แมนเชสเตอร์...ดาร์บี้
ฟุตบอล : แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ จบลงไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์และเร้าใจอย่างมาก
ชัยชนะของ "ปิศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ส่งผลให้การลุ้นแชมป์ในปีนี้ ทีมนำจ่าฝูงได้ขยับหนีห่างผู้ไล่ล่าออกไปห่างไกลอีกครั้ง
หลังจากที่ "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เคยทำได้เมื่อต้นซีซั่น
ความสนุกความตื่นเต้นของเกมนี้ ทุกท่านคงจะได้ชมการถ่ายทอดสดที่มีทั้งฟรีทีวีและเพย์ ทีวี ประเด็นก็คือ โรแบร์โต้ มันชินี่ กับการเล่นของ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้
ถึงทางตันแล้วหรือยัง
สไตล์การทำทีมของ มันชินี่ ก็คือ การต่อบอลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ศาสตร์ก็คือ การต่อบอลกันไปเรื่อยๆ เท้าสู่เท้า ก่อนจะอาศัยความสามารถเฉพาะตัวกดดันคู่แข่ง
ด้วยการซื้อตัวนักเตะระดับท็อปๆ เข้ามาเล่นตามระบบ
แต่ถ้าวันไหนนักเตะระดับท็อปของพวกเขาเกิดเล่นไม่ดีขึ้นมา มันก็จะตื้อๆ ตันๆ แต่ที่ผ่านมาตั้งแต่ซีซั่นก่อน ด้วยความที่มีนักเตะชั้นดีมากมายทำให้พวกเราคว้าแชมป์มาได้ แต่ก็อย่างที่ทราบ
หัวใจแทบจะวางวายเหมือนกัน
นาทีนี้ มันชินี่ ยังคงทำทีมเหมือนเดิม หลังจากเลือกที่จะเปลี่ยนระบบการยืนของแผงมิดฟิลด์ใหม่ในช่วงต้นซีซั่น ซึ่งปรากฏว่า มันไม่ค่อยเวิร์ก พวกเขาเสียประตูง่ายเกินไป แต่ยังโชคดีที่มีนักเตะชั้นดีในเกมรุกมากมาย
คาร์ลอส เตเบซ, เซร์คิโอ อาเกโร่, มาริโอ บาโลเตลลี่ และเอดิน เชโก้ ทำให้ทีมรอดมาได้บ่อยครั้งโดยเฉพาะสองคนแรก และคนสุดท้าย
ส่วนคนที่ 3 ปล่อยให้เค้าอินดี้ไปตามสภาพก็แล้วกัน
อีกสิ่งที่ มันชินี่ ควรอย่างยิ่งที่จะต้องแก้ไขนั่นก็คือ บาโลเตลลี่ ที่ไม่รู้มีดีอะไรให้ติดอกติดใจอะไรนักหนา ถึงได้ตามใจกันมากมาย
มันไม่ได้ทำให้ บาโลเตลลี่ เสียผู้เสียคน
แต่มันทำให้สปิริตในทีมเสียไป
ปัญหาในทีมคาราคาซังแบบนี้ ทีมก็เลือกเล่นในระบบที่หลายๆ ทีมเดาทางออก แผนอื่นๆ แทบจะไม่มีรองรับให้กับทีม ต้องอาศัยความสามารถของนักบอลเพียงอย่างเดียว ซึ่งมันชัดเจนอีกครั้งในเกมพ่ายให้กับ ยูไนเต็ด
รูปเกมพวกเขาเป็นรอง และเมื่อตัวผู้เล่นก็เปลี่ยนตามตำแหน่ง ไม่ได้มีอะไรพิเศษ สุดท้ายก็แพ้ในที่สุด บนเกมที่มีอะไรหลายสิ่งหลายอย่าง
เวย์น รูนี่ย์ เป็นคนที่ 7 ในประวัติศาสตร์ที่ยิงได้ 150 ลูกในพรีเมียร์ลีก
แมนฯยูฯ นำ 2-0 ในพรีเมียร์ลีก 89 นัดชนะถึง 87 เกมและไม่เคยแพ้
ฟุตบอลอังกฤษ ในระดับอาชีพทั้ง 4 ดิวิชั่น มาถึงวันนี้ทุกทีมได้ลิ้มรสคำว่า "พ่ายแพ้" กันหมดทุกทีมแล้ว
ทีมล่าสุดก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้!
เรื่องโดย "บี แหลมสิงห์"