10 ตัวเต็งแข้งยอดเยี่ยมพรีเมียร์ Part 1

10 ตัวเต็งแข้งยอดเยี่ยมพรีเมียร์ Part 1

10 ตัวเต็งแข้งยอดเยี่ยมพรีเมียร์ Part 1
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : นับถอยหลังอีก 2 เดือนกว่าๆ เวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะปิดฉากลง และหลีกทางให้การแข่งขันฟุตบอลทัวร์นาเมนท์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นั่นก็คือ ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ในอีกหนึ่งเดือนถัดไป

ฟุตบอลลีกแต่ละประเทศเริ่มจะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว ว่าใครจะได้แชมป์ ใครจะได้พื้นที่ฟุตบอลยุโรป และใครจะต้องคอตกถูกลดชั้นไป ลีกยักษ์ใหญ่ทั้ง 5 ลีกดัง ที่แฟนบอลชาวไทยกำลังให้ความสนใจกันอยู่ในขณะนี้อย่าง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี, ลาลีกา สเปน, ลีก เอิง ฝรั่งเศส และบุนเดสลีกา เยอรมัน ทั้งหมดทั้งมวลนั้นกำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของซีซั่นทั้งหมด

สิ่งที่สื่อและแฟนบอลไม่เคยลืม นอกจากผลงานสรุปเมื่อจบซีซั่นของสโมสร ยังมีสิ่งที่เรียกว่ารางวัลส่วนบุคคล จากการทำงานอันเหนื่อยหนักของนักเตะเอง ไม่ว่าจะอยู่กับทีมไหน ตำแหน่งใด ล้วนแล้วแต่ถูกนำมาพิจารณาทั้งสิ้น วันนี้ผมจะขอยกรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของลีกฟุตบอลที่ชาวไทยให้ความสนใจกันมากที่สุด นั่นก็คือ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาพูดคุยกัน

ฟุตบอลลีกผู้ดี มีการให้รางวัลนักเตะที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุดในทุกๆ ปี โดยแบ่งออกเป็นสถาบันใหญ่ๆ 2 สถาบันคือ สมาคมนักข่าว และสมาคมนักเตะอาชีพ หรือที่เรียกกันว่า "พีเอฟเอ"

แน่นอนว่า ณ ตอนนี้ ยังไม่ได้มีการประกาศชื่อผู้เข้าชิงหรือนักเตะเข้าข่ายไม่ว่าจะเป็นของสถาบันไหน ทำให้สื่อหลายสำนักคาดการณ์กันไปต่างๆ นานา ว่าจะมีใครบ้างที่พวกเขาประทับใจในผลงาน เนื่องจากปัจจุบันเหลือการแข่งขันอีกเพียง 10 นัดสุดท้ายก็จะปิดซีซั่นกันแล้ว โดยผมจะขอหยิบยกรายชื่อ 10 ผู้เล่นที่เป็นแคนดิเดตส์ ในรางวัลนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ caughtoffside.com เป็นอย่างสูงครับ... เอาเป็นว่าเราไปชม 10 ผู้เล่นที่น่าจะได้เข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2013-14 กันดีกว่า

10. เวย์น รูนี่ย์ (แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด)

ในเว็บไซต์กล่าวว่ากองหน้าร่างอวบรายนี้ เบียดมาอยู่อันดับ 10 ด้วยการกระชาก โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หอกเบอร์หนึ่งของ อาร์เซน่อล มาได้อย่างหวุดหวิด เวย์น รูนี่ย์ เพิ่งทำลายเพดานค่าเหนื่อยของลีกด้วยการเซ็นสัญญาต่อไปกับทีมจนถึงซัมเมอร์ปี 2019 รับทรัพย์สูงปรี๊ด 3 แสนปอนด์ ต่อสัปดาห์ ปัจจุบันนี้อาจเรียกได้ว่าเป็นนักเตะคนเดียวที่ เดวิด มอยส์ ใช้งานเป็น โดยผลงานในซีซั่นนี้ เจ้าตัวยิงไปแล้ว 10 ประตู แอสซิสต์อีก 9 ลูก กลายเป็นคนคอยแบกทีมไว้บนบ่าอย่างเห็นได้ชัด และไม่ต้องสงสัยว่าเขาจะกลายเป็นกัปตันทัพ "ปีศาจแดง" คนต่อไป

9. เซร์คิโอ "กุน" อเกวโร่ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม เซร์คิโอ อเกวโร่ ถึงมีชื่ออยู่ใน 10 นอมินีฤดูกาลนี้ ด้วยผลงานที่เขาทำกับทัพ "เรือใบสีฟ้า" ลงสนามเป็นตัวจริงไปเพียง 15 นัด ยิงได้ 15 ประตู!! คิดถัวเฉลี่ยง่ายๆ บ้านๆ คือยิงได้ทุกนัดที่ลงเป็นตัวจริง ซึ่งแน่นอนว่าเขากลายเป็นนักเตะที่มีสถิติตรงนี้ดีที่สุดในยุโรป (อัตราส่วนการยิงประตูต่อการลงสนาม) และสังเกตุง่ายๆ เวลาเขาไม่ได้อยู่บนสนาม แมนฯ ซิตี้ ก็มีปั่นป่วนอยู่เหมือนกัน นี่ขนาดไม่ได้ลงเล่นไปถึง 12 นัดในซีซั่นนี้ ยังทำได้ขนาดนี้ หากได้ลงทุกนัดไม่มีอาการบาดเจ็บ ผมว่าป่านนี้ "เรือใบ" อาจจะเป็นแชมป์ไปแล้วก็ได้

8. โลร็องต์ กอสเซียลนี่ (อาร์เซน่อล)

นานๆ จะมีนักเตะตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กติดโผกับเค้าบ้าง โดยเฉพาะยุคหลังๆ ที่ส่วนใหญ่จะจับตามองกันแต่สตาร์ดังที่เป็นพวกสังหารประตูเป็นกอบเป็นกำ แต่ซีซั่นนี้ต้องยกให้ โลร็องต์ กอสเซียลนี่ เขาเลยจริงๆ ความแข็งแกร่งของ อาร์เซน่อล ในฤดูกาลนี้ อาจจะมองได้ว่าพวกเขาสมควรได้รับคำยกย่องกันทั้งทีม แต่กองหลังรายนี้ต้องยกให้เป็นกุญแจสำคัญในการคว้าชัยชนะ ด้วยการจับคู่สุดโหดกับ แพร์ แมร์เตซัคเกอร์ เป็นคู่เซ็นเตอร์ที่สกัดบอลมากที่สุดในลีก และที่สำคัญ เขากลายเป็นนักเตะที่มีเปอร์เซ็นต์จ่ายบอลเข้าเป้ามากที่สุดในลีก (93.3 เปอร์เซนต์) อีกด้วย

7. ดาบิด ซิลบา (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)

แน่นอนว่าการที่ทัพ "เรือใบสีฟ้า" ยิงประตูใส่คู่แข่งได้ถึง 69 ประตู มากสุดเป็นอันดับที่ 2 ของลีก และกลายเป็นสโมสรที่ยิงประตูครบ 100 ลูกได้ก่อนใครในยุโรปเมื่อรวมทุกรายการ พร้อมกับมีสถิติเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์อีกด้วย ความดีความชอบ ไม่ได้อยู่แค่กองหน้าอย่าง กุน, เอดิน เชโก้ และอัลบาโร่ เนเกรโด้ คนที่มีส่วนสำคัญอีกหนึ่งคนก็คือ ดาบิด ซิลบา เขาสามารถทำแอสซิสต์ได้ถึง 7 ครั้งในซีซั่นนี้ และกลายเป็นนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยการจ่ายบอล "คิลเลอร์พาส" ต่อเกมมากที่สุดในบรรดานักเตะยุโรปทั้งหมดที่ 3.9 ครั้งต่อเกม

6. แดเนียล สเตอร์ริดจ์ (ลิเวอร์พูล)

นับตั้งแต่ย้ายชายคามาอยู่ในรั้ว แอนฟิลด์ "หริด" ก็เติบโตขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีบางจังหวะที่ยังติดกระชากลากเลื้อยอยู่บ้าง แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นที่จะทำให้เขาไม่เข้าข่ายนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนี้ แม้ว่าเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา "หงส์แดง" บุกไปถล่ม เซาธ์แฮมป์ตัน 3-0 สเตอร์ริดจ์ จะไม่สามารถยิงประตูได้ แต่หารู้ไม่ว่านั่นเป็นการหยุดสถิติการทำประตูติดต่อกัน 8 นัดของเจ้าตัวอีกด้วย ซึ่งสถิติปัจจุบันต้องถือว่าโหดเหี้ยมต่อคู่แข่งมากทีเดียว ลงสนามเป็นตัวจริง 18 นัดยิงไปแล้ว 18 ประตู พร้อมกับรั้งอันดับรองดาวซัลโวของลีกด้วย เป็นรองแค่คู่หู SAS อย่าง หลุยส์ ซัวเรซ ก็เท่านั้น

P.D.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook