วิเคราะห์บอล (12) ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิล (10)
วิเคราะห์บอลพรีเมียร์ลีก
(12) ลิเวอร์พูล - นิวคาสเซิล (10)
เวลา: 23.00 น.
สนาม: แอนฟิลด์
ผู้ตัดสิน: แอนโธนี่ เทย์เลอร์
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ลิเวอร์พูล
31 ต.ค. 55 แพ้ สวอนซี 1-3 (เหย้า) ลีกคัพ
28 ต.ค. 55 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
25 ต.ค. 55 ชนะ อันชี 1-0 (เหย้า) ยูโรป้าลีก
20 ต.ค. 55 ชนะ เรดดิ้ง 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
7 ต.ค. 55 เสมอ สโต๊ค 0-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
นิวคาสเซิล
28 ต.ค. 55 ชนะ เวสต์บรอมวิช 2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
25 ต.ค. 55 ชนะ คลับ บรูจ 1-0 (เหย้า) ยูโรป้าลีก
21 ต.ค. 55 เสมอ ซันเดอร์แลนด์ 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
7 ต.ค. 55 แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 0-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
4 ต.ค. 55 ชนะ บอร์กโดซ์ 3-0 (เหย้า) ยูโรป้าลีก
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
1 เม.ย. 55 พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล 2-0 ลิเวอร์พูล
30 ธ.ค. 54 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 3-1 นิวคาสเซิล
1 พ.ค. 54 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 3-0 นิวคาสเซิล
11 ธ.ค. 53 พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล 3-1 ลิเวอร์พูล
3 พ.ค. 52 พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล 3-0 นิวคาสเซิล
28 ธ.ค. 51 พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล 1-5 ลิเวอร์พูล
ความพร้อม-สภาพทีม
ลิเวอร์พูล
หงส์แดงจะปรับทัพกลับมาใช้งานทีมชุดใหญ่อีกครั้ง หลังส่งสำรองลงสนามถึง 9 คนในเกมลีกคัพเมื่อกลางสัปดาห์ โดยแบรด โจนส์คงจะได้ลงเฝ้าเสาต่อไป เพราะเปเป้ เรน่า มือหนึ่งคนเดิม ยังมีปัญหากับอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริงอยู่
โจ อัลเลนจะยังเป็นตัวหลักในแผงกลาง โดยมีสตีเว่น เจอร์ราร์ดกับนูรี ซาฮินลงมาเป็นสามประสานอีกครั้ง ส่วนแนวรุกจะปรับยกแผงด้วยการส่งหลุยส์ ซัวเรซลงมาเป็นหัวหอกตัวเป้า โดยมีซูโซ่และราฮีม สเตอร์ลิ่ง สองดาวรุ่งพุ่งแรง เป็นตัวขึ้นเกมริมเส้น
โฆเซ่ เอ็นริเก้น่าจะได้ลงมาทำหน้าที่แบ๊กซ้ายในเกมนี้ เพราะเกล็น จอห์นสันยังคงมีปัญหาความฟิตกับอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่แฮมสตริงอยู่ ส่วนอังเดร วิสดอม, มาร์ติน สเคอร์เทล และแดเนี่ยล แอ๊กเกอร์ก็จะกลับมาลงเล่นอย่างพร้อมหน้าเช่นกัน
ส่วนนักเตะที่เจ็บยาวอยู่ยังเป็นหน้าเดิมอย่างฟาบิโอ บอรินี่, มาร์ติน เคลลี่ และลูคัส เลวา
ผู้เล่นบาดเจ็บ: เปเป้ เรน่า, เกล็น จอห์นสัน (แฮมสตริง), ฟาบิโอ บอรินี่ (เท้า), มาร์ติน เคลลี่ (เข่า), ลูคัส เลวา (ต้นขา)
ความพร้อม-สภาพทีม
นิวคาสเซิล
สาลิกาดงหวังได้เดมบา บา หัวหอกตัวเก่ง สลัดปัญหาเจ็บน่องกลับมาลงสนามได้ตามเดิม หลังต้องโขยกเขยกออกจากสนามในเกมที่แล้วเพราะปัญหานี้ จนทำให้พลาดการซ้อมในช่วงต้นสัปดาห์ไป แต่ก็ยังมีลุ้นจะฟิตทันลงสนามได้
ชีค ติโอเต้ มิดฟิลด์จอมบู๊ ยังคงต้องใช้โทษแบนเป็นเกมที่ 2 จาก 3 นัด ทำให้เจมส์ เพิร์ชน่าจะได้ทำหน้าที่แทนต่อไป นอกจากนั้นก็คงจะเป็นนักเตะตัวหลักที่ลงสนามได้อย่างพร้อมหน้า โดยมีเพียงนักเตะสำรองอย่างแดน กอลิ่ง, ไรอัน เทย์เลอร์ และแฮริส วุคคิชที่เจ็บอยู่เท่านั้น
ไมค์ วิลเลียมสันคงจะได้เล่นคู่กับฟาบริซิโอ โคลอชชินี่ในแนวรับต่อไป ทำให้สตีเว่น เทย์เลอร์ที่ฟิตกลับมาแล้วต้องรอโอกาสอยู่ที่ข้างสนาม
ส่วนโชล่า อเมโอบี้น่าจะได้ลงเล่นในแนวรุกต่อไป หลังคืนความฟิตกลับมา และเบียดปาปิสส์ ซิสเซ่ทที่ฟอร์ฒตกหลุดไปเป็นตัวสำรองได้ในช่วงหลังๆ
ผู้เล่นบาดเจ็บ: เดมบา บา (น่อง), แดน กอสลิ่ง (ข้อเท้า), ไรอัน เทย์เลอร์, แฮริส วุคคิช (เข่า)
ผู้เล่นโดนแบน: ชีค ติโอเต้ (2 นัด)
วิเคราะห์รูปเกม
ลิเวอร์พูลเสียเปรียบเรื่องความสดเพราะลงเตะลีกคัพในช่วงกลางสัปดาห์มา แต่ก็พักนักเตะตัวหลักไว้เกือบยกชุด ทำให้คงไม่เป็นรองมากนักเรื่องสภาพร่างกาย นัดนี้ได้เตะในแอนฟิลด์คงต้องเดินเกมบุกเข้าใส่ แม้ผลงานในรังจะไม่ดีเหมือนเดิมในปีนี้ แต่นิวคาสเซิลเองก็ฟอร์มนอกบ้านไม่แน่นอนเช่นกัน และเกมรุกไม่ร้อนแรงเหมือนปีก่อน เกมนี้สาลิกาดงคงต้องเน้นเล่นให้แน่นอนในแนวรับเพื่อหยุดยั้งเกมบุกของหงส์แดง แต่แผงกลางน่าจะบดบี้สู้ได้ และจังหวะในแนวรุกก็ไม่น่าจะเป็นรอง เกมนี้น่าจะสู้กันสนุกและอาจจะลงเอยด้วยการแบ่งแต้มกันไป
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
ลิเวอร์พูล (4-3-3): แบรด โจนส์; อังเดร วิสดอม, มาร์ติน สเคอร์เทล, แดเนี่ยล แอ็กเกอร์, โฆเซ่ เอ็นริเก้; สตีเว่น เจอร์ราร์ด, โจ อัลเลน, นูรี ซาฮิน; ซูโซ่, หลุยส์ ซัวเรซ, ราฮีม สเตอร์ลิ่ง
ผู้จัดการทีม: เบรนแดน ร็อดเจอร์ส
นิวคาสเซิล (4-4-2): ทิม ครูล; แดนนี่ ซิมป์สัน, ไมค์ วิลเลียมสัน, ฟาบริซิโอ โคลอชชิลี่, ดาวิเด้ ซานตอน; ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา, เจมส์ เพิร์ช, โยฮัน กาบาย, โฮนาส กูเตียร์เรซ; เดมบา บา, โชล่า อเมโอบี้
ผู้จัดการทีม: อลัน พาร์ดิว
ฮอตสกอร์: เสมอ 2-2
เกร็ดย่อย
*ลิเวอร์พูลชนะ 15 และไม่แพ้เลยในการพบกับนิวคาสเซิลที่แอนฟิลด์ 17 นัดหลังในพรีเมียร์ลีก
*ประตูเดียวที่นิวคาสเซิลทำได้ที่แอนฟิลด์ใน 6 นัดหลังที่พบกันในพรีเมียร์ลีก คือลูกทำเข้าประตูตัวเองของแดเนี่ยล แอ็กเกอร์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
*ในการพบกัน 5 ครั้งหลังสุดของทั้งคู่ในเกมพรีเมียร์ลีก ลงเอยด้วยชัยชนะของเจ้าบ้าน
*ลิเวอร์พูลชนะแค่ 3 ในการลงเตะพรีเมียร์ลีกที่แอนฟิลด์ 14 นัดหลัง (ชนะ 3 เสมอ 5 แพ้ 6)
*นิวคาสเซิลไม่ชนะเลยในการลงเตะพรีเมียร์ลีกนอกบ้าน 5 นัดหลัง แต่ก็เสมอรวดใน 3 เกมล่าสุด
*ใน 9 ประตูหลังสุดที่หลุยส์ ซัวเรซยิงได้ในพรีเมียร์ลีก มีแค่ลูกเดียวเท่านั้นที่เกิดในแอนฟิลด
*ซัวเรซมีส่วนร่วมถึง 80% ของประตูที่ลิเวอร์พูลทำได้ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ (ไม่นับลูกทำเข้าประตูตัวเอง)
*เกมกับเวสต์บรอมนัดที่แล้วเป็นแค่ครั้งที่สองที่เดมบา บากับปาปิสส์ ซิสเซ่ทำประตูในพรีเมียร์ลีกให้นิวคาสเซิลได้พร้อมกัน
*ฮาเต็ม เบน อาร์กฟาเลี้ยงบอลไปเอง 84 ครั้งในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ มากกว่าที่นักเตะทั้งทีมของเวสต์บรอมและวิลล่าทำได้รวมกันที่ 82 ครั้ง
*ลิเวอร์พูลชะในบ้านได้แค่ 3 นัดในเกมพรีเมียร์ลีกของปี 2012 ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดร่วม เท่ากับเมื่อปี 1939 ซึ่งครั้งนั้นการแข่งขันต้องยกเลิกไปเพราะสงครามโลก ส่วนการชนะในบ้านได้น้อยที่สุดแบบเต็มปีที่หงส์แดงเคยทำได้คือ 6 นัดในปี 1897