แก้วรับยังอืด พร้อมดวลม้ามืด
จ่าสิบเอกแก้ว พงษ์ประยูร ยังต่อชีวิตให้กับทีมกำปั้นไทย หลังเอาชนะ คาร์ลอส กีโป ปิลาตักซี จากเอกวาดอร์ 10-6 เจ้าตัวยอมรับ ยังอืด เพราะร้างเวทีไปนาน มั่นใจนัดต่อไปเจอบัลแกเรีย สู้เต้มที่ ไม่อยากประมาท ประกาศสู้ถวายหัวในศึกสำคัญชิงเหรียญทองแดง
ความเคลื่อนไหวทีมมวยสากลฯ ในศึกลอนดอนเกมส์ หลังจากที่ จ่าสิบเอกแก้ว พงษ์ประยูร ยังต่อชีวิตให้กับทีมกำปั้นไทย จากการขึ้นชกรุ่น ไลต์ฟลายเวต 49 กก. รอบ 2 เอาชนะ คาร์ลอส กีโป ปิลาตักซี จากเอกวาดอร์ 10-6 ในการชกที่เอ็กเซล เอ็กซิบิชั่น เซ็นเตอร์ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ในรอบต่อไป รอบ 8 คนสุดท้าย แก้ว จะพบ อเล็กซานดาร์ อเล็กซานดรอฟ ม้ามืดจากบัลแกเรีย ที่พลิกล็อกคว่ำ ชิน จอง ฮุน ตัวเต็งจากเกาหลีใต้ มาได้ 15-14 หมัด หากชนะจะคว้าเหรียญทองแดงตุนไว้
ภายหลังการชก แก้ว เปิดเผยว่า ยกแรกที่นำ 1 หมัด ถือว่าออกตัวได้ค่อนข้างดีและต่อยได้หลายหมัด แต่คะแนนขึ้นนำแค่ 2-1 ทำให้พอจะเข้าใจการให้คะแนนแบบใหม่นั่นก็คือ พอเวลาเข้าทำต้องไล่ต่อยแบบเป็นชุด และในยกที่ 3 ที่ออกมาค่อนข้างสูสี เนื่องจากไม่กล้าบุกเต็มตัว หรือจะรับก็ไม่กล้ารับเต็มที่เพราะนำอยู่แค่ 2 คะแนนเท่านั้น
นักชกรุ่นจิ๋วยอมรับด้วยว่า การชกยังอืดๆ อยู่เนื่องจากการเรื้อเวทีนาน 7-8 เดือน แต่ก็ถือว่าภาพรวมดีขึ้นกว่าไฟต์แรก ส่วนการชกกับนักมวยบัลแกเรียในรอบต่อไป ถือว่าน่าประหลาดใจ เนื่องจาก ชิน จอง ฮุน เป็นถึงรองแชมป์เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ แต่ก็จะประมาทไม่ได้ เนื่องจากชนะมาได้แบบนี้ถือว่าไม่ธรรมดาแน่นอน ซึ่งตนจะสู้เต็มที่เพราะอยากได้เหรียญไปฝากคนไทย
ด้าน “โค้ชธง” พ.ต.ธง ทวีคูณ ผู้ฝีกสอนของไทย กล่าวว่า การชกในครั้งนี้ต้องให้เครดิตกับ แก้ว ที่สวมหัวใจสิงห์ขึ้นชก ทั้งที่เหลือนักมวยแค่คนเดียวเท่านั้น และจะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด แต่ก็ทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งตอนนี้ตนมองไปที่เรื่องของการกดคะแนนของกรรมการนั้นยังแข็งเกินไป น่าห่วงมาก
ขณะที่ โอมาร์ พาลากอน หัวหน้าสต๊าฟฟ์โค้ชชาวคิวบา กล่าวว่า การชกในครั้งนี้ แก้ว ทำได้ดีมาก มีความแข็งแกร่งในการชกมาก ๆ ขยับออกซ้ายขวาได้ตามที่ซ้อมมาเป็นอย่างดี แต่ก็ต้องชมคู่แข่งที่ป้องกันตัวได้ดีมากๆ ทำให้ แก้ว ชกลำบาก ส่วนตอนนี้สำหรับตนแล้วมั่นใจว่า แก้ว ได้เหรียญแน่นอน อยู่ที่ว่าจะได้เหรียญอะไรเท่านั้น
ด้าน พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ นายกสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ดีใจที่ แก้ว เอาชนะมาได้แต่ว่าคะแนนที่ได้มาคือ ชนะ 10-6 ถือว่าน้อยไปนิด และเท่าที่ดู แต่ละยกก็คะแนนขึ้นยาก ไม่ว่าจะยก 1, 2 หรือ 3 ยอมรับว่าหลังผ่าน 2 ยก แล้วคะแนนนำอยู่ 2 หมัด พอขึ้นยก 3 ยังกลัวพลาด เพราะความฝืดของคะแนนใน 2 ยกแรก
“คะแนนเราน้อยไปนิด แต่ผมก็คงไม่ไปแสดงความข้องใจในการตัดสินของกรรมการ เพราะพูดไปมันก็ไม่ดี” ประมุขกำปั้นไทย กล่าว
“เสธ.อ้าย” ยังวิเคราะห์ฟอร์มของ แก้วว่า พละกำลังดี มีหมัดอัพเปอร์คัตที่ดี แต่ฟอร์มมวย ยังไม่น่าประทับใจนัก การชกลำตัว นั้นทำได้ตามปกติ แต่ว่าไม่ค่อยได้คะแนน อย่างไรก็ตาม ในรอบต่อไปกับ บัลแกเรีย ตนก็คงไม่แนะนำให้ แก้ว เปลี่ยนสไตล์ แต่ต้องเตือนว่า ในการชกลำตัว ต้องให้หนักแน่น เพื่อที่จะเข้าตากรรมการ
ประมุขกำปั้นไทย ยังเผยด้วยว่า หาก แก้ว สามารถคว้าเหรียญทองได้ ตนมั่นใจมากว่า จะได้รับอัดฉีดรวมกัน ไม่น้อยกว่า 50 ล้านบาท