ปธ.ไทยลีกเผยพร้อมตอบรับใช้พรบ.กีฬา

ดร.องอาจ ก่อสินค้า เชื่อว่า พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ จะเป็นผลดีต่อวงการลูกหนังไทยแน่นอน

หลังจากที่ พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ พ.ศ.2556 ได้มีผลบังคับใช้และสิทธิคุ้มครองทางกฎหมายอย่างสมบูรณ์ไปเมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมา โดยมีบทลงโทษผู้ที่ “ล้มกีฬา” คือ จำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2-5 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้ตัดสินเป็นคนล้มกีฬาเอง จะมีโทษหนักขึ้นเป็นจำคุก 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 3-6 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
       
เรื่องนี้ ดร.องอาจ ก่อสินค้า ประธานบริษัท ไทยพรีเมียร์ ลีก กล่าวว่าตนดีใจเป็นอย่างมากที่กฎหมายฉบับนี้ได้ประกาศใช้เรียบร้อย เนื่องจากที่ผ่านมาแม้ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะมีหน่วยงานคอยดูแล แต่ก็ไม่สามารถเรียบกมาสอบหรือเอาผิดได้เต็มที่ ซึ่งเมื่อมีกฎหมายฉบับนี้ก็จะทำให้ทุกอย่างสะดวกขึ้น
       
บอสใหญ่ไทยลีก กล่าวต่อว่า ทางทีพีแอลเตรียมตั้งคณะกรรมการประเมินบุคลากรอาชีพขึ้นมาอีก 1 ชุด เพื่อมีหน้าที่ตรวจพฤติกรรมต่างๆ โดยจะมีการประเมินทุกวันจันทร์หลังจบเกมการแข่งขันประจำสัปดาห์ อีกทั้งยังมีห้องแล็บไว้เป็นที่เก็บข้อมูลหลักฐานหรือเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนเบื้องต้น ซึ่งทุกอย่างคาดว่าจะเสร็จสิ้นใน 1 สัปดาห์
       
สำหรับ พ.ร.บ.ส่งเสริมกีฬาอาชีพ ฉบับนี้ ยังสามารถให้นักกีฬารวมตัวก่อตั้งสหภาพนักกีฬาไว้คอยเป็นกระบอกเสียงร้องทุกข์ได้อีกด้วย