อย่ารอจนไม่เหลือเวลา

อย่ารอจนไม่เหลือเวลา

อย่ารอจนไม่เหลือเวลา
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์ คัพ ครั้งที่ 42" กำหนดมีขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 มกราคมนี้ ที่ จ.เชียงใหม่

นั่นหมายความว่า นับจากวันนี้ (11 ม.ค.) เหลือเวลาอีกเพียง 13 วันเท่านั้นครับ

แต่ทว่าจนป่านนี้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ทำได้แค่ประกาศรายชื่อนักเตะ 28 คนออกมาให้แฟนบอลได้รับรู้ โดยยังไม่มีกำหนดการฝึกซ้อมและเตรียมพร้อมแต่อย่างใด

เนื่องจากว่า ต้องรอ "วินฟรีด เชเฟอร์" กลับมาจากการพักผ่อนที่บ้านเกิดเสียก่อน ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีใครบอกได้ว่า "วินนี่" จะบินกลับมาวันไหน? มีแต่คาดกันว่าน่าจะมาถึงเมืองไทยในช่วงกลางเดือนนี้

ถ้าเป็นเช่นนั้น เวลาในการเตรียมทีมฝึกซ้อมเพื่อลงทำศึก "คิงส์ คัพ" ครั้งนี้ จะเหลือสักกี่วัน?

ผมไม่ทราบว่า สมาคมฟุตบอลฯ ได้บอกย้ำกับ "วินนี่" หรือเปล่าครับว่า "คิงส์ คัพ" คือถ้วยพระราชทานของ "ในหลวง" ที่มีความสำคัญสำหรับคนไทยทั้งประเทศ

และยังเป็นถ้วยเก่าแก่ที่สุดในทวีปเอเชีย หลังเราเริ่มจัดครั้งแรกในปี พ.ศ.2511 ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ยกเว้นในปี 2526, 2528, 2551 และ 2554 เท่านั้นที่ติดขัดปัญหาบางอย่างจนไม่สามารถจัดการแข่งขันได้

โดยใน 3 ครั้งหลังสุด ปี 2552, 2553 และ 2555 ทีมชาติไทย ไม่สามารถรักษาถ้วยพระราชทาน "คิงส์ คัพ" เอาไว้ในประเทศได้เลย แถมผลงานสาละวันเตี้ยลงเรื่อยๆ จากรองแชมป์, อันดับ 3 จนมาปีที่แล้ว "ห่วยขั้นเทพ" ด้วยตำแหน่ง "บ๊วย" จาก 4 ทีม

โดยเฉพาะครั้งสุดท้าย ทีมฟุตบอลชาติไทย ก็อยู่ภายใต้การคุมทัพของ "วินนี่" คนเดียวกันนี้นี่เองครับ

ตอนนั้น "วินนี่" รู้ดีถึงปัญหาความไม่พร้อมของนักเตะที่ต้องกรำศึกหนักในประเทศ ทั้งไทยพรีเมียร์ลีก และเอฟเอ คัพ จึงแทบไม่มีเวลาในการเก็บตัวฝึกซ้อม โดยรวมทีมกันได้ไม่ถึงสัปดาห์ด้วยซ้ำ สุดท้ายจึงเจ๊งไม่เป็นท่า

มาครั้งนี้ ดูเหมือน "วินนี่" คงจะต้องกลับมาใช้ "ข้ออ้าง" เดิมๆ เพราะจนป่านนี้แล้วก็ยังไม่ได้กลับมาเริ่มต้นคุมการฝึกซ้อมอย่างจริงๆ จังๆ เสียที

ผมไม่รู้ว่า "คุณวรวีร์ มะกูดี" ในฐานะผู้นำสมาคมฟุตบอลฯ และ "วินนี่" กำลังเล่นเกมอะไรกันอยู่

แต่ขอให้รู้ไว้ว่าถึงแม้ ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์ คัพ" จะเป็นแค่ทัวร์นาเมนต์หนึ่งที่ไม่สามารถพาบอลไทยไปบอลโลกได้ หรือคว้าแชมป์โอลิมปิก หรือแชมป์เอเชียนคัพ หรือกระทั่งแชมป์ซีเกมส์ได้

แต่อย่างน้อยถ้วยใบนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า เราควรให้ความสำคัญมากขนาดไหน? ไม่ใช่เหรอครับ

เรื่องโดย "เอ็ม ฮอตสกอร์"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook