มิติแห่ง‘แดงเดือด'
พรีเมียร์ลีกสัปดาห์นี้พิเศษครับ
ผมจะได้เดินทางไปสู่ประเทศอังกฤษ ครั้งที่ 2 ในรอบ 2 เดือน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการทำงานในโอลิมปิกเกมส์ 2012 แบบเหนื่อยแทบลากไส้
มาวันนี้จะได้ไปออนทัวร์แบบผ่อนคลายแบบสบายใจสบายอารมณ์ กับโครงการลิโพยูโรมาเนีย ที่ทายผลลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปนั่นแหละ
สำคัญที่สุดนั่นก็คือ เกมที่จะไปดูนั่นก็คือแดงเดือด ระหว่าง "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล กับ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่สนามแอนฟิลด์
เกมนี้ถือว่ามีความสำคัญอย่างที่สุดจริงๆ
ประเด็นมันก็คือ ลิเวอร์พูล จะพลาดไม่ได้อีกแล้ว หลังจากพลาดท่ามาแล้วถึง 4 เกมในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้
ที่สำคัญ ประเด็นมันก็คือ นี่คือหนแรกที่ ลิเวอร์พูล จะลงเตะในแอนฟิลด์หลังจากได้รับชัยชนะจากคดีฮิลส์โบโร่
สิ่งที่น่าพอใจอย่างมากนั่นก็คือ ทีมจากฝั่งสีแดงแห่งแมนเชสเตอร์ พร้อมจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการจัดพิธีไว้อาลัยโศกนาฏกรรมฮิลส์โบโร่ ที่สนามแอนฟิลด์ ก่อนเปิดศึกแดงเดือด
สนามแอนฟิลด์จะมีการเนรมิตทั้งการแปรอักษรบนอัฒจันทร์ และให้กัปตันทั้งสองทีมได้ปล่อยลูกโป่ง 96 ลูก ร่วมกับตัวแทนแฟนบอล
ที่สำคัญ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ "ปิศาจแดง" ยืนยันชัดเจนว่า ยูไนเต็ด พร้อมที่จะให้ความร่วมมือเต็มที่ในเรื่องนี้กับ ลิเวอร์พูล
ขณะที่ เนมานย่า วิดิช กัปตันทีมแมนฯยูไนเต็ด ก็ออกมาให้ความเชื่อมั่นว่าบรรดาสาวก "ปิศาจแดง" จะประพฤติตัวดีอย่างแน่นอนระหว่างการจัดพิธีแสดงความไว้อาลัยให้แก่ผู้เสียชีวิตทั้ง 96 ศพ
แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีแฟนบอลบางกลุ่มตะโกนล้อเลียนเหตุการณ์ดังกล่าว ในเกมล่าสุดกับ วีแกน แอธเลติก ก็ตาม
อย่างไรก็ตาม วิดิช เชื่อมั่นว่า บรรดาทีมใหญ่ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน และพวกเรากำลังจะเดินทางไปเพื่อเล่นฟุตบอล
เช่นเดียวกันครับว่า ผมก็เชื่อแบบนั้น
ความเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่นั้น จะเป็นได้ไม่ใช่แค่ผลงานในสนามเท่านั้น หากแต่ว่าเป็นทีมที่มีหัวใจเป็นนักกีฬา มีหัวใจแห่งความเป็นมหามิตร
ก่อนหน้านี้ เอฟเวอร์ตัน ได้แสดงออกถึงความรักความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนมนุษย์ เมื่อทำในสิ่งที่ทั่วโลกเห็นแล้วต้องปรบมือให้ และเชื่อว่ายังไงซะ สาวกของยูไนเต็ด ก็สามารถทำแบบนั้น เช่นเดียวกับพวก "เลือดเดียวกัน" อย่างเอฟเวอร์ตัน ได้ไม่ยาก
สปิริตคือเรื่องที่สำคัญที่สุด ที่เราจะได้เห็นอะไรที่มีมากกว่าเกม 90 นาที!
เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"