ซง เก่งเว่อร์!

คำเตือน! สำหรับใครก็ตามที่เป็นแฟนคลับของ อเล็กซ์ ซง หรือแอบตามกรี๊ดกร๊าดในฝีเท้า ของดาวเตะรายนี้เป็นชีวิตจิตใจ (คาดคะเนเอาเองว่าคงไม่มีใครกรี๊ดเขาจากหน้าตา) ได้โปรดจงคลิกปิดบทความเพจนี้โดยพลันไปเลยนะครับ...

แต่สำหรับใครก็ตาม ที่ถวายวิญญาณมอบความจงรักภักดีเป็นสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" แล้วล่ะก็.....บางทีบทความนี้อาจช่วยเยียวยาท่านทั้งหลายให้คลายความเคียดแค้น, ความเศร้า หรืออารมณ์ติดลบต่างๆ นาๆ ในช่วงนี้ได้บ้าง

สำหรับใครบางคนแล้ว คงเป็นเรื่องไร้สาระนะครับหากเราจะบอกว่า "อเล็กซานเดอร์ ดิมิทรี ซง บิลลง" เป็นเพียงแค่นักเตะดาดๆ คนหนึ่งเท่านั้น เพราะข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาก็คือ แข้งหัวสัปปะรดวัย 24 ได้พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาชนิดที่เรียกได้ว่า "ก้าวกระโดด" จนพาตัวเองก้าวเข้าไปเป็น 1 ในนักเตะระดับขวัญใจของแฟนๆ "ปืนใหญ่" ได้อย่างง่ายดาย

เพราะถ้าไม่นับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ แล้ว...ซง คือขุนแข้งที่ได้รับเสียงโหวตจากแฟนๆ "เดอะ กันเนอร์ส" ให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งฤดูกาล 2011-2012!

เสียง แซ่ซ้องแผ่ขยายดังกังวานอย่างต่อเนื่อง บ้างก็ถึงขั้นว่ากันไปว่า ซง มีโอกาสที่จะพัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นมิดฟิลด์ตัวรับในอุดมคติที่สมบูรณ์แบบที่ สุดคนหนึ่งในวงการลูกหนัง ด้วยทักษะการเล่นเกมรับที่เนียนตา, มีวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอล, กล้าเติมเกมรุก และเขาคือห้องเครื่องระดับกุญแจเลี่ยมทองที่ อาร์เซน่อล จะขายเสียมิได้

นิยาม ของมิดฟิลด์ตัวรับที่มีดีมากกว่าแค่เล่นเกมรับ เขาเป็นมากกว่า โคล้ด มาเกเลเล่ หรือ ฮาเวียร์ มาสเคราโน่ แต่เขาสมบูรณ์ได้เทียบชั้นกับ ปาทริค วิเอร่า, ดิดิเยร์ เดส์ชองส์ หรือแม้กระทั่ง แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด ซึ่งถือเป็นห้องเครื่องตัวรับในแบบฉบับของโลกฟุตบอลสมัยใหม่

นั่นก็เป็นเรื่องของการ "อวย" ที่อาจจริงบ้างหรือมั่วบ้าง

อีก 1 ข้อเท็จจริงที่ทนโท่เช่นเดียวกันตลอด 4 ปีที่ผ่านมาก็คือสถิติ 170 ประตู ที่ อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายโดนคู่แข่งทะลวงตาข่ายไปในการแข่งขันเกมลีก ซึ่งถือว่าแย่ที่สุดในกลุ่ม บิ๊กโฟร์ ด้วยกันเอง

นั่นมันก็หน้าที่ความรับผิดชอบของ ซง ด้วยใช่หรือไม่!

บาง คนอาจเถียงคอเป็นเอ็นว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นกัน 11 คน กับอีก 3 แข้งสำรอง จะโทษนักเตะเพียงคนเดียวสำหรับการถูกเจาะประตูเป็นเข่งได้ยังไง...แต่ถ้าเรา ลองพิจารณาถึงคุณสมบัติของทีมต่างๆ ที่ประสบความสำเร็จในช่วง 10 ปีหลังสุด พวกเขาล้วนแล้วแต่มีห้องเครื่องตัวตัดเกมชั้นเทพประดับอยู่ในทีมกันทั้งนั้น

แผง แบ็กโฟร์ของ บาร์เซโลน่า มีภาระรุงรังให้ต้องแบกน้อยมาก เมื่อพวกเขามี เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ คอยยืนปัดกวาดอยู่ข้างหน้า ขณะที่ทีมชาติฮอลแลนด์ พาตัวเองเข้าไปถึงนัดชิงชนะเลิศศึกเวิลด์คัพ 2010 ด้วย 2 ฮาร์ดแมนอย่าง มาร์ค ฟาน บอมเมล และไนเจล เด ยองก์

แม้จะเก่งครอบจักรวาลสักเพียงไหน เราคงต้องไม่ลืมเช่นเดียวกันว่าหน้าที่หลักของกองกลางตัวรับ มันก็ยังคงเป็นการเล่นเกมรับอยู่วันยังค่ำ ซึ่ง ซง ก็ไม่ใช่ข้อยกเว้นตรงจุดนี้ หลายๆ ครั้งเราจะเห็นได้ว่าดาวเตะดีกรีทีมชาติแคเมอรูน เป็นคนที่ขาดวินัยมากจนเกินไป

เพราะในช่วงที่ผู้เล่นของ อาร์เซน่อล ทุกคนรักษาระเบียบในการเล่นอย่างเคร่งครัด ซง ก็ดูเหมือนจะอดใจไม่ได้ที่จะพาตัวเองขึ้นมามีส่วนร่วมในเกมรุก จนอาจพาลเข้าใจผิดได้ว่าเขากำลังพยายามที่จะทำตัวเป็นเพลย์เมกเกอร์มากเกิน ไปหรือไม่

ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะทำสถิติจ่ายให้เพื่อนทะลวงตาข่าย ได้ถึง 14 ครั้งเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เพราะการทิ้งตำแหน่งของตัวเองบ่อยๆ ย่อมไม่ใช่คุณสมบัติที่ดีของผู้เล่นเกมรับเป็นแน่!

โรเจริโอ เซนี่ อาจเป็นผู้รักษาประตูที่ยิงได้มากกว่า 100 ลูก....แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนายทวารที่สมบูรณ์แบบ แต่อย่างใด

หลายต่อหลายเกมที่ อาร์เซน่อล แสดงให้เห็นถึงช่องว่างที่ชัดเจนระหว่างมิดฟิลด์กับแผงแนวรับ ที่เห็นได้ชัดเจนแจ่งแจ้งก็คือการโดน เอซี มิลาน ไล่ถลุงถึง 4-0 ใน แชมเปี้ยนส์ลีก รอบน็อกเอาท์ เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา

กับการย้าย ไปอยู่กับทีมที่เชี่ยวชาญในด้านการต่อบอลภาคพื้นดินอย่าง บาร์เซโลน่า เชื่อได้เลยว่า ซง จะมีปัญหากับการปรับตัวให้เข้ากับปรัชญาของทัพ "อาซูลกราน่า" ไม่มากก็น้อยอย่างแน่นอน เพราะความขี้เกียจและนิสัยชอบทิ้งตำแหน่งเป็นนิจของเขา คงไม่ใช่สิ่งที่ ชาบี เอร์นานเดซ, อันเดรียส อิเนียสต้า หรือ ลิโอเนล เมสซี่ ปลาบปลื้มเป็นแน่แท้

กับค่าตัว 15 ล้านปอนด์! บาร์เซโลน่า คงไม่ได้คาดหวังให้ ซง มานั่งตบยุงสบายแฮที่คอกม้านั่งสำรอง...เพราะอย่างที่ทราบกันว่า ติโต้ บิลาโนบา เทรนเนอร์หนุ่มมือใหม่ เป็นคนรีเควสนักเตะคนนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งถ้าหากนักเตะสัญชาติ "หมอผี" ไม่ได้เล่นดีอย่างที่คาดหวังไว้จนพาลฉุดทีมให้ตกต่ำ!

งานนี้ ติโต้ ก็จะได้โดน อีโต้ สับเละเสมือนเป็นหมูนอนแช่ในมาม่านั่นแหล่ะครับ

เรื่องโดย"ยอดขวัญ"