คนนี่แหละใช่เลย...เหรอ
ฟุตบอล : หลังจากเมื่อวานซืนได้เห็นข่าว "ตั๊ก บงกช" ดาราสาวเข้าพิธีหมั้นหมายกับ "เสี่ยบุญชัย" ก่อนจะมีพิธีแต่งงานกันในภายหลังและเมื่อไหร่ไม่รู้
แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือดาราสาวทรงโตจะขึ้นแท่นเป็นภรรยารายที่หกของเจ้าสัวรายนี้อยางแน่นอน แหม่... เรียกได้ว่าเจ้าสัวเป็นคนรวยที่ใช้ภรรยาได้สิ้นเปลืองจริงๆ
นอกเหนือไปจากเรื่องลูกเขา (จะไปเป็น) เมียใครที่ทำให้เราๆ ท่านๆ ได้ทราบประวัติอดีตเจ้าของดีแทค เครือข่ายสัญญาณโทรศัพท์มือถือยักษ์ใหญ่ (ซึ่งสัญญาณคุณแม่ท่านก็ล้มบ่อยฉิ..หาย) มากขึ้นโดยไม่จำเป็นแล้ว งานนี้ยังทำให้เราได้ "วรรคทอง" เด็ดๆ เอาไว้ใช้เม้าท์มอยกันได้อย่างสนุกปากไปพร้อมๆ กันด้วย - คนนี่แหละใช่เลย!
ฝั่งสาวเจ้าบอกว่า "ใช่" แต่สุดท้ายแล้วฝั่งหนุ่มใหญ่จะ "ใช่" ด้วยหรือเปล่านั้นก็คงต้องได้แต่รอดูกันต่อไปเพราะมีแค่เวลาเท่านั้นที่จะเป็นตัวง้างเอาคำตอบออกมาจากปริศนาในเรื่องนี้ได้
เขียนถึงเรื่องเสี่ยๆ ก็พาลให้นึกขึ้นได้ว่าสมควรจะลากเข้าเรื่องราวกีฬาให้ถึงเวลาทำมาหากินกันได้แล้ว เอาล่ะ ในเมื่อเขียนถึง "เสี่ย" ถ้าอย่างนั้นเราไปว่ากันด้วยเรื่อง "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช กับเด็กๆ และอดีตเด็กๆ ในสังกัดที่เคยผ่านมืออาเสี่ยรัสเซียนนับตั้งแต่เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี เมื่อช่วงเดือน มิ.ย.2003 กันเลยก็แล้วกัน
แต่หากจะให้สาธยายทั้งหมดมันก็ไม่ใช่ เพราะตำแหน่งอันโปรดปรานของเจ้าสัวจากดินแดนหลังม่านเหล็กนั้นหาใช่ผู้รักษาประตู, กองหลัง หรือกองกลางก็ไม่ หากแต่เป็นกองหน้านั้นไซร้ตำแหน่งเดียวเท่านั้น
ตำแหน่ง "กองหน้า" "ศูนย์หน้า" "หัวหอก" หรือจะเรียกอะไรก็แล้วแต่นั้นยังเป็นตำแหน่งซึ่ง อบราโมวิช พยายามตามหา "คนนี่แหละใช่เลย" มาโดยตลอด ทว่าจนปูนนี้ กระแอม! กระแอม! (กรุณาใส่เสียงของท่านขณะอ่านลงไปเพื่อความสมจริง) ป่านนี้แล้วหลังจากผ่านมา 10 ปีพอดิบพอดี อบราโมวิช ก็เพิ่งจะเจอ "คนนี่แหละใช่เลย" เพียงแค่คนเดียวเท่านั้นแถมยังเพิ่งจะต้องมาจากลากันไปหมาดๆ เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาอีกด้วย
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหัวหอกซึ่งถูกแฟนๆ ชาวสยามตั้งสมญาอย่างรังเกียจให้ว่า "ไอ้แมลงสาบ" (ทั้งที่ในความเป็นจริงควรจะได้รับฉายาเท่ๆ กว่านี้เป็นอย่างมาก) ถือเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในระดับท่วมท้นอย่างที่สาวก "สิงห์บลูส์" ไม่เคยได้พบได้เห็นในช่วงชีวิตนี้มาก่อน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2011/12 ซึ่งหักด่านโคตรทีมอย่าง บาร์เซโลน่า และบาเยิร์น มิวนิค มาได้
ตลอดช่วงหนึ่งทศวรรษที่ผ่านมา อบราโมวิช ซื้อตัวผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้าแท้ๆ ซึ่งไม่ใช่พวกปีกและบรรดาวรุ่งที่ยังไม่ทันได้ใช้และนับรวม ดร็อกบา ด้วยแล้วนั้น...มากมายถึง 10 ราย เรียกได้ว่ามากกว่า "เสี่ยบุญชัย" ถึงสองเท่าด้วยกัน
แถมยังใช้สิ้นเปลืองกว่ากันเยอะ เยอะกว่าถึงขั้นเฉลี่ยออกมาแล้วตกปีละหนึ่งคนกันเลยทีเดียว และไอ้ที่เยอะๆ มาจนค่าเฉลี่ยน่าเกลียดขนาดนี้ก็ด้วยเหตุผลเดิมๆ นั่นก็คือยังหากองหน้าที่เข้ากับประโยค "คนนี่แหละใช่เลย" ไม่เจอ
อย่างไรก็ตามแว่วๆ ว่าล่าสุด "เสี่ยหมี" พบแล้วกับศูนย์หน้าที่เขาเชื่อมั่นว่า "คนนี่แหละใช่เลย" หลังไปงมโข่งดักดานกับก้อนเนื้อมูลค่า 50 ล้านปอนด์นาม เฟร์นานโด ตอร์เรส อยู่นานสองนาน ก่อนจะรู้ซึ้งและยอมรับได้ในที่สุดว่ามัน "ไม่ใช่"
หากความจริงที่น่าจะเกิดขึ้นนั้นเป็นไปตามการรายงานเอามันของสื่อหลายสำนักโดยเฉพาะทางฝั่งอังกฤษแล้ว ราดาเมล ฟัลเกา กองหน้าแอตเลติโก มาดริด
ซึ่งกำลังสลุตตาข่ายชาวบ้านชาวช่องเขาอย่างเมามันอยู่ในช่วงเวลานี้ก็จะไม่ต้องทำงานหนักหรือแบมือขอค่าเทอม (ลูกๆ หลานๆ) บนลำแข้งของตัวเองอีกต่อไป เมื่อ "เสี่ยหมี" อบราโมวิช เสนอจะส่งเสียเลี้ยงดูเขาเองด้วยค่าจ้างต่อสัปดาห์ระดับเกินกว่า 1 แสนปอนด์...อย่างแน่นอน
รายงานอ้างว่าเจ้าสัวชาวรัสเซียจะทุ่มเงิน 48 ล้านปอนด์ เท่ากับมูลค่าการฉีกสัญญาของหัวหอกทีมชาติโคลอมเบียเพื่อฉุดกระฉากมาเป็นเด็กเสี่ยในสังกัดของเขาให้ได้ในช่วงเปิดตลาดซื้อ-ขายนักเตะรอบสองเดือนม.ค.ที่จะถึงนี้
โดยก่อนจะถึงวันนั้นสาวก "สิงโตน้ำเงินคราม" ปักหลักเชื่อกันแล้วว่า ฟัลเกา จะเป็น "คนนี่แหละใช่เลย" ได้อย่างแน่นอน ทว่าสุดท้ายแล้วเขาจะก้าวขึ้นไปเป็น "คนนี่แหละใช่เลย" ได้สมใจแฟนๆ หรือจะกลายเป็นอย่างอีกเก้าจาก 10 อดีตเด็กเสี่ย(หมี)
ฤดูกาล 2003/04 อดีตเด็กเสี่ยหมายเลข 1 และ 2
อาเดรียน มูตู กองหน้าชาวโรมาเนียย้ายจาก ปาร์ม่า มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว 15.8 ล้านปอนด์ พร้อมกับฉายแววรุ่งโรจน์เรืองรองส่องสว่างชัชวาลและส่อเค้าจะเป็น "คนนี่แหละใช่เลย" ด้วยการซัลโวสี่ประตูจากการลงสนามสามเกม
ทว่าหลังจากนั้นกลับผันตัวมาเป็น "ไม่ใช่ละ" ได้อย่างรวดเร็วด้วยการยิงได้อีกเพียงจุ๋มจิ๋มและจบฤดูกาลแรกด้วยยอดรวม 10 ประตู (36 นัด) ก่อนที่ในฤดูกาลถัดมาจะถูกแฉว่าเสพโคเคนและถูกปล่อยตัวออกไปในที่สุดทั้งที่เพิ่งจะได้ลงเล่นไปเพียงแค่สองนัดเท่านั้น
เอร์นาน เครสโป ศูนย์หน้าชาวอาร์เจนติน่าย้ายจาก อินเตอร์ มิลาน มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว 16.8 ล้านปอนด์ ท่ามกลางข่าวลือที่ว่า "เสี่ยหมี" อยากได้ตัวมากๆ ถึงขั้นออกคำสั่งให้ซื้อมาร่วมทีมด้วยตัวเองเลยทีเดียวเชียว
หลังเป็นที่ว่ากันว่าเจ้าตัวได้เห็นฟอร์มการทำประตูอันยอดเยี่ยมที่ไม่ว่าจะเป็นกับสังกัดไหนดาวยิง "ฟ้า-ขาว" ก็ทำได้ดีไปเสียหมด ก่อนจะมาทำได้ไม่ดีกับ เชลซี เป็นทีมแรกและก็ต้องจากไปตามระเบียบพร้อมทิ้งสถิติ 20 ประตูจาก 49 นัดเอาไว้เบื้องหลัง
ฤดูกาล 2004/05 อดีตเด็กเสี่ยหมายเลข 3 และ 4
มาเตย่า เคซมัน กองหน้าชาวเซอร์เบียย้ายจาก พีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ พร้อมกับสถิติสุดครั่นคร้าม 105 ประตูจาก 122 นัดบนลีกสูงสุดเมืองกังหันลม ฮอลแลนด์ และความมั่นใจในระดับล้นทะลักถึงขั้นกล้าๆ ประกาศว่าจะทำลายสถิติยิงครบ 100 ประตูใน พรีเมียร์ลีก ได้รวดเร็วกว่า รุด ฟานนิสเตลรอย หลังทำได้ดีพอๆ กันมาแล้วในสีเสื้อ "พีเอสวี" ก่อนที่คำประกาศนั้นจะพิสูจน์ได้ภายในแค่ฤดูกาลเดียว เคซมัน เล่นได้ไม่เอาอ่าวและหนำซ้ำยังทำได้แค่ 7 ประตูจาก 41 นัด
ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าชาวไอวอรี่ โคสต์ ย้ายจาก โอลิมปิก มาร์กเซย มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัวมหาศาลที่สุดในบรรดาศูนย์หน้าทั้งหมดที่ อบราโมวิช เคยซื้อมา โดย "เสี่ยหมี" ควักกระเป๋าจ่ายไปถึง 24 ล้านปอนด์ แม้ว่าในช่วง 1-2 ฤดูกาลแรก "เดอะ ดร็อก" จะถูกวิจารณ์ว่าไม่คุ้มค่าเอาเสียเลย เพราะสถิติในการพังประตูถือว่ายังจุ๋มจิ๋มมาก ก่อนจะมาระเบิดฟอร์มได้สำเร็จและในฤดูกาลที่สามและติดเครื่องเรื่อยมานับตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงย้ายออกจากทีมไป สิริรวมแล้วเจ้าตัวกระหน่ำไปถึง 157 ประตูจาก 341 นัด
ฤดูกาล 2005/06 อดีตเด็กเสี่ยหมายเลข 5
อังเดร เชฟเชนโก้ กองหน้าชาวยูเครนย้ายจาก เอซี มิลาน มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัวซึ่งเป็นสถิติสโมสรใหม่ เงินสด 30 ล้านปอนด์ พร้อมกับส่ง เครสโป พ่วงไปเป็นของแถมให้ด้วยอีกคน หากเปรียบไปแล้วก็ต้องบอกว่า "เชว่า" เป็นนักเตะที่ อบราโมวิช หวังมากที่สุดและลงทุนลงแรงถึงขั้นขอให้อดีตภรรยาไปเป่าหูภรรยาของดาวยิงรายนี้ให้ยอมย้ายมาอยู่ที่นี่หลังจากที่เขาสามารถตกลงค่าตัวซื้อ-ขายกับทาง "ปีศาจแดง-ดำ" ได้อย่างไม่มีปัญหาไปแล้ว ทว่าสุดท้าย "เชว่า" กลับกลายเป็นนักเตะที่ "เสี่ยหมี" ต้องผิดหวังมากที่สุด โดยทำได้เพียง 22 ประตูจาก 76 นัดก่อนจะต้องจำยอมปล่อยตัวออกจากทีมไปหลังอยู่กันได้เพียงแค่สองฤดูกาลเท่านั้น
ฤดูกาล 2006/07 อดีตเด็กเสี่ยหมายเลข 6
เคลาดิโอ ปิซาร์โร่ กองหน้าชาวเปรูย้ายจาก บาเยิร์น มิวนิค มาแบบฟรีๆ ก่อนจะพิสูจน์ให้รู้เห็นเป็นแน่ชัดว่าไอ้ที่เขาว่ากันว่า "ของดีให้ฟรีมีที่ไหน" มันเป็นเรื่องจริง! ปิซาร์โร่ ซึ่งยิงระเบิดระเบ้อกับ "เสือใต้" แม้จะเป็นเพียงแค่ตัวสำรองอยู่บ่อยครั้งแต่ก็การันตีฤดูกาลละ 17 ประตูกว่าๆ เป็นอย่างน้อยนั้นกลับกลายเป็นสากกะเบือที่ตำกระทั่งมะละกอก็ยังไม่แหลก เมื่อทำได้เพียง 2 ประตูจาก 32 นัด และก็อยู่กับทีมได้เพียงฤดูกาลเดียวก่อนจะทำให้แฟนๆ "สิงห์บลูส์" ต้องงงงวยเมื่อดันกลับไป "เทพ" กับ แวร์เดอร์ เบรเมน และบาเยิร์น มิวนิค อีกครั้งอย่างหน้าตาเฉย
ฤดูกาล 2007/08 อดีตเด็กเสี่ยหมายเลข 7
นิโกล่าส์ อเนลก้า กองหน้าชาวฝรั่งเศสย้ายจาก โบลตัน มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว 15 ล้านปอนด์ และเข้าขารู้ใจกับ ดร็อกบา เป็นอย่างดี โดยแม้จะไม่จัดว่าล้มเหลวแต่ก็ไม่ถือว่าเป็นคนที่ใช่กับเขาด้วยเหมือนกัน "นิโก้" สร้างประโยชน์ให้กับทีมได้เสมอในทุกครั้งที่ลงสนาม ทว่าจำนวนประตูที่ผลิดอกออกผลมาจากปลายสตั๊ดของหัวหอกรายนี้กลับน้อยมากเกินไปหน่อย 59 ประตูจาก 182 นัด
ฤดูกาล 2009/10 อดีตเด็กเสี่ยหมายเลข 8
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ กองหน้าชาวอังกฤษย้ายจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว 4 ล้านปอนด์ ซึ่งจะเพิ่มขึ้นสูงสุดได้ถึง 6.5 ล้านปอนด์ ท่ามกลางความหวังในฐานะซูเปอร์ดาวรุ่งที่รอเพียงวันเวลาสำหรับการฉายแสงเท่านั้น ก่อนจะตามมาด้วยเสียงฮือฮาเมื่อฤดูกาลที่แล้วเมื่อ "สเติร์ด" ซัลโวไปถึง 13 ประตูจาก 43 นัด เรียกได้ว่ามีแววชัดๆ แต่เด็กมันห้าวเกินวัยใจเกินอายุ และวาจาเกินฝีเท้า ทำให้ในฤดูกาลนี้ผลงานตกต่ำลงไปอย่างน่าใจหายและส่อแววจะถูกขายทิ้งด้วยเหตุผลว่าสันดานเสีย
ฤดูกาล 2010/11 อดีตเด็กเสี่ยหมายเลข 9
เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าชาวสเปนย้ายจาก ลิเวอร์พูล มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัวอันเป็นสถิติใหม่อีกครั้ง 50 ล้านปอนด์ โดยในครั้งนั้นแฟนๆ เชลซี ทุกรายไม่มีคนไหนไม่ยินดีกับการมาถึงของหัวหอกตีนคมซึ่งสร้างความหวาดผวาให้กับกองหลังทุกผู้นายบนเวทีพรีเมียร์ลีก
แม้จะอยู่กับทีมที่ต้องชงเองกินเองเสียเป็นส่วนใหญ่มาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่การกลับกลายเป็นว่าการได้มาอยู่กับทีมที่มีคนคอยเสิร์ฟให้ (แม้จะเสิร์ฟในท่าในมุมที่ไม่ค่อยถนัดนัก) กลับทำให้ "เอล นินโญ่" เล่นไม่ดีไปเสียอย่างนั้น ประกอบกับเสียความมั่นใจไปแทบหมดสิ้นแล้ว สถิติ 19 ประตูจาก 86 นัดเป็นหลักฐานชัดเจนถึงความล้มเหลวของดาวเตะรายนี้ได้เป็นอย่างดี
ฤดูกาล 2011/12 อดีตเด็กเสี่ยหมายเลข 10
โรเมลู ลูกากู กองหน้าชาวเบลเยียมย้ายจาก อันเดอร์เลชท์ มาอยู่กับทีมด้วยค่าตัว 20 ล้านปอนด์ และด้วยสมญา "นิวดร็อกบา" ก็ยิ่งทำให้แฟนๆ คาดหวังเอาไว้สูงสำหรับหัวหอกรายนี้ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ใครต้องรอนานเมื่อฉายแววออกมาให้เห็นตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าตอนนี้ยังแค่ "ของปลอมทำเหมือน"
และน่าจะต้องเก็บประสบการณ์ไปอีกสักพักก่อนจะได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แม้จะยังไม่ล้มเหลวไปเลยทีเดียวแต่ก็ยากที่จะทำให้ "เสี่ยหมี" กลับมาพิศวาสเขาเหมือนเมื่อครั้งที่เคยยอมทุ่มเงินมหาศาลเพื่อให้ได้ตัวมาร่วมทีม
เรื่องโดย "นนท์"