วิเคราะห์บอล (20) ควีนส์ปาร์ค - เรดดิ้ง (18)
วิเคราะห์บอลพรีเมียร์ลีก
(20) ควีนส์ปาร์ค - เรดดิ้ง (18)
เวลา: 20.30 น.
สนาม: ลอฟตัส โร้ด
ผู้ตัดสิน: ไมเคิ่ล โอลิเวอร์
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ควีนส์ปาร์ค
27 ต.ค. 55 แพ้ อาร์เซนอล 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
21 ต.ค. 55 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
6 ต.ค. 55 แพ้ เวสต์บรอมวิช 2-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
1 ต.ค. 55 แพ้ เวสต์แฮม 1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
26 ก.ย. 55 แพ้ เรดดิ้ง 2-3 (เหย้า) ลีกคัพ
เรดดิ้ง
30 ต.ค. 55 แพ้ อาร์เซนอล 5-7 (เหย้า) ลีกคัพ
27 ต.ค. 55 เสมอ ฟูแล่ม 3-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
20 ต.ค. 55 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
6 ต.ค. 55 เสมอ สวอนซี 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
29 ก.ย. 55 เสมอ นิวคาสเซิล 2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
26 ก.ย. 55 ลีกคัพ ควีนส์ปาร์ค 2-3 เรดดิ้ง
4 ก.พ. 54 แชมเปี้ยนชิพ เรดดิ้ง 0-1 ควีนส์ปาร์ค
6 พ.ย. 53 แชมเปี้ยนชิพ ควีนส์ปาร์ค 3-1 เรดดิ้ง
16 มี.ค. 53 แชมเปี้ยนชิพ เรดดิ้ง 1-0 ควีนส์ปาร์ค
20 ต.ค. 52 แชมเปี้ยนชิพ ควีนส์ปาร์ค 4-1 เรดดิ้ง
31 ม.ค. 52 แชมเปี้ยนชิพ ควีนส์ปาร์ค 0-0 เรดดิ้ง
25 ต.ค. 51 แชมเปี้ยนชิพ เรดดิ้ง 0-0 ควีนส์ปาร์ค
ความพร้อม-สภาพทีม
ควีนส์ปาร์ค
คิวพีอาร์ต้องปรับแนวรับที่สเตฟาน เอ็มเบียติดโทษแบน 3 นัดจากใบแดงในเกมที่แล้ว ทำให้แอนทอน เฟอร์ดินานด์น่าจะได้กลับมาลงเล่นคู่กับไรอัน เนลเซ่นอีกครั้งในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง
ส่วนแบ๊กซ้ายยังต้องรอลุ้นความฟิตของอาร์กมงด์ ตราโอเร่ที่มีปัญหาการบาดเจ็บที่ขารบกวนมาตลอด และต้องรอเช็กความฟิตกันแบบนัดต่อนัด รวมถึงนัดนี้ด้วย ขณะที่ฟาบิโอ กองหลังที่ยืมตัวมาจากแมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังไม่หายเจ็บแฮมสตริง ทำให้เนดัม โอนัวฮาจะรอสแตนด์บายลงเล่นแทน
ปาร์คจีซอง มิดฟิลด์กัปตันทีม น่าจะหมดสิทธิ์ลงสนามนัดนี้ หลังเจ็บเข่าจนพลาดเกมล่าสุดมาแล้ว และยังกลับมาลงซ้อมไม่ได้เกือบตลอดสัปดาห์
ส่วนบ๊อบบี้ ซาโมร่า กองหน้าตัวเก่ง ยังพอมีลุ้นลงเล่นได้ แต่ต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้งว่าอาการเจ็บสะโพก ซึ่งต้องพึ่งการฉีดยารักษาในระหว่างสัปดาห์ จะดีขึ้นทันเวลาหรือไม่ แต่ถ้าไม่พร้อมก็คงเป็นโอกาสของฌิบริล ซิสเซ่ ขณะที่แอนดี้ จอห์นสัน กองหน้าอีกคน ยังต้องพักยาเพราะเข่าพังเช่นเดิม
ผู้เล่นบาดเจ็บ: บ๊อบบี้ ซาโมร่า (สะโพก), อาร์กมงด์ ตราโอเร่ (ขา), ปาร์คจีซอง, แอนดี้ จอห์นสัน (เข่า), ฟาบิโอ (แฮมสตริง)
ผู้เล่นโดนแบน: สเตฟาน เอ็มเบีย (3 นัด)
ความพร้อม-สภาพทีม
เรดดิ้ง
แดนนี่ กัทธรี่ อดีตมิดฟิลด์ลิเวอร์พูลและนิวคาสเซิล หมดสิทธิ์มีส่วนร่วมในเกมนี้ หลังได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาในระหว่างการซ้อมเมื่อต้นสัปดาห์ ขณะที่เจม คาราชาน มิดฟิลด์ทีมชาติตุรกี ยังอยู่ระหว่างการพักรักษาอาการบาดเจ็บที่เข่าเช่นเดิม
นอกจากนั้นไบรอัน แม็คเดอร์ม็อตต์ก็พร้อมใช้งานนักเตะตัวหลักๆ ได้อย่างพร้อมหน้าอีกครั้ง และคงจะหมุนเวียนผู้เล่นหลายตำแหน่งกลับมาจากเกมลีกคัพเมื่อกลางสัปดาห์ โดยพาเวล โปเกร็บเนี้ยค หัวหอกตัวหลัก จะกลับมาลงเล่นเป็นตัวจริงในแนวรุก ทำให้เจสัน โรเบิร์ตส์กับโนล ฮันท์คงต้องเบียดแย่งอีกหนึ่งตำแหน่งที่เหลือกัน
อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่จะกลับมาลงเงฝ้าเสาอีกครั้ง หลังจากอดัม เฟเดริชี่ มือหนึ่งคนเดิม ซึ่งฟิตกลับมาแล้ว ได้โอกาสลงเล่นไปในบอลถ้วย ส่วนแผงหลังก็จะส่งชอน คัมมิ่งส์กับอาเดรียน มาเรียปป้ากลับมาลงเล่นอีกครั้ง
จิมมี่ เคเบ้และโจบี้ แม็คคานัฟฟ์จะกลับมาเป็นตัวปั้นเกมรุกริมเส้นเช่นเดิม โดยที่มิเคเล่ ลีเกิร์ตวู้ดกับเจย์ แท็บบ์จะจับคู่กันตรงกลางสนามต่อไป
ผู้เล่นบาดเจ็บ: แดนนี่ กัทธรี่ (ต้นขา), เจม คาราชาน (เข่า)
วิเคราะห์รูปเกม
ทั้งคู่ยังชนะไม่เป็นในฤดูกาลนี้ จนอันดับจมอยู่ในโซนท้ายตารางมาตลอด เกมนี้ควีนส์ปาร์คเจ้าบ้านได้เปรียบเรื่องความสด เพราะเรดดิ้งลงเตะลีกคัพมา 120 นาทีในช่วงกลางสัปดาห์ แต่เจ้าถิ่นก็มีปัญหานักเตะเจ็บเยอะ แต่ได้เล่นในบ้านยังไงก็คงต้องเค้นฟอร์มเก่งออกมาให้ได้ ส่วนทีมเยือนที่ทำประตูได้เยอะในหลายนัดหลัง แต่ก็เสียเยอะเช่นกัน คงต้องพึ่งเกมรุกว่าจะทำประตูได้อย่างเป็นกอบเป็นกำอีก เกมนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ทหารเสือราชินีจะหยิบ 3 คะแนนให้ได้ และคงต้องใส่หมดแม็ก ทำให้น่าจะมีลุ้นมากกว่าว่าจะเบียดเข้าป้ายได้ในที่สุด
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
ควีนส์ปาร์ค (4-4-2): ชูลิโอ เซซาร์; โจเซ่ โบซิงวา, แอนทอน เฟอร์ดินานด์, ไรอัน เนลเซ่น, เนดัม โอนัวฮา; ชอน ไรท์-ฟิลลิปส์, แซมบา เดียกิเต้, เอสเตบัน กราเนโร่, อเดล ทารับต์; จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์, บ๊อบบี้ ซาโมร่า
ผู้จัดการทีม: มาร์ค ฮิวจ์ส
เรดดิ้ง (4-4-2): อเล็กซ์ แม็คคาร์ธี่; ชอน คัมมิ่งส์, อาเดรียน มาเรียปป้า, คาสปาร์ส กอร์คส์, นิคกี้ ชอรี่ย์; จิมมี่ เคเบ้, มิเคเล่ ลีเกิร์ตวู้ด, เจย์ แท็บบ์, โจบี้ แม็คคานัฟฟ์; โนล ฮันท์, พาเวล โปเกร็บเนี้ยค
ผู้จัดการทีม: ไบรอัน แม็คเดอร์ม็อตต์
ฮอตสกอร์: ควีนส์ปาร์คชนะ 2-1
เกร็ดย่อย
*ฤดูกาลนี้ทั้งสองทีมพบกันมาแล้วครั้งหนึ่ง โดยเรดดิ้งบุกมาชนะ 3-2 ในเกมลีกคัพที่ลอฟตัส โร้ด
*มีใบแดง 5 ใบในเกมลีก 4 นัดหลังสุดที่ทั้งคู่พบกัน โดยควีนส์ปาร์คจะมีนักเตะโดนไล่ออกนัดละคนในเกมเหล่านั้น
*ควีนส์ปาร์คทำได้แค่ 4 ประตูในเกพรีเมียร์ลีก 6 นัดหลังสุดที่ลอฟตัส โร้ด
*นับตั้งแต่มาร์ค ฮิวจ์สเข้ามารับตำแหน่ง ควีนส์ปาร์คก็โดนใบแดงไปแล้ว 8 ใบ มากกว่าทีมที่มีสถิติรองลงไปเป็นอันดับสองอย่างลิเวอร์พูลถึงสองเท่าตัว
*โจบี้ แม็คคานัฟฟ์มีอัตราส่วนการทำแอสซิทให้เรดดิ้งในฤดูกาลนี้ที่ 36% มากกว่านักเตะทุกคนในพรีเมียร์ลีก
*ชูลิโอ เซซาร์เป็นผู้รักษาประตูที่ต้องป้องกันลูกยิงบ่อยที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ คือเฉลี่ยทุก 20 นาที
*อเดล ทารับต์และเอสเตบัน กราเนโร่เป็นสองในสามนักเตะที่มีค่าเฉลี่ยในการได้ฟาวล์ต่อเกมสูงที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (2.8 และ 2.7 ครั้ง)
*เรดดิ้งไม่เคยเสมอเกมพรีเมียร์ลีกในเดือนพฤศจิกายน (ชนะ 3 แพ้ 4)
*ควีนส์ปาร์คเสมอแค่ 2 ครั้งในการลงเตะพรีเมียร์ลีกในเดือนพฤศจิกายน 18 นัด
*ทั้งสองครั้งที่ควีนส์ปาร์คเสียประตูนัดละ 6 ลูกในพรีเมียร์ลีกเป็นเกมที่เตะในวันอาทิตย์