"สมาคมฯ" ต่อสัญญา "ราเยวัช" 2 ปี, เตรียมลุยเอเชียนคัพ 2019
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ มีความยินดีที่จะประกาศว่า ทางสมาคมฯ ได้บรรลุข้อตกลงในการต่อสัญญา มร. มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทยชุดใหญ่ พร้อมด้วยทีมงานสตาฟฟ์โค้ช ออกไปถึงปี พ.ศ. 2563 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สำหรับ เฮดโค้ชชาวเซิร์บ เข้ามาคุมทัพช้างศึก เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา และมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 มาครองได้สำเร็จ โดยที่ผ่านมา ราเยวัช ได้คุมทีมชาติไทยอย่างเป็นทางการทั้งหมด 8 นัด มีสถิติ ชนะ 3 เสมอ 2 และแพ้ 3
โดย พล.ต.อ. ดร. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กล่าวว่า "เราได้บรรลุข้อตกลงกับโค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่คือ มร. มิโลวาน ราเยวัช ทางสมาคมฯได้เซ็นสัญญาต่อกับราเยวัชไปอีกสองปี จนถึงช่วงหมดวาระการเป็นนายกสมาคมฯ ของผม รายละเอียดของสัญญานั้นคือราเยวัช จะต้องทำหน้าที่รับผิดชอบทีมชาติไทยชุดใหญ่ ในการสู้ศึก ซูซูกิ คัพ และชิงแชมป์เอเชีย เราเซ็นสัญญากับเขาสองปี เพื่อให้เขารับผิดชอบงานสำคัญ และเราจะมีการประเมินผลเป็นระยะๆ"
"สิ่งที่ทางสมาคมฯ ได้รับการร้องขอจากเขา เราก็ตอบสนองเขา แต่สิ่งที่เขาต้องทำตามเงื่อนไขคือ จะต้องนำพาทีมชาติไทยชุดใหญ่ไปสู่จุดหมาย หรือสิ่งที่ดีกว่าที่เคยมีมาในอดีต คืออย่างน้อยต้องเข้ารอบน็อคเอาท์ให้ได้ในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ตรงนี้ก็ถือเป็นเงื่อนไขในการประเมิน ราเยวัช ในโอกาสต่อๆไป"
ด้าน มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า "การแข่งขันรายการต่อไปคือ คิงส์ คัพ คือตอนนี้เราโฟกัสที่รายการนี้ ซึ่งหลังจากนั้นเราจะพยายามเตรียมทีมให้พร้อมที่สุดสำหรับการแข่งขันรายการสำคัญ อย่างเอเชียน คัพ 2019 ซึ่งทีมชาติไทยจะพยายามเตรียมทีมให้ดีที่สุด เพื่อสร้างผลงานให้ดีที่สุด"
"จากที่ได้คุยกับสมาคมฯ เป้าหมายคิงส์ คัพ ปีนี้ คือแชมป์ เหมือนกับครั้งที่ผ่านมา เราจะพยายามป้องกันแชมป์ให้ได้ แม้จะรู้ว่ามันเป็นงานที่ยาก เพราะว่าเป็นช่วงฟีฟ่า เดย์ และแน่นอนทุกทีมต่างพยายามส่งทีมที่ดีที่สุดมาร่วมแข่งขัน เราเองก็จะพยายามทำเต็มที่เพื่อรักษาแชมป์ให้ได้ และสร้างความภูมิใจให้กับชาวไทย ส่วนของเอเชียน คัพ ที่ตั้งเป้าไว้คือได้เข้ารอบน็อคเอาท์ นี่คือเป้าหมายที่เราตั้งร่วมกันกับสมาคมฯ"
"ตอนนี้ผมยังให้คำตอบไม่ได้ว่าจะส่งทีมชุดไหน เข้าแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน แต่จะมาคุยกันอีกครั้ง ว่าจะจัดทีมให้เหมาะสมที่สุด เพราะเป้าหมายหลักคือชิงแชมป์เอเชีย"
"ในคิงส์ คัพ ครั้งนี้ เราก็จะเรียกนักเตะจากต่างประเทศมาทั้งหมด เพราะมันเป็นช่วงฟีฟ่า เดย์ และสโมสรก็ต้องปล่อยนักเตะมารับใช้ชาติ ตามกฏของฟีฟ่า เพราะแต่ละทีมที่มาต่างส่งนักเตะที่ดีที่สุดมา เราเองก็ต้องสร้างทีมที่ดีที่สุด ในช่วงหลังจากนี้ผมเองก็พยายามจับตาดูนักเตะภายในประเทศเช่นกัน เพื่อหาคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการแข่งขัน"
"ในส่วนของโซรัน ยานโควิช ก็ไม่ได้อยู่ในทีมสตาฟฟ์แล้ว เพราะตั้งแต่ที่เขาไปเป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทย U23 และล่าสุดก็มีการยกเลิกสัญญาไปแล้ว"
สำหรับโปรแกรมต่อไป ของทีมชาติไทย คือการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 48 ที่จะมีขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม นี้ โดยได้เชิญสามชาติจากสามทวีปมาร่วมแข่งขันอันประกอบไปด้วย กาบอง จากทวีปแอฟริกา, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จากทวีปเอเชีย และ สโลวาเกีย จากทวีปยุโรป ต่อจากนั้นจะมีการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียน เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2018 ในช่วงเดือนธันวาคม และ ฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย หรือ เอเชียน คัพ 2019 ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในช่วงเดือนมกราคม