เห็นอะไรมั๊ย!''เดอะ ค็อป''
ความห้าวความก๋ากั่นของ "เร้ด แมชชีน ฉบับมินิ" นี่แหละที่จะทำให้ แฟนบอล ลิเวอร์พูล กล้าที่จะฝันว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้
ออกสตาร์ท 5 นัดยังไม่ชนะ เสมอ 2 แพ้ 3 มีเพียง 2 แต้ม รั้งอยู่ในอันดับที่ 18 ของตาราง นับเป็นการออกสตาร์ทที่แย่ที่สุดในรอบ 101 ปีในประวัติศาสตร์สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล ที่ในชั่วโมงนี้คำว่า "ยักษ์หลับ" คงใช้ไม่ได้สำหรับพวกเขาซะแล้ว แต่คำที่ดูน่าจะเหมาะสมที่สุดน่าจะเป็นคำว่า "ยักษ์โดนวางยาสลบ" มากกว่า
โดยเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาพลพรรค "หงส์แดง" ดูจะมีการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ไล่ตั้งแต่ผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรยันนักเตะ ซึ่งหากจะบอกอย่างเต็มปากเต็มคำว่า "เร้ด แมชชีน" จะกลับมาลุ้นแชมป์ทันทีในซีซั่นนี้ก็คงจะพูดได้ไม่สุดเสียงนัก ซึ่งจะว่าไปแล้วการเสริมทัพของ ลิเวอร์พูล ยุคนี้ก็ไม่ได้ถูกอกถูกใจเหล่าบรรดา "เดอะ ค็อป" มากนัก
ราฮีม สเตอร์ลิ่ง แจ้งเกิดในทีมชุดใหญ่รายแรก ด้วยคาแร็กเตอร์ ไวปานวอก
ผู้เล่นหน้าใหม่ที่ถูกตั้งความหวังไว้มากที่สุดก็มีเพียงแค่ โจ อัลเลน และ ฟาบิโอ บอรินี่ เท่านั้น ซึ่งเด็กหงส์ทั้งหลายก็อาจจะลืมชายตามอง ดาวรุ่งตาดำๆที่รอโอกาสอยู่ในทีมชุดเยาวชน โดย ราฮีม สเตอร์ลิ่ง ปีกตัวจิ๊ดเชื้อสายจาเมก้าวัย 17 ปีคือเป็นตัวจุดประกายความหวังในการจดทะเบียนแจ้งเกิดกับทางอำเภอของบรรดาแข้งวัยกระเตาะเป็นคนแรก
โดยหลังจากที่ปีกฟันยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมรายนี้เจิดจรัสแสงในทีมชุดใหญ่ได้ไม่นาน เพลย์เมกเกอร์วัยโจ๋เลือดกระทิงดุนามว่า เฟร์นานโด ซูโซ่ ก็ดูเหมือนว่าจะเดินตามรอยเท้า สเตอร์ลิ่ง มาติดๆ ซึ่งกองกลางสแปนิชรายนี้มีอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น
โดยแข้งรายนี้ได้รับการจับตามองจากทีมงานสตาฟฟโค้ชและแฟนบอลของ ลิเวอร์พูล ว่า จะได้รับโอกาส จาก เบรนแดน รอดเจอร์ส ให้มีส่วนร่วมในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2012/2013 หลังจากที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม พาทีมชาติสเปนชุด U19 คว้าแชมป์ยุโรป 2012 มาสดๆร้อนๆ
น้องรองแห่ง กาดิซ เฟร์นานโด ซูโซ่ ตามมาติดๆ กับบทบาท จอมทัพตัวน้อย!
โดยก่อนหน้าที่จะเลือกมาเซ็นสัญญากับ ลิเวอร์พูล ซูโซ่ ได้เคยบอกปัดข้อเสนอของ เรอัล มาดริด มาแล้ว หลังจากที่ทีม "ราชันชุดขาว" เพียรพยายามจีบมาตลอดในช่วงที่ยังเล่นอยู่ใน ทีมเยาวชนของ กาดิซ โดยเจ้าตัวให้เหตุผลว่าต้องการย้ายมาร่วมทีม ลิเวอร์พูล มากกว่า
ซึ่งไอ้หนูรายนี้ถือเป็นนักเตะพรสวรรค์สูงและมีการปรับตัวที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะเมื่อย้ายเข้ามาสู่ทีม ก็มีโอกาสได้ลงเล่นให้ทีมสำรองที่มีแต่นักเตะที่อายุมากกว่า ซึ่งเพียงนัดแรกเจ้าตัวก็โชว์ฟอร์มเข้าตาทันที ด้วยการยิงประตูสุดสวยช่วยให้ทีม เสมอกับ นิวคาสเซิ่ล 2-2
ซึ่งในวัยเพียงแค่ 16 ปี ซูโซ่ มีโอกาสได้ลงไปสัมผัสประสบการณ์ในทีมชุดใหญ่ ของ "หงส์แดง" มาแล้ว โดยถูกส่งไปเป็นตัวสำรองในเกมกระชับมิตรกับ โบรุสเซีย มึนเช่น กลัดบัด รวมถึงยังได้มีส่วนร่วมในเกม เทสติโมเนี่ยล แมตช์ ของ เจมี่ คาร์ราเกอร์ ที่เชิญ เอฟเวอร์ตัน มาเตะที่ แอนฟิลด์ ด้วย
สถานการณ์สร้าง อังเดร วิสดอม แจ้งเกิดเป็นรายที่ 3 ด้วยคาแร็กเตอร์ ไม้บรรทัด!!
ซูโซ่ ได้รับสัญญาอาชีพจากทีม "หงส์แดง" ทันทีในวันเกิดครบรอบอายุ 17 ปี ซึ่งทำให้ เจ้าตัวก็มีความสุขอย่างมากที่จะมีโอกาสสานความฝันในการลงสนามให้กับสโมสรแห่งนี้
ส่วนในฤดูกาลนี้ ไอ้หนูรายนี้ลงสนามในเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการในรายการ ยูฟ่า ยูโรปาลีก กับทีม "หนุ่มน้อย" ยังบอย เบิร์น จากสวิตเซอร์ที่ พลพรรค "เครื่องจักรสีแดงฉบับมินิ" จัดการอัดทีมจากแดนนาฬิกาไปแบบหายห่วง 5-3 ซึ่งดูจากผลงานของหนูน้อยคนนี้แล้วต้องบอกว่า สอบผ่านแบบไม่ต้องตรวจข้อสอบกันเลย
เล่นไม่เหมือนกับเด็กอายุ 17-18 แถมยังมีลูกเหนือชั้นให้เห็นอยู่บ่อยๆซะด้วยเทคนิครอบตัว แถมยังมีโอกาสสัมผัสกับเกมหนักๆอย่างเกมแดงเดือดมาแล้วและยังมีส่วนร่วมในประตูแรกของ ลิเวอร์พูล ซะด้วย แม้สุดท้ายจะพ่ายไปอย่างน่ากระทืบผู้ตัดสินก็ตาม
แจ็ค โรบินสัน ดันขึ้นชุดใหญ่ไปกดดัน เอ็นริเก้
อย่างไรก็ตาม ใช่ว่าจะมีแค่ดาวรุ่ง 2 รายนี้เท่านั้นที่เจิดจรัสแสงในทีมชุดใหญ่เพราะนอกจาก ราฮีม สเตอร์ลิ่ง และ เฟร์นานโด ซูโซ่ แล้วยังมีบรรดาแข้งจากทีม หงส์น้อย ต่อคิวกันมาแนะนำตัวเองให้เราๆท่านๆได้รู้จักกันบ่อยมากขึ้น อย่างน้อยก็บ่อยกว่ายุคของ รอย ฮอดจ์สัน และ เคนนี่ ดัลกลิช
โดยรายล่าสุดที่ดูแล้วน่าจะมีอนาคตมากว่าเพื่อนน่าจะเป็น อังเดร วิสดอม แบ็คขวาผิวสีที่มีสไตล์การเล่นละม้าย เกล็น จอห์นสัน อยู่กลายๆ ขาดเพียงแค่ประสบการณ์และความนิ่งเท่านั้น ซึ่งไอ้หมอนี่โผล่มาให้เหล่า "เดอะ ค็อป" ได้รู้จักกันเพียงแป๊บเดียวเท่านั้นก็สามารถยิงประตูแรกได้เลยในเกมที่ ลิเวอร์พูล บุกไปตบ ยังบอย เบิร์น ไปแบบเบาะ 5-3
เจอโรม ซินแคลร์ ที่ลงสนามด้วยวัยเพียง 16 ปี 6 วัน
นอกจากนี้ในเกม แคปิตอล วัน คัพ ที่พลพรรค "หงส์แดงน้อย" บุกไปกระซวกไส้ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน 2-1 เมื่อคืนที่ผ่านมา (26 ก.ย.) เหล่าบรรดา "เดอะ ค็อป" หลายๆคนอาจจะได้เห็นอะไรบางสิ่งบางอย่างนอกเหนือจากชัยชนะ ซึ่งสิ่งที่บอกนี้เราไม่ค่อยได้เห็นกันมานานแล้ว นั่นก็คือการปล่อยบรรดาแข้งดาวรุ่งลงสนามกันอย่างหนาตา
รวมไปถึงผู้เล่นสำรองที่ไม่ค่อยมีโอกาสสัมผัสเกมโดยนี้ หงส์แดง ใช้งาน ดาเนี่ยล ปาเชโก้ วัย 21 ปี ,อังเดร วิสดอม วัย 19 ปี ,แจ็ค โรบินสัน วัย 19 ปี ,ซาเมด เยซิล วัย 18 ปี นอกจากยังมีแข้งวัยเอ๊าะที่ลงมาสร้างสถิติเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ลงสนามในทีมชุดใหญ่ของ "หงส์แดง" ด้วย
นั่นก็คือ เจอโรม ซินแคลร์ ที่ลงสนามด้วยวัยเพียง 16 ปี 6 วัน ทำลายสถิติเดิมของ แจ็ค โรบินสัน ที่ทำไว้ 16 ปี 250 วันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่าค่าเฉลี่ยอายุนักเตะในทีมชุดนี้อยู่แค่ 23.19 ปีเท่านั้น และนักเตะ 20 คนมีอายุต่ำกว่า 23 ปี อีก13 คนมีอายุไม่ถึง 20 ปีด้วยซ้ำ
จากตัวเลขดังกล่าวบ่งบอกถึงมิติที่ดีครับ ทีมเราอายุยังคงน้อยอยู่ เล่นด้วยกันไปอีก 7- 10 ปีเป็นอย่างน้อย (ถ้าไม่โดยทีมอื่นฉกตัวไป) ซึ่งดูแล้วค่าเฉลี่ยอายุนักเตะในทีมสามารถบ่งบอกอนาคตของทีมได้เป็นอย่างดี
ขยันขาดใจ! ดาเนี่ยล ปาเชโก้ ลูกศิษย์อาจารย์ เดิร์ค เค้าท์
สุดท้ายนี้อยากจะขอฝากบอก เหล่าบรรดา "เดอะ ค็อป" ไว้ว่าให้ใจเย็นๆก่อน เพราะหากเรามองไปที่ผลงานในช่วงต้นฤดูกาลต้องยอมรับว่ามันน่าผิดหวังสิ้นดี แต่หากจะมองโลกในแง่ดี (ซึ่งเป็นนิสัยทุนเดิมของแฟน ลิเวอร์พูล อยู่แล้ว) เราจะพบว่าในฤดูกาลแรกของ "บี-ร็อด" เขาได้ทำให้เราได้เห็นอะไรบางอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นกันมากนักในช่วงหลังๆ
ไม่ว่าจะเป็นสไตล์การเล่นแบบทที่เรียกวา Tiki Taka หรือการให้โอกาสดาวรุ่งลงสนาม ซึ่งเราๆท่านๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าผลงานของดาวรุ่งในทีมชุดนี้สามารถทำให้แฟนบอล โดยเฉพาะแฟนบอล ลิเวอร์พูล ตื่นเต้นได้มากพอตัวเลยแหละ
ซึ่งตอนนี้ก็เหมือนการวางรากฐานให้กับสโมสรทั้งรูปแบบการเล่น และทัศนคติต่างๆที่ ร็อดเจอร์ส นำเข้ามาเพราะอย่างน้อยๆความห้าวความก๋ากั่นของ "เร้ด แมชชีน ฉบับมินิ" นี่แหละที่จะทำให้ แฟนบอล ลิเวอร์พูล กล้าที่จะฝันว่าสักวันหนึ่งพวกเขาจะกลับมายิ่งใหญ่ให้ได้
และในเมื่อหาโอกาสอวยกันไม่ได้ ก็เลยมาอวยกันดื้อๆแบบนี้เลยละกันนะจ๊ะ
เรื่องโดย "ต้นหิน"