ความคาดหวังคือ "กำลังใจ".. ไม่ใช่ความกดดัน
สถานการณ์ของทีมฟุตบอลชาย ทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ หรือเรียกอีกชื่อว่า ทีมชุดอายุต่ำกว่า 22 ปี ยังคงไปได้สวย อยู่บนเส้นทางของการลุ้นแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 16
ทำไมถึงยังบอกว่า "ไปได้สวย" ทั้งที่ฟอร์มการเล่นโดยรวมแล้ว แฟนบอลส่วนใหญ่ต่างลงมติว่า "น่าผิดหวัง"
เหตุผลคือ ทีมชุดเล็กของเรายังไม่แพ้ใครนะครับ ตลอด 4 เกมที่ผ่านมา เสมอ อินโดนีเซีย 1-1 ชนะติมอร์ 1-0 ชนะกัมพูชา 3-0 และนัดที่ 4 ล่าสุด ชนะฟิลิปปินส์ 2-0 รอลุ้นเข้ารอบรองนัดสุดท้ายกับ เวียดนาม ทีมแกร่งที่สุดอีกทีมของทัวร์นาเม้นท์ มันก็ไม่ได้แย่เกินไปนะครับ
หลายคนคงคิดเหมือนกันว่า ทีมฟุตบอลชายชุด "ซีเกมส์" กับ ทีมชุดใหญ่ "ซูซูกิ คัพ" หรือชิงแชมป์แห่งชาติอาเซี่ยน เป็นทีมชาติไทย 2 ทีมที่น่าเห็นใจ แบกความกดดัน แต่ก็สร้างความภูมิใจให้กับวงการฟุตบอลไทยมาโดยตลอดในระยะหลัง
ไม่ผิดที่แฟนบอล คิดถึงคำว่า "แชมป์" ทันที เมื่อถึงเวลาของทั้งสองรายการนี้ ย้ำว่าเป็นสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้นได้ เพราะในปัจจุบันเรามีไทยลีก ที่ถือว่าดีที่สุดในบรรดาลีกของชาติอาเซียนด้วยกัน
นอกจากนี้ วงการฟุตบอลไทย เริ่มมีการพัฒนามีการวางแผนเพื่อปฏิบัติในระยะยาวกันมากขึ้น แม้ว่าจะยังไม่สามารถเอาไปเปรียบเทียบกับมหาอำนาจลูกหนังเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น หรือ เกาหลีใต้ ได้ แต่ก็นับว่าดีกว่าใน "อดีต" มากมายนัก ทำให้เฉพาะในอาเซี่ยน ฟุตบอลบ้านเราพัฒนาจนเหนือชั้นกว่าทุกทีมอยู่แล้วแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ครับ ยืนยันการันตี
ซึ่งด้วยความสำเร็จที่สร้างความสุขให้กับคนไทยมาโดยตลอด อาจทำให้เรารู้สึก "เสพติด" ความสำเร็จในระดับนี้โดยไม่รู้ตัว การลงเล่นของทีมชาติไทย ไม่ว่าจะในซีเกมส์ หรือ ซูซูกิ คัพ ในระยะหลัง นอกจากต้อง "แชมป์" ยังไม่พอ รูปเกมต้อง "สวย" สกอร์ต้อง "ขาด"
ทั้งหมดเหล่านี้ เลยกลายเป็นความกดดันให้กับทั้งนักเตะ, โค้ช และทุกคนที่เกี่ยวข้อง แบกใส่บ่าลงสนามแข่งขันไปด้วย ทั้งที่ความสามารถตัวต่อตัวกับคู่แข่งทั้ง 11 คนที่ลงสนาม เด็กไทยเหนือกว่าทุกทีม แต่ด้วยความคิดที่ว่า รูปเกมต้อง "สวย" สกอร์ต้อง "ขาด" นี่แหละครับ อาจทำให้รูปเกมมีโอกาสเพี้ยนไป จนกระทั่งผลการแข่งขันออกมาอย่างที่เห็น
เรื่องเวลาในการเตรียมทีม ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะทีมชุดนี้รวมตัวกันมายาวนาน อาจจะนานกว่าชุดแชมป์ซีเกมส์ของไทยในอดีตบางชุดด้วยซ้ำ เรื่องความสามารถ นักเตะแต่ละคนในทีมชุดนี้ ต่างก็เป็นดาวรุ่งฝีเท้าดี เป็นที่ยอมรับ ลงเล่นเป็นตัวจริงในไทยลีก ทั้ง 1 และ 2 ได้อย่างสบาย จึงเหลือแต่เรื่องสภาพจิตใจ ที่น้องๆดูจะยังก้าวข้าม “ความกดดัน” ไปไม่ได้
มองอีกมุมคงไม่แฟร์นัก ถ้าจะมองว่าความกดดัน จากความคาดหวัง เสียงเชียร์ของแฟนบอล เป็นตัวการทำให้ทีมเล่นได้ไม่ดี ที่สุดแล้วก็ต้องขึ้นอยู่กับตัวนักเตะเอง อยากจะบอกว่า ถ้าเอาชนะความกดดันไม่ได้ ก็ทำตัวให้คุ้นไปซะเลย เล่นในแบบที่เป็นธรรมชาติ เป็นตัวเองมากที่สุดไม่ต้องฝืน ความคาดหวังคือกำลังใจ ไม่ใช่ความกดดัน คิดได้แบบนี้ มั่นใจว่าแฟนบอลจะได้เห็นฟอร์มที่ดีที่สุดของทีมชุดนี้อย่างแน่นอน
ก็ต้องฝากความหวังไว้กับ หัวหน้าโค้ชอย่าง “โค้ชโย่ง” วรวุฒิ ศรีมะฆะ ที่เคยผ่านซีเกมส์ในฐานะนักเตะมาแล้ว รวมถึงทีมงานที่จะช่วยกันแก้ไขเรื่องจิตใจ เชื่อใจว่าโค้ช และทีมงานทำได้ครับ
“กำลังใจ” เป็นสิ่งที่นักเตะชุดนี้ต้องการเป็นอย่างมาก ช่วยกันเชียร์ต่อนะครับ เกมสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ไทยแลนด์ ปู๊นๆ ของเรา เจอ เวียดนาม วันพฤหัสที่ 24 สิงหาคม เวลา 15.00 โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ ถ่ายทอดสดผ่านทางช่อง 3
ส่วนกีฬาประเภทอื่นๆ ถ้ามีเวลา ก็อย่าลืมเชียร์นะครับ นักกีฬาไทยทุกประเภทกีฬาต้องการกำลังใจ เหมือนบอลไทยเช่นกัน
ส่วนเรื่องการโกงเหรียญ คือเรื่องปกติในซีเกมส์ไปแล้วครับ คิดซะว่าเป็นสีสัน ตลกร้ายของวงการกีฬาก็แล้วกัน จะได้ไม่เครียด
แล้วพบกันใหม่ฮะ