ศพต่อไป....

ศพต่อไป....

ศพต่อไป....
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : และแล้ว เวทีที่ไม่เคยให้อภัยแก่ผู้ที่เดินพลาดอย่าง พรีเมียร์ลีก ก็ได้ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ เป็นเหยื่อรายแรกของซีซั่นนี้ เมื่อมีศพแรก ก็ต้องมีคำถามต่อมาว่า แล้วใครจะเป็นศพรายต่อไป...

คืนวันที่ 20 พฤศจิกายน เชลซี แชมป์เก่าถ้วย "บิ๊กเอียร์" บุกไปพ่าย ยูเวนตุส 0-3 โดนผลักไปยืนปากเหว เกือบตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก อยู่รอมร่อ ต่อมาวันที่ 21 ตามเวลาประเทศไทย "เสี่ยหมี" โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมก็มีคำสั่งเด้งฟ้าผ่าลงกลางกบาลเกลี้ยงๆ ของ โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ

ส่งผลให้กุนซือคิ้วหนากลายเป็น "ศพแรก" ในเวทีลีกแดนผู้ดี ที่โดนเชือดสังเวย เป็นรายแรกของฤดูกาล และแม้จะเป็นผู้พา "สิงห์บลูส์" เถลิงบัลลังก์จ้าวยุโรปเมื่อซีซั่นก่อน

แต่ผลงานช่วงหลังของนายใหญ่ไร้ราศีคนนี้จัดว่าแย่ 10 เกมหลัง ไม่ชนะถึง 6 เกม แม้จะอยู่ที่ 3 ในลีก แต่เกือบจะกลายเป็น แชมป์เก่าที่ตกรอบแบ่งกลุ่มใน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปแล้ว

แถมมีวงในแอบกระซิบว่าการ "ห้าวเป้ง" สั่งดรอป เฟร์นานโด ตอร์เรส กองหน้าเด็กเส้น "เสี่ยหมี" นัดเจอ "ยูเว่" ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ฟางเส้นสุดท้ายขาดผึง และส่งผลให้กุนซือรายนี้โดนสั่งเก็บ

รายแรกมีให้เห็นเป็นขวัญตาแล้ว รายต่อไปจะเป็นใคร? บ่อนรับพนันถูกกฎหมายที่เมืองนอกเขาออกอัตราตัวเต็งโดนสั่ง "เด้ง" เป็นรายต่อไปไว้เหมือนกัน ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจไม่น้อย เพราะศพรายที่สอง ที่จะโดนฆาตกรโรคจิตเอาชีวิต ต้องเป็นหนึ่งในจำนวนกุนซืออับโชคเหล่านี้แหละ

คนแรก มาร์ค ฮิวจ์ส แห่ง ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส อันดับในตาราง บ๊วย

ที่จริงถ้าวัดจากสภาพผลงาน คนที่สมควรจะโดนสั่งเชือดเป็นรายแรกน่าจะเป็นกุนซือชาวเวลส์รายนี้เสียด้วยซ้ำ ทัพ "ทหารเสือราชินี" เสริมทัพด้วยผู้เล่นฝีเท้าไม่ขี้เหร่ถึง 11 รายนำโดย ชูลิโอ เซซ่าร์ อดีตนายทวารทีมชาติบราซิล, เอสเตบัน กาเนโร่ อดีตกองกลาง "ราชันชุดขาว" และ ปาร์ค จี-ซอง อดีตกัปตันเกาหลีใต้ และผลงานในลีกจากการเล่น 12 นัดกลับมีเพียง 4 แต้มและยังไม่เคยชนะเลยแม้แมต่นัดเดียว จึงถือว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อมากที่ยังอยู่รอดมาได้ถึงปัจจุบัน (อัตรา 2 ต่อ 5)

คนที่สอง โรแบร์โต้ มันชินี่ แห่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับในตาราง จ่าฝูง

ไม่น่าเชื่อว่าชายผู้พาทีมความแชมป์ลีกฤดูกาลก่อน และทำทีมนำเป็นจ่าฝูงในขณะนี้จะติดเป็นตัวเต็งอันดับ 2 ก่อนหน้านี้ผลงานในลีกของ "เรือใบสีฟ้า" นับว่าดรอปลงจากซีซั่นก่อน เนื่องจากมีนักเตะบาดเจ็บหลายราย และเมื่อเริ่มทยอยกลับมา ทีมก็กลับมาผลงานดีอีกครั้ง

หากแต่สิ่งที่ไม่น่าให้อภัยคือการที่มีนักเตะศักยภาพระดับพระกาฬขนาดนี้ กลับร่วงตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน พร้อมกับข่าวพัวพันกับ โจเซฟ กวาดิโอล่า กุนซือเนื้อหอมที่พา "บาร์ซ่า" สู่ความยิ่งใหญ่ จึงทำให้เก้าอี้ของ "มันโช่" กำลังร้อนก็เป็นได้ (อัตรา 7 ต่อ 1)

คนที่สาม ไนเจล แอดกิ้นส์ แห่ง เซาธ์แฮมตัน อันดับในตาราง รองบ๊วย

ผลงานของพลพรรค "นักบุญ" มี 8 แต้มจากการลงเล่น 12 นัด จากการชนะ 2 เสมอ 2 อาจดูย่ำแย่ แต่หากดูจากการเล่นแต่ละนัด ต้องบอกว่าเป็นทีมที่สมควรทำได้ดีกว่านี้ หากกุนซือผู้พาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดตัดสินใจให้ลูกทีมเล่นรับอย่างรัดกุม ยามที่ทีมได้เปรียบเสียบ้าง คงมีอันดับที่สูงกว่านี้

เกมรุก "นักบุญ" ทำได้ถึง 18 ประตู ซึ่งนับว่าน้อยกว่าทีมอันดับ 4 อย่าง เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน เพียงลูกเดียวเท่านั้น ทว่าเกมรับกลับแย่ทีมสุดในลีกด้วยการเสียถึง 30 ประตู ไม่รู้เมื่อไหร่ แอดกิ้นส์ จะรู้สึกตัวสั่งให้ลูกทีมรุกรับอย่างสมดุลย์ และไม่รู้ว่าเจ้าของทีมจะรอให้ถึงตอนนั้นหรือไม่ด้วย (อัตรา 12 ต่อ 1)

คนที่สี่ อังเดร วิลาส-โบอาส แห่ง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ อันดับในตาราง 8

บุรุษสุดอาภัพผู้นี้เคยโดนสั่งเชือดคาเก้าอี้กุนซือ เชลซี มาแล้ว หลังทำงานได้เพียง 8 เดือน และแม้ว่าคราวนี้เจ้าตัวจะของเวลาทำทีมสักปี-สองปี แต่การใช้เงินเสริมทัพแบบบ้าคลั่งในช่วงซัมเมอร์ ย่อมทำให้ใครๆ ก็หวังว่าซีซั่นนี้ต้องจบที่ท็อปโฟร์เป็นอย่างน้อย

แม้จะยังมีหวังแต่ผลงาน 5 นัดหลังสุดในลีก "เอวีบี" ทำทีมชนะได้นัดเดียว ที่เหลือแพ้รวด และแม้ว่าจะยังมีหวังเข้ารอบใน ยูฟ่า ยูโรปาลีก แต่หากอยากเอามือยึดเก้าอี้กุนซือให้แน่นกว่านี้เพื่อพิสูจน์ฝีมือตัวเองเมื่อครั้งพา ปอร์โต้ คว้าดับเบิ้ลแชมป์ ว่าไม่ใช่แค่ราคาคุย ก็ต้องเร่งเครื่องให้ทีมคงเส้นคงวากว่านี้ (อัตรา 12 ต่อ 1)

คนที่ห้า เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แห่ง ลิเวอร์พูล อันดับในตาราง 11

ที่จริงเขาเป็นเต็งอันดับ 6 แต่อันดับ 5 อย่าง ไบรอัน แม็คเดม็อตต์ ของ เร้ดดิ้ง เผอิญไม่มีอะไรน่าสนใจ บี-ร็อด เพิ่มเข้ามาทำทีมในซีซั่นนี้ พร้อมด้วยปรัญญาการเล่นบอลบนพื้น แม้ช่วงแรกจะลุ่มๆ ดอนๆ แต่ผลงานช่วงหลังต้องบอกว่าใช้ได้ ตั้งแต่แพ้ในศึก "แดงเดือด" ให้ แมนฯ ยูฯ พวกเขาก็ยังไม่แพ้อีกเลย แม้จะหนักไปทางเสมอก็เถอะ

และด้วยผลงานล่าสุดคือการชนะ วีแกน ถึง 3-0 พร้อมกับรูปเกมทัพ "หงส์แดง" ที่ดูมีทรงกว่าเดิม น่าจะพูดได้ว่า ร็อดเจอร์ส ยังไม่น่าจะใช่รายต่อไป แต่หากจบฤดูกาลอันดับออกมาไม่สวยล่ะก็ อาจชะตาขาดก่อนขึ้นซีซั่นใหม่ก็เป็นได้ (อัตรา 33 ต่อ 1)

"เมื่อวงการลูกหนังในยุคปัจจุบัน ขึ้นอยู่กับเรื่องของธุรกิจ พนักงานทีมทำงานไม่ได้ตามเป้า หรือขัดคำสั่งสร้างความขุ่นข้องหมองใจให้ผู้เป็นนาย ก็ต้องโดนไล่ออกไปตามระเบียบ ยิ่งเป็นเวทีที่ขับเคี่ยวกันชนิดหมันหยดติ๋งแล้ว ทุกก้าวย่างล้วนมีความหมาย ความผิดพลาดอาจไม่ได้รับอนุญาตให้ปรากฏได้บ่อยครั้ง ดังนั้น ศพที่สองต่อจาก "อาร์ดีเอ็ม" ย่อมสร้างกระแสได้ความเปลี่ยนแปลงในการชิงชัยในอังกฤษได้แน่นอน"

เรื่องโดย"FIATTA"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook