ฟุตบอล : คนพิเศษ "มาริโอ บาโลเตลลี่"
ฟุตบอล : ขึ้นคำว่า "พิเศษ" ความหมายมันก็อยู่ในตัวอยู่แล้ว เป็นเรื่องไม่ธรรมดา ความไม่เหมือนใคร และไม่มีใครเหมือน ไม่งั้นคงจะไม่ใช้คำว่าพิเศษ เป็นคำจำกัดความ ซึ่งบางทีความพิเศษตรงนั้น อาจจะไม่ใช่ด้านดีเสมอไป
นักฟุตบอลส่วนใหญ่ก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน บางคนอาจจะเป็นนักเตะพิเศษ อาจจะเป็นในเรื่องฝีเท้าที่เลิศเลอ อย่างเช่น ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์ของ บาร์เซโลน่า หรือจะ เป็นคริสเตียโน่ โรนัลโด้ สุดยอดนักเตะของ เรอัล มาดริด
แต่บางคนมันก็พิเศษเกินไปจนกลายสภาพเป็นความเกรียน อย่างนักเตะที่ผมจะกล่าวถึงในวันนี้ก็คือ มาริโอ บาโลเตลลี่ ดาวยิงทีมชาติอิตาลี ของสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่นับวัน เริ่มจะแสดงความพิเศษของตัวเองขึ้นมาเรื่อยๆ และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดแต่เพียงเท่านี้
ล่าสุด ตัวของ "ซูเปอร์มาริโอ" ก็แผลงฤทธิ์อีกครั้ง ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอกับ ซันเดอร์แลนด์ ที่เขางอนใส่ โรแบร์โต้ มันชินี่ เทรนเนอร์ของทีม "เรือใบสีฟ้า" ที่เปลี่ยนตัวเขาออกจากเกม กลางคัน เนื่องจาก ว่าตัวของ เจ้าโอ้ ดันเล่นไม่ออก
เท่านั้นแหละ บาโลเตลลี่ ก็แสดงความไม่พอใจออกมาทันที ด้วยการเดินออกจากสนามไม่ยอมอยู่ดูเพื่อนร่วมทีมไล่บดขยี้ ซันเดอร์แลนด์ ไปอย่างสบายเท้า โดย เซร์คิโอ อเกวโร่ กุน ดาวยิงชาวอาร์เจนติน่า ที่ลงสนามไปแทนเขาสามารถยิงประตูสำคัญให้กับทีมได้อีกด้วย
หลังจากนั้น 1 วันให้หลัง มีการเปิดเผยว่า ตอนนี้บาโลเตลลี่ กำลังงอน ทางด้าน มันชินี่ อย่างรุนแรง ล่าสุด บินกลับไปที่ประเทศอิตาลี เป็นที่เรียบร้อย ทั้งๆ ที่ เชซาเร่ ปรันเดลลี่ กุนซือทีมชาติอิตาลี ยังไม่ทันจะประกาศรายชื่อผู้เล่นชุดสู้ศึกฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก
คือตอนนี้ บาโลเตลลี่ นั้นกำลังอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างอึดอัดกับการต้องตกเป็นตัวเลือกอันดับที่ 4 ในแนวรุกของทีม "เรือใบสีฟ้า" จนเป็นเหตุที่ทำให้เขาต้องแสดงพฤติกรรมแบบนั้นออกมา และไม่รู้ว่าจะมีอะไรเพิ่มมาอีกหรือเปล่า
ตอนจบศึกยูโร 2012 บาโลเตลลี่ อยู่ในสถานะซูเปอร์สตาร์ เพราะว่าเป็นดาวซัลโวร่วมประจำทัวร์นาเมนท์ เป็นกำลังสำคัญในการพาอิตาลี ทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ ก่อนที่จะพ่ายให้กับทางด้านของ สเปน ไปอยางหมดรูป แต่ตัวของเจ้าโอ้ ก็ได้รับเลือกให้ติดทีมยอดเยี่ยมของรายการ
แต่พอกลับมาสู่ทีม กลับกลายว่า ตัวเลือกแรกในทีมแมนฯ ซิตี้ ก็ยังคงเป็นทางด้านของ "เอลกุน" และเตเวซ เหมือนเดิม แถมตอนนี้ ถ้าคิดจะส่งตัวสำรองลงไปพลิกเกม ก็ดู จะเป็น เอดิน เซโก้ ที่ มันชินี่ จะโปรดปรานซะมากกว่า
แม้ว่าคนทั้งโลกจะเห็นว่า สิ่งที่ มันชินี่ ทำนั้นถูกต้อง เพราะว่าทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า ตัวของ กุน นักเตะที่ดีที่สุดของทีม แต่สำหรับตัวของ บาโลเตลลี่ เขาไม่เคยคิดเช่นนั้น เพราะเขาเชื่อมั่นมาโดยตลอดว่า เขาคือคนที่เก่งที่สุด ไม่ว่าจะมีใครเห็นแบบเขาหรือไม่
ถ้าหากยังจำกันได้ เมื่อ 2 ปีก่อนที่เขาได้รับเลือกให้เป็นนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมของยุโรป เขาก็ประกาศด้วยความมั่นใจทันทีว่า ในบรรดาคนที่เคยได้รับรางวัลนี้ มีเพียงแค่ ลิโอเนล เมสซี่ คนเดียวเท่านั้น ที่ตัวเขายอมรับว่าเก่งกว่า แต่ก็ไม่มาก ส่วนคนอื่น บาโลเตลลี่ เชื่อว่า ไม่ได้มีฝีเท้าที่ดีกว่าเขาแต่อย่างใด
สิ่งที่เขาพูดออกมาเหมือนจะเอาฮา แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เช่นนั้น เขาพูดจากใจจริง สิ่งที่เจ้าโอ้ ทำมาทั้งหมด หลายคนจะมองว่า ไอ้นี่มันบ้า ไอ้นี่มันเกรียน แต่นั่นคือสิ่งที่ความพิเศษในตัวตนของเขาแสดงออกมา
ที่งอนมันชินี่ ก็เพราะอยากให้ตัวของผู้เป็นโค้ชให้ความสนใจ ซึ่งเชื่อเถอะว่า อีกไม่นาน ทั้งคู่ก็จะกลบมาดีกันเหมือนเดิมอย่างแน่นอน แต่ให้หายงอนก่อน ซึ่ง มันชินี่ ก็รู้ดี ก็เลยไม่ได้เครียดอะไรกับเรื่องนี้มาก
เรื่องฝีเท้านั้น บาโลเตลลี่ จัดได้ว่าเป็นของจริง แต่เขาก็เป็นเหมือนเพชรที่ต้องได้รับการเจียระไนเป็นอย่างดี และคนที่จะเจียระไนเขาต้องเป็นคนที่เหมาะสม ซึ่งนับตั้งแต่เจ้าโอ้ เข้าวงการลูกหนังมา สิ่งที่เห็นได้จากโค้ชทุกคนที่เคยร่วมงานกับเขา ก็คือความพยายามที่จะดูแล บาโลเตลลี่ เป็นพิเศษ เพราะเสียดายในเรื่องของฝีเท้า
ครั้งหนึ่ง โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตเทรนเนอร์ผู้พา อินเตอร์ เป็นแชมป์ยุโรป เมื่อปี 2010 เคยรำลึกถึงความหลังความเกรียนของ บาโลเตลลี่ ทำให้เขานึกขำโดยตลอด ก็คือเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ อินเตอร์ พบกับ รูบิน คาซาน ตอนนั้น มูรินโญ่ ไม่มีกองหน้าเหลือแม้แต่คนเดียว นอกจาก บาโลเตลลี่ และเจ้าโอ้ ก็ดันไปทำห้าวโดนใบเหลืองในนาทีที่ 42
"เดอะ สเปเชี่ยล วัน" ย้อนถึงเรื่องนี้ว่า "ผมใช้เวลาประมาณ 15 นาทีในการคุยกับเขา ผมบอกว่า มาริโอ ฉันไม่มีกองหน้าเหลืออีกแล้ว นายเล่นแค่บอลอย่างเดียวก็พอ ไม่ต้องไปสนใจใคร ถ้าโดนแย่งก็ไม่ต้องไปเอาบอลคืน เดี๋ยวฉันจะให้คนอื่นทำหน้าที่นั้นเอง นายรอแค่ยิงประตูอย่างเดียวก็พอ ผมคุยกับเขามาจนแน่ใจว่าจะเขารู้เรื่องแล้วแต่แล้วในนาทีที่ 46 เขาก็ได้ใบแดงทันที"
สุดท้ายเชื่อเถอะครับว่า ปัญหาระหว่าง มันชินี่ กับ บาโลเตลลี่ ในเรื่องตรงนี้ สุดท้ายก็น่าจะเหมือนกับครั้งก่อนๆ ก็คือ เคลียร์กันได้ เพราะว่า นั้นมันแค่อารมณ์บ้าๆ บอๆ ของคนพิเศษ ของเจ้าโอ้ เท่านั้น สุดท้ายทุกอย่างก็คงกลับมาเหมือนเดิม
เรื่องโดย " The Nut"