปแบบได้ลุ้นเล็กๆ
น.35 แอชลี่ย์ ยัง มาโดนเหลืองเป็นคนแรกของฝั่งทีมเยือน หลังไปกระชาก รามิเรส ล้มลงในจังหวะที่ตัวเองไปรับบอลจากเพื่อนไม่ทัน
น.45 เจ้าถิ่นบุกหนักและมาทำประตูที่สองเพิ่มได้สำเร็จจากลูกเตะมุม วิลเลี่ยน โยนไปหน้าประตูไปถูกแนวรับ "ปีศาจแดง" สกัดไว้ได้ ลูกเข้าเท้าที่รออยู่หน้าเขตโทษ จัดการแทงต่อมาให้ แกรี่ เคฮิลล์ รับบอลทางฝั่งขวาเขตโทษ ก่อนตบเข้ากลางให้ ซามูเอล เอโต้ วิ่งมาชาร์จจ่อๆ ผ่านตัว เด เคอา เข้าไป เชลซี หนีห่าง 2-0 หลังจากนั้นไม่มีอะไรเพิ่มเติมอีก หมดครึ่งแรก "สิงห์บลูส์" นำ 2-0
กลับมาเล่นกันต่อช่วงครึ่งหลังในนาทีที่ 49 รูปเกมยังเข้าทางเจ้าถิ่นไปเรื่อยๆ แกรี่ เคฮิลล์ ได้โขกหน้าประตูจ่อๆ จากลูกเตะมุม ก่อนที่ลูกจะกระดอนเข้าทาง เอโต้ ที่โดน บาเลนเซีย กอดอยู่หน้าประตู จัดการพลิกตัวแหย่ขาซ้ำเข้าไปไม่มีเหลือ "สิงห์บลูส์" นำอีก 3-0
น.51 "ปีศาจแดง" ต้องเปลี่ยนตัวเอา คริส สมอลลิ่ง ลงสนามแทน ปาทริซ เอวร่า ที่มีอาการบาดเจ็บจนล่นต่อไม่ไหว แล้วสลับให้ ราฟาเอล ดา ซิลวา เปลี่ยนไปเล่นแบ็กซ้ายแทน
น.56 ทีมเยือนเปลี่ยนตัวเพิ่มถอด แอชลี่ย์ ยัง ที่แทบไม่ได้มีส่วนช่วยทีมมากนักออกไปจากสนาม แล้วเอา ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ลงมาเสริมเกมรุกแทน
น.68 เชลซี ถอด ออสการ์ ออกไปจากสนามเป็นคนแรก แล้วส่ง จอห์น โอบี มิเกล ลงมาแพ็คเกมในแดนกลางให้แน่นกว่าเดิม
น.70 เจ้าถิ่นหวิดได้เสียประตูแบบไม่น่าเสีย เมื่อ ปีเตอร์ เช็ก ที่เกมนี้ได้ออกแรงเซฟแบบนับครั้งได้ ครองบอลหน้าประตูจนเกือบโดน ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ ที่สไลด์มาแย่ง แต่เจ้าตัวหนีบบอลหนี ก่อนจ่ายออกไปให้เพื่อนออกไปได้อย่างหวุดหวิด
น.78 ทีมเยือนมาทำประตูตีไข่แตกได้สำเร็จ อันโตนิโอ บาเลนเซีย ลากเข้าเขตโทษ ก่อนตบเข้ากลางให้ ฟิล โจนส์ที่อยู่ตรงกลางจ่ายให้ไปที่เสาไกลให้ "ชิชาริโต้" ชาร์จจ่อๆ ผ่ายมือ ปีเตอร์ เช็ก เข้าไปได้สำเร็จ "ปีศาจแดง" ไล่ตาม 1-1
น.79 เจ้าถิ่นเปลี่ยนคนที่สองส่ง เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงมาเล่นในแดนหน้าแทนที่ของ เอโต้ ผู้ทำสามประตูในเกมนี้
น.86 เชลซี เปลี่ยนตัวคนสุดท้ายถอด วิลเลี่ยน ออกจากสนาม แล้วส่ง เนมันย่า มาติช นักเตะใหม่สดๆ ร้อนๆ ลงไปช่วยทีมในแดนกลางแทน
ช่วงทดเจ็บท้ายเกม "ปีศาจแดง" ต้องมาเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน เมื่อ เนมันย่า วิดิช พุ่งเข้าไปเสียบใส่ แอเด็น อาซาร์ แบบน่าเกลียด ผู้ตัดสินไม่รอช้าชักใบแดงไล่ออกจากสนามทันที
หลังจากนั้นเจ้าถิ่นยังไม่เพลาเกมง่ายๆ และหวังทำประตูเพิ่มแต่ก็ไม่สำเร็จ หมดเวลา เชลซี เป็นฝ่ายเอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปได้สำเร็จ 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 49 คะแนน รั้งอยู่อันดับที่ 3 ของตารางต่อไป ส่วน "ปีศาจแดง" จากผลในเกมนี้ทำให้ทีมอยู่อันดับที่ 7 ของตารางเหมือนเดิม โดยมีแค่ 37 คะแนนเท่านั้น
รายชื่อผู้เล่น เชลซี (4-2-3-1) :
ปีเตอร์ เช็ก - บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, แกรี่ เคฮิลล์, จอห์น เทอร์รี่, เซซ่าร์ อัซปิลิกวยต้า - รามิเรส, ดาวิด หลุยซ์ - วิลเลี่ยน (เนมันย่า มาติช น.86), ออสการ์ (จอห์น โอบี มิเกล น.68), เอแด็น อาซาร์ - ซามูเอล เอโต้ (เฟร์นานโดตอร์เรส น.79)
ผู้เล่นสำรอง
มาร์ค ชวาร์เซอร์ - แอชลี่ย์ โคล - แฟร้งค์ แลมพาร์ด - ฆวน มาต้า -
รายชื่อผู้เล่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-4-1-1) :
ดาบิด เด เคอา - ราฟาเอล ดา ซิลวา, จอนนี่ อีแวนส์, เนมันย่า วิดิช, ปาทริซ เอวร่า (คริส สมอลลิ่ง น.51) - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, ฟิล โจนส์, ไมเคิ่ล คาร์ริค, แอชลี่ย์ ยัง (ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ น.56) - อัตนาน ยานูซาย - แดนนี่ เวลเบ็ค
ผู้เล่นสำรอง
อันเดอร์ส ลินเดการ์ด - ไรอัน กิ๊กส์ - ทอม คเลฟเวอร์ลี่ย์ - ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ - ชินจิ คางาวะ
ผู้ตัดสิน : ฟิล ดาวด์