ฟุตบอล : "กัปตันรูนี่ย์"และ"คอกสิงโต"ระดับโลก

ฟุตบอล : "กัปตันรูนี่ย์"และ"คอกสิงโต"ระดับโลก

ฟุตบอล : "กัปตันรูนี่ย์"และ"คอกสิงโต"ระดับโลก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ผมจำได้ว่า บทความหลังเกมเสมอยูเครน 1 - 1 เมื่อ 12 ก.ย.55 ผมพาดหัวไว้ว่า "ถึงเวลา รูนี่ย์ เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษ"

รายละเอียด คือ เพื่อ "ลดภาระ" และก้าวผ่านยุคของสตีวี่ เจอร์ราร์ด, แฟรงค์ แลมพาร์ด, จอห์น เทอร์รี่, แอชลี่ย์ โคล, สก็อตต์ ปาร์คเกอร์, แกเร็ธ แบร์รี่ ซึ่งเป็น "ตัวหลัก" อายุเกินเลข 3

เพราะด้วยวัย 26 ปี ตอนนี้ และสถิติติดทีมชาติแล้วถึง 76 ครั้ง รูนี่ย์มีประสบการณ์เพียงพอจะ "ก้าวขึ้น" เพื่อรับหน้าที่ และนำนาวาทัพอังกฤษออกจากยุคนักเตะรุ่น 30 อัพข้างต้นได้แล้ว

พร้อมทั้งให้ "จับตา" เกมศุกร์นี้กับ ซาน มาริโน เพราะเจอร์ราร์ดติดแบน ครั้นพอจังหวะแลมพาร์ดเจ็บไปอีกหลังก่อนหน้านี้เทอร์รี่ประกาศอำลาทีมชาติไปแล้ว

โอกาสสวมปลอกแขน "กัปตันทีมชาติ" ของรูนี่ย์จึงเดินทางมาถึงจริงๆ ในเกมอย่างเป็นทางการแม้จะน่าเสียดายเป็นอย่างมากที่ศึกนัดนี้ไม่สามารถวัดอะไรได้เลยก็ตาม

ครับ ซาน มาริโน อยู่อันดับ 206 และจะเป็นทีม "แจกแต้ม" ในกลุ่มนี้อย่างไม่ต้องสงสัยเหมือนที่โดนมอนเตเนโกร อัดมา 6-0 ในนัดแรก และคงจะโดนจนอ่วม และชินชาในหัวใจกระทั่งจบแคมเปญ

ดังนั้น "ภาวะผู้นำ" และ "อิทธิพล" ของรูนี่ย์น่าจะปรากฏแจ่มแจ้งในแมตช์เยือนโปแลนด์วันอังคารที่ 16 ต.ค. 55 มากกว่า หากว่าแมตช์ดังกล่าวไม่มี "ใบสั่ง" ให้ แอชลี่ย์ โคล ได้รับเกียรติให้เป็นกัปตันทีมในแมตช์ทีมชาตินัดที่ 100

สำหรับสถานการณ์ของทัพผู้ดี ผมดูแล้วก็อดเป็นห่วงนะครับ เพราะทั้งโปแลนด์, ยูเครน และมอนเตเนโกร ต่างไม่ใช่ขี้เป็ด ขี้ไก่ ในเวทีบอลนานาชาติ

อังกฤษจะมาเล่นแบบนัดเสมอยูเครนในบ้านไม่ได้เด็ดขาด และจำต้องชนะให้ได้มากที่สุดในบ้านนัดที่เหลืออยู่ (ควรจะทุกนัด) และต้องไม่แพ้ในแมตช์เยือนเพื่อหลีกเลี่ยงการเพลย์ออฟในฐานะที่ 2 ของกลุ่ม ซึ่งไว้ก่อนเกมเยือนกรุงวอร์ซอว์ ผมจะมาเสริมประเด็นนี้อีกครั้ง

ในส่วนการเตรียมตัวแมตช์ศุกร์นี้ "ไฮไลต์" ที่น่าจะสนใจน่าจะอยู่ที่การได้มาเก็บตัวฝึกซ้อม ณ เซนต์ จอร์จ ปาร์ค "คอกสิงโต" ระดับโลก ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเขตมิดแลนด์ หรือภาคกลางของอังกฤษ เลยเบอร์มิงแฮมไปเล็กน้อย

สถานที่แห่งนี้มี "แนวคิด" การสร้างมาตั้งแต่ปี 1975 แล้ว แต่ได้ดำเนินการเรื่องหาสถานที่ และลงมือสร้างจริงๆ เมื่อ 11 ปีที่ผ่านมา

สมาคมฟุตบอลอังกฤษ หรือ "เอฟเอ" ไม่ได้ใช้คำว่า สนามซ้อมทีมชาติซึ่งฟังดู "เศร้าๆ" แต่เรียกสถานที่แห่งนี้ว่า National Football Centre ที่จะเป็นศูนย์กลาง (การเรียนรู้) ฟุตบอลของประเทศ

ครับ นอกเหนือจากนักเตะทีมชาติจะได้ใช้เป็นสถานที่เก็บตัวก่อนแข่งด้วยสาธารณูปโภค "ครบครัน" ขั้นเฟิสต์คลาสแล้ว สถานที่แห่งนี้จะเป็นจุด "ต่อยอด" จากความเป็น "รากหญ้า" สู่ขั้นสุดสูงของฟุตบอลอาชีพของประเทศให้นักเตะทีมชุดชาติทุกชุดทั้งชายและหญิงรวมถึงเหล่าบรรดาโค้ชทั่วประเทศจะได้มีโอกาสมา "อบรม" หรือสัมมนา หรือทำโปรเจ็กต์ร่วมกัน

โดยเมื่อวันที่ 9 ต.ค.ที่ผ่านมา ดยุค และดัชเชส ออฟ เคมบริดจ์ หรือเจ้าชายวิลเลียม และเจ้าหญิง เคท ก็ได้เสด็จฯ มาเป็นประธานเปิดสถานที่ซึ่งดูเรียบง่ายไม่ได้มีพิธีรีตอง ไม่ได้มีเวที หรือการจัดงานใดๆ เป็นพิเศษมากกว่าการเสด็จฯ เยือนเลยครับ

งานนี้ ผมเชื่อว่า คอบอลทั่วโลกที่ได้เห็น "ภาพข่าว" คงรู้สึกเหมือนนักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษที่คงจะมีพลังแห่งความมุ่งมั่นมากขึ้นจากการเสด็จฯ เยี่ยมเยียน และความเป็นกันเอง ณ สถานที่ฝึกซ้อมแห่งใหม่

รายงานข่าวที่น่าสนใจยังแจ้งด้วยว่า "เอฟเอ" ค่อนข้างเข้มงวดนักข่าวในเรื่องการสัมภาษณ์ผู้เล่น และประเด็นคำถาม/คำตอบค่อนข้างมาก

เช่น ในเซสชั่นสัมภาษณ์ เวย์น รูนี่ย์ มีผู้สื่อข่าวถามถึงผลงานล่าสุดที่เล่นได้ดีในฐานะตัวจริงในลีกแมตช์แรกคู่กับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ก็ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ "เอฟเอ" เข้ามาแทรกแซง และให้ทั้งนักข่าว/นักเตะถามตอบในเรื่องเกี่ยวกับทีมชาติด้วยบรรยากาศค่อนข้างเป็น "โพสิทีฟ" เพียงอย่างเดียว

เราจึงได้เห็นประเด็นการเป็นนักเตะซีเนียร์ในทีมชุดนี้ของเจ้าหมูพลิ้วที่เจ้าตัว "ยืนยัน" จะทำหน้าที่ "รุ่นพี่" ดูแลน้องให้ดี และพูดถึง เซนต์ จอร์จ ปาร์ค เป็นหลัก

นอกจากนี้ ด้วยบุคลิกลักษณะง่ายๆ สบายๆ ของ รอย ฮอดจ์สัน ก็ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับกุนซือคนเดิม ฟาบิโอ คาเปลโล่ อยู่เหมือนกัน

กุนซืออิตาเลียนค่อนข้าง "เข้มงวด" หรือพูดให้เพราะๆ คือ มีระเบียบวินัยสูง และต้องการให้นักเตะของตัวเองอยู่ในกรอบ และมีความเป็นมืออาชีพตลอดเวลา 24 ชั่วโมง

เช่น นอกเหนือจากซ้อมเช้า/เย็นตามปกติแล้ว คาเปลโล่ยังมี "กฎเหล็ก" ต่างๆ เช่น เวลาเข้านอน, การใช้เครื่องมือสื่อสาร ฯลฯ ซึ่งทำให้นักเตะรู้สึกเหมือนเป็น "นักเรียน" และมีความเครียดโดยไม่จำเป็นได้

อย่างตอน "บอลโลก 2010" ที่ทัพนักเตะผู้ดีเก็บตัวอยู่โรงแรม และสถานที่ซึ่งดีกว่าใคร เพราะ "เป้าหมาย" อยากให้ผลงานออกมาดีที่สุด แต่ "ปัจจัย" เรื่องวินัยก็มีการพูดถึงอยู่เหมือนกันว่าทำให้นักเตะเครียด

ดังนั้นครับ กับการถือกำเนิดของ "เซนต์ จอร์จ ปาร์ค" และได้กุนซืออาวุโสที่ดูใจเย็น และดูเหมือนจะเข้าอกเข้าใจนักเตะเป็นอย่างดีราวพ่อกับลูก

พลพรรคสิงโตคำรามจะงัดเอา "ศักยภาพ" สูงสุดที่มีออกมาได้หรือไม่? คอบอลผู้ดีมาร่วมลุ้นไปด้วยกันนะครับ...

เรื่องโดย "Kai Mook Dum"

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ

อัลบั้มภาพ 18 ภาพ ของ ฟุตบอล : "กัปตันรูนี่ย์"และ"คอกสิงโต"ระดับโลก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook