โอลิมปิกเกมส์ 2012 ปิดฉากยิ่งใหญ่

โอลิมปิกเกมส์ 2012 ปิดฉากลงแล้วอย่างยิ่งใหญ่ โดยเจ้าภาพครั้งต่อไปจัดที่เมืองรีโอเดจาเนโรของบราซิล  

พิธีปิดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2012 ครั้งที่ 30 ได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 03.00 น.ตามเวลาไทย ที่สนามโอลิมปิก สเตเดียม กรุงลอนดอน โดยเจ้าภาพ อังกฤษ ใช้นักแสดงจำนวน 4,100 คน

ภายใต้ชื่อชุด "อะ ซิมโฟนี ออฟ บริติช มิวสิก" ควบคุมการแสดงโดยคิม กาวิน ตลอดเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง โดยแนวคิดในพิธีปิดครั้งนี้จะแตกต่างไปจากธีมในพิธีเปิด “Isles of Wonder” หรือไอส์ ออฟ วันเดอร์ (เกาะแห่งความมหัศจรรย์)

เน้นไปที่การเฉลิมฉลองอันยิ่งใหญ่หลังจากการแข่งขันเป็นหลัก ประกอบด้วยดนตรีตั้งแต่ในยุคของเอ็ดเวิร์ด เอลการ์ ตำนานนักแต่งเพลงผู้ยิ่งใหญ่ อะเดล วงแมดเนสส์ เจ้าของเพลงฮิต “แบ็กกี้” วงสไปซ์ เกิร์ล วงเทราเซอร์ส และวงควีนส์ เป็นต้น

ในส่วนของนักกีฬาจะเดินเป็นกลุ่มสู่สนาม ไม่มีการแยกประเทศ ส่วนธงของแต่ละประเทศจะเข้าสู่สนามพร้อมกัน ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฎิบัติมาตั้งแต่โอลิมปิกเกมส์ ที่กรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ตั้งแต่ปี 1965

เพื่อให้นักกีฬาทั้งโลกรวมกันเป็น "ชาติเดียวกัน" และ "ลอรา อซาเดาสไกเต" จากลิทัวเนีย กลายเป็นนักกีฬาคนสุดท้ายที่ได้เหรียญทองในโอลิมปิกเกมส์ 2012 หลังชนะการแข่งขันปัญจกีฬาสมัยใหม่หญิง

ส่วนนักกีฬาไทยนั้น “บิ๊กต้อม” นายธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ที่ทำหน้าที่เป็นครั้งสุดท้าย จะเป็นผู้นำคณะนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ประกอบด้วย เทควันโด มวยสากลสมัครเล่น และกรีฑา ลงสู่สนาม

ก่อนที่ ฌักส์ ร็อกก์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) จะมีการมอบธงให้เอดูอาร์โด เปรส นายกเทศมนตรีกรุงรีโอเด จาเนโร ของบราซิล

ซึ่งจะรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 ในปี 2016 โดยมีเปเล่ ตำนานนักฟุตบอลของบราซิล ได้มาร่วมพิธีรับธงด้วย ส่วนการดับไฟในคบเพลิงค่อยๆ ดับลงแสดงว่าโอลิมปิกเกมส์ 2012 ปิดฉากแล้ว

ขณะที่ สหรัฐกลับมาครองเจ้าเหรียญทองที่ 46 เหรียญทอง ส่วน จีน แชมป์เก่า ครองอันดับ 2 มี 38 เหรียญทอง และเจ้าภาพ สหราชอาณาจักรอยู่อันดับ 3 ที่ 29 เหรียญทอง

ส่วนไทยอยู่อันดับ 57 จากการได้ไป 2 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง.