เกมระทึก ไทยลีก 2014 กับ 5 ทีมหนีตกชั้น
ฟุตบอล : มีความเป็นไปได้สูงทีเดียวที่ฟุตบอล "ไทยพรีเมียร์ลีก 2014" จะกลายเป็นฤดูกาลแข่งขันที่ดุเดือดและลุ้นระทึกมากที่สุดในรอบ 6 ปี
เนื่องจาก "องอาจ ก่อสินค้า" ประธานไทยพรีเมียร์ลีกป้ายแดง ที่เข้ามารับไม้ต่อจาก "ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง" ซึ่งโยกไปนั่งตำแหน่งที่ปรึกษา ได้ตัดสินใจเพิ่มโควตาทีมตกชั้นไทยลีกฤดูกาลล่าสุดขึ้นเป็น 5 ทีม
เพื่อปรับลดจำนวนทีมเข้าร่วมลีกสูงสุดของประเทศจาก 20 ให้เหลือเพียง 18 ทีมในฤดูกาลถัดไป ส่วนลีกฟุตบอลอันดับ 2 ของประเทศอย่าง "ลีกวัน" หรือ "ดิวิชั่น 1" ฤดูกาล 2014 ยังคงโควตาเลื่อนชั้นสู่ไทยลีก 3 ทีมเช่นเดิม
ด้านโซนตกชั้นจากลีกวันสู่ "ดิวิชั่น 2" ได้ถูกเพิ่มขึ้นเป็น 4 ทีมในปีนี้ ก่อนที่ฤดูกาลหน้า (2015) จะขยับทีมตกชั้นให้เป็น 6 ทีม เพื่อทำให้ลีกวันมีจำนวนทีมเข้าแข่งขัน 18 ทีมเท่ากับไทยพรีเมียร์ลีกในปี 2016
"สมศักดิ์ ศิริธรรม" ผู้จัดการทีมชาติไทยชุดเยาวชน 17 และ 19 ปี ซึ่งเป็นอดีตประธานสโมสร "สมุทรสงคราม" ในไทยพรีเมียร์ลีก มองว่าการแผนการปรับลดจำนวนทีมเข้าร่วมการแข่งขันลีกอาชีพของไทยให้เหลือ 18 ทีม ถือเป็นแนวทางการบริหารจัดการที่เหมาะสมกับวงการลูกหนังไทยที่สุดในตอนนี้
"ส่วนตัวคิดว่าทรัพยากรบุคคลในวงการฟุตบอลไทยยังมีจำนวนจำกัดโดยเฉพาะนักฟุตบอล ที่ไม่สามารถรองรับความต้องการของทีมฟุตบอลถึง 20 ทีมได้พอดี เอาเข้าจริงแค่ 18 ทีมก็ยังไม่ค่อยจะพอสักเท่าไหร่ นักเตะเกรดเอส่วนมากก็เทกันไปอยู่กับทีมหัวตารางกันหมด เมื่อเป็นแบบนี้แล้วคุณภาพของแต่ละทีมมันจะห่างกันมาก ทรงบอลที่ควรจะสวยงามดูสนุกมันก็ไม่เกิด แทนที่ลีกไทยจะเดินไปข้างหน้าก็จะกลายเป็นย่ำอยู่กับที่"
อดีตหัวเรือใหญ่ของทีมปลาทูคะนองศึกอธิบายเพิ่มเติมว่าการปรับลดจำนวนทีมเข้าร่วมการแข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ ส่งผลดีต่อความแข็งแกร่งของทีมชาติไทยโดยตรง เพราะเมื่อโปรแกรมลีกลดลงก็จะทำให้นักเตะมีเวลาเตรียมตัวฟอร์มทีมในนามทีมชาติมากยิ่งขึ้น
เพียงแต่สมศักดิ์กลับไม่คิดว่าการเพิ่มโควตาทีมตกชั้นเป็น5 ทีม จะทำให้การแข่งขันเพิ่มดีกรีความสนุกและดุเดือดยิ่งขึ้นกว่าฤดูกาลก่อนสักเท่าไหร่
"ฤดูกาลนี้คงไม่ต่างจากฤดูกาลก่อนมากนัก ที่สำคัญความต่างระหว่างทีมลุ้นแชมป์กับทีมลุ้นหนีตกชั้นจะยิ่งชัดเจนขึ้น จนสามารถแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มบนตารางไทยลีกได้เลย เพราะศักยภาพของทีมเล็กในไทยลีกยังตามทีมใหญ่ ๆ หัวตารางไม่ทัน ซึ่งถามว่าปีนี้จะสนุกตรงไหนก็คงต้องบอกว่าที่โซนท้ายตารางแน่นอน เพราะน่าจะวัดอย่างเต็มที่แน่นอน"
หากการแข่งขันไทยลีกฤดูกาล 2014 ที่กำลังจะเปิดฉากฟาดแข้งกันในวันที่ 22 กุมภาพันธ์นี้ สามารถมองเห็นความแตกต่างของกลุ่ม "ลุ้นแชมป์" กับ "หนีตกชั้น" ได้อย่างชัดเจนแบบที่อดีตหัวเรือใหญ่ของทีมปลาทูคะนองศึกแสดงทรรศนะจริง ๆ คงต้องมาดูกันสักหน่อยแล้วว่ามีทีมไหนกันบ้าง
สำหรับกลุ่มลุ้นแชมป์ไทยลีกปีนี้เชื่อว่าไม่น่าจะหนีจากปีก่อนนักไม่ว่าจะเป็น "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด" แชมป์เก่าและเต็งหนึ่งของซีซั่น ส่วนเต็งสองย่อมต้องเป็นคู่แค้นอย่าง "เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด" ส่วนทีมที่มีลุ้นสอดแทรกขึ้นมามีตั้งแต่ ชลบุรี เอฟซี, สุพรรณบุรี เอฟซี, บางกอกกล๊าส เอฟซี และบีอีซี เทโรศาสนะ
ด้านกลุ่มหนีตกชั้นฤดูกาลนี้ก็ยังหน้าเดิมที่ลุ้นกันตัวโก่งเมื่อปีก่อน อาทิ เชียงราย ยูไนเต็ด, สงขลา ยูไนเต็ด, แบงค็อก ยูไนเต็ด, ทีโอที เอสซี, ราชบุรี มิตรผล เอฟซี,สมุทรสงคราม เอฟซี และศรีสะเกษ ที่แม้ว่าปีก่อนจะไม่ได้ลงแข่งขัน แต่เชื่อว่าปีนี้น่าจะต้องลุ้นหนักเพื่อการอยู่รอดพอสมควร
บวกเข้ากับหน้าใหม่ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา3 ทีมอย่าง แอร์ฟอร์ซ เอวีเอ, สิงห์ท่าเรือ และปตท.ระยอง เชื่อว่าน่าคอบอลไทยลีกคงจะได้ลุ้นกับการต่อสู้ของกลุ่มลุ้นอยู่รอดกันอย่างสนุกแน่นอน เพราะเท่าที่สังเกตตอนนี้หลายทีมในโซนล่างต่างเสริมทัพปรับทีมกันขนาดใหญ่
ดูแล้วไทยพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2014 คงต้องมองกันนาน ๆ ว่าจะใครจะเป็นหมู่และใครจะเป็นจ่า