ฉาวๆโอลิมปิก
แม้ "ลอนดอนเกมส์ 2012" จะปิดฉากลงไปแล้วแต่ก็ขอทิ้งทวนด้วยควันหลงเล็กๆ น้อยๆ กันหน่อย
ไม่ใช่แค่คนไทยอย่างเราๆ เท่านั้นที่รู้สึกตะหงิดกับการตัดสินของเหล่ากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในโอลิมปิกหนนี้ เพราะแม้แต่พวกฝรั่งมังค่าซึ่งน่าจะเข้าข้างกันเองนั้นก็ยังรู้สึก "ฉงน" ไม่น้อยกับหลายๆ ความฉาวโฉ่ที่เล็ดลอดออกมา
และไม่ได้เกิดรู้สึกตะหงิดเพราะกระแสความฉาวจากคำตัดสินระดับ "บัดซบ" ในกีฬามวยสากลสมัครเล่นที่เป็นข่าวครึกโครมบนหน้าหนังสือพิมพ์บ้านเขาอยู่ในขณะนี้หลังมีการแฉเรื่อง ไอบา (สมาคมมวยสากลสมัครเล่นนานาชาติ) รับสินบน 10 ล้านดอลลาร์จากอาเซอร์ไบจาน ร้อนถึง ชิง กั๊วะ วู ประธาน ไอบา ต้องดิ้นเร่าๆ ขู่จะฟ้องกลับให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
แน่นอนว่าแฟนกีฬาชาวไทยทุกคนต่างก็รู้สึกเจ็บแค้นกับความพ่ายแพ้ต่อ ซู ซิ หมิง กำปั้นแชมป์โลกชาวจีนอย่างค้านสายตาในรอบชิงเหรียญทอง เพราะไม่ว่าจะดูมุมไหนมองอย่างไรก็ไม่น่าเชื่อว่า แก้ว พงษ์ประยูร นักชกของเราจะแพ้เละเทะด้วยแต้มขาดกระจุยเหมือนมวยคนละชั้นขนาดนั้น
โดยเฉพาะช็อต "ตัดแต้มลึกลับ" ที่ตัวนักกีฬาและ โอมาร์ พารากอน เฮดโค้ชชาวคิวบาต้องออกมาโวยวายอย่างหัวเสียว่ามันเป็นไปได้อย่างไรและเพราะอะไร หนำซ้ำคะแนนดิบจากกรรมการห้าคนที่เปิดเผยภายหลังว่า แก้ว แพ้มากสุดถึง 13 หมัดก็ทำเอาอึ้งกันไปทั้งโลก (ยกเว้น จีน กับ ไอบา จนถึงขั้นมีคนอำว่า ซู ซิ หมิง เป็นลูกบุญธรรมของ ชิง กั๊วะ วู ไปนั่น)
นอกจากไฟต์ของ แก้ว ที่ค้านสายตาประชาชีมากที่สุดแล้ว ไฟต์ระหว่าง ซาโตชิ ชิมิซุ จากญี่ปุ่นกับ มาโกเหม็ด อับดุลฮามิดอฟ จากอาเซอร์ไบจานก็ค้านสายตาไม่แพ้กัน โดยฝ่ายหลังถูกนักชกแดนปลาดิบถลุงลงไปกองกับพื้นถึงหกครั้งในยกที่สามแต่กรรมการเจ้ากรรมยังปล่อยให้ชกต่อไปทั้งที่ต้องจับแพ้น็อกตามกฏไปตั้งแต่นอนจูบฝุ่นในหนที่สามแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น อับดุล ฮามิดอฟ ยังเป็นฝ่ายชนะคะแนนชนิดสุดค้านสายตาอีกต่างหาก(แม้ญี่ปุ่นจะประท้วงและได้รับการกลับคำตัดสินในภายหลัง) เช่นเดียวกับอีกไฟต์หนึ่งที่ อาลี มาซาเฮรี นักชกชาวอิหร่านถูกปรับแพ้ด้วยข้อหาถูกเตือนด้วยข้อหา "ก้มต่ำเกินไป" ซ้ำกันสามครั้งทั้งที่รอบก่อนหน้านั้นเจ้าตัวไม่เคยโดนเตือนด้วยข้อหาดังกล่าวเลยด้วยซ้ำ
สุดท้าย ไอบา ต้องแก้เก้อด้วยการส่งตัวสองกรรมการที่ตัดสินในไฟต์ ชิมิซุ กับ มาซาเฮรี กลับบ้านไปเพื่อไม่ให้เกิดข้อครหามากไปกว่าที่เป็นอยู่ และแม้จะสาธยายมายาวพอสมควรแต่ความน่ากังขาและความฉาวในมหกรรมกีฬาห้าห่วงยังมีมาให้เล่ากันอีกเพียบ เพราะโอลิมปิกหนนี้มัน "ไม่ใช่แค่มวย"!!
จักรยาน (Cycling)
ฟิลิป ฮินเดส นักปั่นจักรยานทีมชาติสหราชอาณาจักรยอมรับอย่างระรื่นหน้าชื่นตาบานว่าจงใจแกล้งล้มระหว่างควบบนหลังอานเพื่อให้ทีมของเขาได้กลับมาออกสตาร์ทใหม่โดยหวังจะทำเวลาให้ดีกว่าเดิมและก็ดันทำสำเร็จพร้อมคว้าเหรียญทองไปครองอย่างหน้าด้านๆ ด้วยเวลา 42.600 นาที แถมทำลายสถิติโลกอีกต่างหาก
และด้วยความที่เป็นเจ้าภาพเส้นเลยหนายิ่งกว่าเส้นก๋วยจั๊บ ไอโอซี (คณะกรรมการโอลิมปิกสากล) รวมทั้ง ไอซียู (สมาคมจักรยานนานาชาติ) ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบกับผลการแข่งขันในกีฬาชนิดนี้โดยตรงกับฟันธงโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดว่า "ถูกต้องนะคร้าบบ" เป็นชัยชนะที่ถูกต้อง ไร้ข้อครหา และปราศจากราคี แม้ชาติอื่นๆ จะรุมประท้วงกันแทบดิ้นก็ตาม
แม้สุดท้ายสมาคมน่องเหล็กเมืองผู้ดีจะโร่ออกมาแก้ต่างกระแสวิจารณ์ที่เกิดขึ้นทันควันด้วยการ "แถ" (แบบไม่เนียน) ว่าบทสัมภาษณ์ของ ฮินเดส เกิดจากการเข้าใจผิดระหว่างการสื่อสารเนื่องจากนักปั่นวัย 19 ปีภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงเพราะเพิ่งย้ายถิ่นฐานจากเยอรมันมาอยู่ในอังกฤษได้เพียงสองปีเท่านั้น
ฟันดาบ (Fencing)
ชิน อา ลัม นักกีฬาฟันดาบสาวทีมชาติเกาหลีใต้ถึงกับต้องปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใครเพราะความผิดพลาดเล็กน้อยอันใหญ่หลวงของฝ่ายจัดการแข่งขันในเรื่องอุปกรณ์ เมื่อ "นาฬิกาเจ้ากรรม" ดันเซตเวลาใหม่จาก "0" กลับมาเป็น "1" วินาที เปิดช่องให้ บริตต้า ไฮเดมันน์ จากเยอรมันโจมตีทีเผลอพร้อมถีบเธอตกรอบทันทีท่ามกลางเสียงโห่ของผู้ชมทั้งสนาม
สมาคมฟันดาบเกาหลีใต้รับไม่ได้เป็นอย่างยิ่งกับเรื่องที่เกิดขึ้นพร้อมกับยื่นเรื่องประท้วงต่อ ไอโอซี ให้ตรวจสอบความบ้าบอของเรื่องนี้ ทว่าสุดท้ายก็เข้าตำรา "นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว" ไอโอซี ตีนิ่งและปล่อยให้มีการชิงชัยกันต่อไป และเป็น ยาน่า เชมยากิน่า จากยูเครนที่ได้เหรียญทองไปครอง ขณะที่ ไฮเดมันน์ เหรียญเงิน และยูจี ซุน เหรียญทองแดง
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียหน้ามากเกินไป เอฟไออี (สมาคมฟันดาบนานาชาติ) ซึ่งก็มีส่วนรับผิดชอบในกีฬาชนิดนี้ด้วยเช่นกันนั้นเลยจัดการมอบเหรียญเชิดชูเกียรติที่แสดงถึงความมุ่งมั่นและเคารพกฎให้ ชิน อา ลัม เป็นการปลอบใจ แต่ก็ถูกเธอปฏิเสธไปตามระเบียบ
แบดมินตัน (Badminton)
กีฬาตบลูกขนไก่ก็ฉาวโฉ่ไม่แพ้ใครในโลกนี้เหมือนกัน เมื่อนักกีฬาแบดมินตันสาวๆ ในประเภทหญิงคู่ทั้งแปดรายพร้อมใจกัน "ยอม" ให้เพื่อนร่วมอาชีพเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะไป...อย่างมีนัยยะและสุดแสนจะไม่เนียนเพราะความพ่ายแพ้ในเกมนั้นหมายถึงเส้นทางอันสุกใสในเกมหน้า
พวกเธอต่างก็อยากจะแพ้ด้วยกันทั้งนั้นเพื่อเลี่ยงไม่ให้เจอกับตัวเก็งเหรียญทองในรอบต่อไป แต่สุดท้ายหนท้างข้างหน้ากลับเป็นนรกเมื่อจอมหวดสาวทั้งแปดราย หยู่ หยาง และหวัง เสี่ยวลี่ จากจีน, จุง คยุง อุน, คิม ฮา นา, ฮา จุง อุน และ คิม มิน จุง จากเกาหลีใต้และ เมเลียน่า จูฮารี่ และ เกรย์เซีย โปลี จาก อินโดนีเซียถูกปรับแพ้ด้วยกันทั้งหมด
โดยเฉพาะในรายของ หยู่ หยาง เจ้าของเหรียญทองแบดมินตันหญิงคู่เมื่อครั้ง "ปักกิ่ง 2008" และหนึ่งในตัวเต็งเหรียญทองหนนี้ถูกประณามอย่างหนักทั้งจากทั่วโลกและในชาติของเธอเองจนถึงขั้นตัดสินใจหันหลังให้กับวงการลูกขนไก่ไปในทันที
เรื่องโดย "นนท์"