โปรแกรมบอล Preview Premier
วิเคราะห์ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
วันอังคารที่ 29 มกราคม 2556
(20) ควีนส์ปาร์ค – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (2)
เวลา: 02.45 น.
สนาม: ลอฟตัส โร้ด
ผู้ตัดสิน: ฟิล ดาวด์
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 1
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ควีนส์ปาร์ค
26 ม.ค. 56 แพ้ เอ็มเค ดอนส์ 2-4 (เหย้า) เอฟเอคัพ
19 ม.ค. 56 เสมอ เวสต์แฮม 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
15 ม.ค. 56 ชนะ เวสต์บรอมวิช 1-0 (เยือน) เอฟเอคัพ
12 ม.ค. 56 เสมอ สเปอร์ส 0-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56 เสมอ เวสต์บรอมวิช 1-1 (เหย้า) เอฟเอคัพ
แมนฯ ซิตี้
26 ม.ค. 56 ชนะ สโต๊ค 1-0 (เยือน) เอฟเอคัพ
19 ม.ค. 56 ชนะ ฟูแล่ม 2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
13 ม.ค. 56 ชนะ อาร์เซนอล 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56 ชนะ วัตฟอร์ด 3-0 (เหย้า) เอฟเอคัพ
1 ม.ค. 56 ชนะ สโต๊ค 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
ผลการพบกันนัดแรก
1 ก.ย. 55 แมนฯ ซิตี้ 3-1 ควีนส์ปาร์ค
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
13 พ.ค. 55 พรีเมียร์ลีก แมนฯ ซิตี้ 3-2 ควีนส์ปาร์ค
5 พ.ย. 54 พรีเมียร์ลีก ควีนส์ปาร์ค 2-3 แมนฯ ซิตี้
28 ต.ค. 46 ลีก คัพ ควีนส์ปาร์ค 0-3 แมนฯ ซิตี้
8 มี.ค. 43 ดิวิชั่น 1 แมนฯ ซิตี้ 1-3 ควีนส์ปาร์ค
6 พ.ย. 42 ดิวิชั่น 1 ควีนส์ปาร์ค 1-1 แมนฯ ซิตี้
ความพร้อม-สภาพทีม
ควีนส์ปาร์ค
โลอิก เรมี่ กองหน้าตัวใหม่ น่าจะกลับมาเป็นตัวเลือกได้อีกครั้งในนัดนี้ หลังเจ็บต้นขาไปตั้งแต่ลงประเดิมสนามนัดแรกในเกมลีกนัดที่แล้ว ทำให้ถูกพักไว้ในเกมเอฟเอคัพ เช่นเดียวกับ อเดล ทารับต์ เพลย์เมกเกอร์ชาวโมร็อกโก ที่มีอาการเจ็บเล็กน้อยมาจากเกมเดียวกัน และไม่ได้ลงเล่นในนัดล่าสุด
คิวพีอาร์ ต้องลุ้นเหนื่อยกว่ากับความฟิตของ ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ และ จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ สองตัวทำเกมรุกริมเส้น ซึ่งรายแรกเจ็บข้อเท้ามาจากเกมลีกนัดที่แล้ว ส่วนรายหลังยังไม่ฟิตเต็มร้อยจากปัญหาเดิมที่แฮมสตริง แม้จะฟิตกลับมาลงเล่นได้แล้วก็ตาม
แซมบ้า เดียกิเต้ มิดฟิลด์ชาวมาลี ยังติดภารกิจรับใช้ชาติอยู่ แต่ เอสเตบัน กราเนโร่ มิดฟิลด์ชาวสเปน ฟิตกลับมาลงเล่นได้แบบเต็มเกมแล้วในเกมเอฟเอคัพ ส่วน บ็อบบี้ ซาโมร่า ศูนย์หน้าที่เคยมีดีกรีทีมชาติอังกฤษ ก็กลับมาลงเล่นเป็นตัวสำรองได้ในเกมเดียวกัน หลังพักไปนานเพราะเจ็บสะโพก และคงต้องรอโอกาสที่ข้างสนามต่อไปในเกมนี้
แฮร์รี่ เรดแนปป์ คงจะปรับทัพจากทีมชุดบอลถ้วยกลับมาใช้งานชุดใหญ่อีกครั้ง หลังส่งตัวสำรองลงเล่นเป็นส่วนใหญ่ในเกมที่แล้ว
ผู้เล่นบาดเจ็บ: ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์ (ข้อเท้า), จูเนียร์ ฮอยเล็ตต์ (แฮมสตริง), แอนดี้ จอห์นสัน (เข่า), โจเซ่ โบซิงวา (หลัง)
ความพร้อม-สภาพทีม
แมนฯ ซิตี้
เรือใบสีฟ้ามีปัญหาในการจัดแนวรับ เมื่อ แว็งซ็องต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีม เจ็บน่องมาจากเกมเอฟเอคัพ ทำให้หมดสิทธิลงนำทัพในนัดนี้ ขณะที่ มาติย่า นาสตาซิช กองหลังดาวรุ่ง ก็มีอาการเจ็บเข่ารบกวนอยู่ และไม่แน่ว่าจะพร้อมลงเล่นหรือไม่ในนัดนี้
โคโล ตูเร่ อีกหนึ่งตัวเลือกในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง ยังอยู่ระหว่างการทำศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ ทำให้มีเพียง โจลีออน เลสค็อตต์ เซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติอังกฤษ ซึ่งหลุดไปเป็นตัวสำรองในฤดูกาลนี้ เป็นตัวเลือกคนเดียวที่เหลืออยู่
ไมกาห์ ริชาร์ดส์ กับ ไมคอน สองฟูลแบ็ก ยังคงไม่หายเจ็บเข่ากลับมา ส่วน ยายา ตูเร่ มิดฟิลด์ตัวหลัก เป็นอีกคนที่ติดรับใช้ชาติในศึกชิงแชมป์กาฬทวีป
ทางด้าน ซาเมียร์ นาสรี่ มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส ส่วนและ มาริโอ บาโลเตลลี่ กองหน้าทีมชาติอิตาลี คืนความฟิตกลับมาแล้วหลังมีอาการป่วยรบกวน ขณะที่ โจ ฮาร์ท จะกลับมาเฝ้าเสาตามเดิม หลังได้พักไปในเอฟเอคัพ
ผู้เล่นบาดเจ็บ: แว็งซ็องต์ กอมปานี (น่อง), มาติย่า นาสตาซิช, ไมคอน, ไมกาห์ ริชาร์ดส์ (เข่า)
วิเคราะห์รูปเกม
ควีนส์ปาร์คไม่เน้นเต็มที่ในบอลถ้วย ไม่งั้นก็ประมาท หรือฟอร์มห่วยจริง หลังพ่ายทีมรองบ่อนคาบ้านแบบหมดรูปมาในนัดล่าสุด และจะมาเน้นดิ้นหนีตายในลีกกันต่อในนัดนี้ แต่ก็ต้องเจองานช้างอีกครั้งในการรับเยือนแชมป์เก่าอย่างแมนฯ ซิตี้ ซึ่งฟอร์มยังคงแข็งแกร่งแบบไม่มีแผ่วในหลายนัดหลัง และช่องว่างระหว่างคะแนนกับจ่าฝูงอย่างแมนฯ ยูไนเต็ด ที่ลดลงมาก็ยิ่งทำให้เรือใบสีฟ้ามีฮึดมากขึ้น นัดนี้แม้จะเป็นทีมเยือนแต่ก็น่าจะมีโอกาสลุ้นมากกว่าเจ้าถิ่น ซึ่งเคยส่งมอบตำแหน่งแชมป์ให้ทีมเมื่อฤดูกาลก่อนมาแล้ว แม้ทหารเสือราชินีจะทำได้ดีในบ้านกับการเจอทีมใหญ่ๆ หลายครั้ง แต่นัดนี้ไม่น่าจะต้านอยู่ แม้ว่าอาจจะไม่ถูกถล่มยับเยินก็ตาม
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
ควีนส์ปาร์ค (4-2-3-1): ชูลิโอ เซซาร์; เนดุม โอนูโอฮา, ไรอัน เนลเซ่น, คลินท์ ฮิลล์, อาร์กมงด์ ตราโอเร่; สเตฟาน เอ็มเบีย, ฌอน เดอร์รี่; เจมี่ แม็คกี้, อเดล ทารับต์, ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์; โลอิก เรมี่
ผู้จัดการทีม: แฮร์รี่ เรดแนปป์
แมนฯ ซิตี้ (4-2-3-1): โจ ฮาร์ท; กาเอล กลิชี่, ปาโบล ซาบาเลต้า, โจลีออน เลสค็อตต์, อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ; ฆาบี้ การ์เซีย, แกเร็ธ แบร์รี่; ดาวิด ซิลบา, เซร์คิโอ อาเกโร่, ซาเมียร์ นาสรี่; เอดิน เซโก้
ผู้จัดการทีม: โรแบร์โต้ มันชินี่
ฮอตสกอร์: แมนฯ ซิตี้ชนะ 1-0
(17) แอสตัน วิลล่า – นิวคาสเซิล (16)
เวลา: 02.45 น.
สนาม: วิลล่า ปาร์ค
ผู้ตัดสิน: ไมค์ ดีน
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 5
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
วิลล่า
25 ม.ค. 56 แพ้ มิลล์วอลล์ 1-2 (เยือน) เอฟเอคัพ
22 ม.ค. 56 ชนะ แบร๊ดฟอร์ด 2-1 (เหย้า) ลีกคัพ
19 ม.ค. 56 เสมอ เวสต์บรอมวิช 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
12 ม.ค. 56 แพ้ เซาแธมป์ตัน 0-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
8 ม.ค. 56 แพ้ แบร๊ดฟอร์ด 1-3 (เยือน) ลีกคัพ
นิวคาสเซิล
19 ม.ค. 56 แพ้ เรดดิ้ง 1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
12 ม.ค. 56 เสมอ นอริช 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56 แพ้ ไบรจ์ตัน 0-2 (เยือน) เอฟเอคัพ
2 ม.ค. 56 แพ้ เอฟเวอร์ตัน 1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
29 ธ.ค. 55 แพ้ อาร์เซนอล 3-7 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
ผลการพบกันนัดแรก
2 ก.ย. 55 นิวคาสเซิล 1-1 วิลล่า
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
5 ก.พ. 55 พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล 2-1 วิลล่า
17 ก.ย. 54 พรีเมียร์ลีก วิลล่า 1-1 นิวคาสเซิล
10 เม.ย. 54 พรีเมียร์ลีก วิลล่า 1 – 0 นิวคาสเซิล
22 ส.ค. 53 พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล 6 – 0 วิลล่า
24 พ.ค. 52 พรีเมียร์ลีก วิลล่า 1 – 0 นิวคาสเซิล
3 พ.ย. 51 พรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิล 2 – 0 วิลล่า
ความพร้อม-สภาพทีม
วิลล่า
ฟาเบียน เดลฟ์ หมดสิทธิลงเล่นในแดนกลางนัดนี้ หลังได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้ามาจากเกมล่าสุด
ส่วน นาธาน เบเกอร์ กองหลังดาวรุ่งสารพัดประโยชน์ และ ริชาร์ด ดันน์ กองหลังตัวเก๋า น่าจะยังไม่ถูกส่งลงสนามในเกมนี้ แม้จะหายเจ็บกลับมาลงซ้อมได้แล้วก็ตาม แต่สภาพความฟิตอาจจะยังไม่พอ
เกมนี้วิลล่าน่าจะปรับทัพจากชุดที่ลงเตะเอฟเอคัพมา โดย คริสเตียน เบนเทเก้ กับ กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์ น่าจะได้ลงมาเป็นตัวหลักในแนวรุกอีกครั้ง หลังถูกพักไว้ ทำให้ดาร์เรน เบนท์กับ อันเดรียส ไวมันน์ คงต้องกลับไปนั่งสำรองแทน
คริส เฮิร์ด กับ มาร์ก อัลไบรจ์ตัน เป็นสองมิดฟิลด์ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่เท้า ขณะที่ แกรี่ การ์ดเนอร์ กองหลังดาวรุ่ง ยังคงพักยาวเพราะเข่าพังเช่นเดิม ส่วน คาริม เอล อามาดี้ มิดฟิลด์ตัวรับชาวโมร็อกโก ติดภารกิจรับใช้ชาติอยู่
ผู้เล่นบาดเจ็บ : ฟาเบียน เดลฟ์ (ข้อเท้า), ริชาร์ด ดันน์ (โคนขาหนีบ), นาธาน เบเกอร์ (แฮมสตริง), คริส เฮิร์ด, มาร์ก อัลไบรจ์ตัน (เท้า), แกรี่ การ์ดเนอร์ (เข่า)
ความพร้อม-สภาพทีม
นิวคาสเซิล
โยฮัน กาบาย มิดฟิลด์ทีมชาติฝรั่งเศส อาการบาดเจ็บที่โคนขาหนีบกำเริบขึ้นมา จากการลงเล่นเป็นตัวจริงเป็นนัดแรกในรอบหลายสัปดาห์ในเกมลีกนัดที่แล้ว แต่การได้พักสองอาทิตย์เพราะไม่มีคิวเตะเอฟเอคัพก็ทำให้เขามีลุ้นฟิตพอจะกลับมาลงเล่นได้ในเกมนี้
สาลิกาดงคงจะส่งนักเตะฝรั่งเศสหน้าใหม่อีกหลายคน ซึ่งกว้านซื้อมาเสริมทัพก่อนปิดตลาดหน้าหนาว ลงประเดิมสนามในเกมนี้ด้วย โดยมาปู ย็องก้า-เอ็มบิวาอาจได้ลงมาเล่นในแนวรับ ขณะที่ มุสซา ซิสโซโก้ ก็น่าจะได้ลงเล่นในแผงกลาง ส่วน โยอัน กูฟฟร็อง ก็อาจมีลุ้นลงยืนในแนวรุกด้วย
สตีเว่น เทย์เลอร์ กองหลังตัวหลักคนเดิม ซึ่งฟิตสมบูรณ์ดีแล้วจากการพักไปนานเพราะเจ็บแฮมสตริง อาจต้องรอโอกาสที่ข้างสนามไปก่อน ส่วนแดนนี่ ซิมป์สัน แบ็กขวาตัวเก่ง น่าจะยังไม่ฟิตเต็มร้อยจากอาการเจ็บที่เท้า
ทางด้าน ชีค ติโอเต้ มิดฟิลด์ตัวตัดเกมคนสำคัญ ยังคงอยู่ระหว่างไปทำศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ กับไอวอรี โคสต์ ส่วน ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา ปีกเลือดน้ำหอมอีกคน ก็ยังไม่ฟิตกลับมาจากปัญหาที่แฮมสตริง
ผู้เล่นบาดเจ็บ: แดนนี่ ซิมป์สัน (เท้า), ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา (แฮมสตริง), ไรอัน เทย์เลอร์, แฮริส วุคคิช (เข่า), แดน กอสลิ่ง (ข้อเท้า)
วิเคราะห์รูปเกม
วิลล่ายังคงหายนะต่อไป หลังตกรอบบอลถ้วยเป็นรายการที่สองติดต่อกัน แถมยังเป็นการพ่ายให้ทีมรองบ่อนทั้งคู่ เมื่อรวมกับผลงานในลีกที่ยังต้องดิ้นรนหนีตกชั้นอยู่ ทำให้ความกดดันยังหนักอึ้งสำหรับ พอล แลมเบิร์ต กับลูกทีม แถมนัดนี้ต้องเจอกับนิวคาสเซิลที่ได้เปรียบเรื่องความสดแบบเต็มๆ เพราะชิงตกรอบเอฟเอคัพไปก่อนแล้ว ทำให้ไม่มีคิวเตะเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และยังกว้านซื้อนักเตะใหม่ๆ มาเสริมทีมอย่างพร้อมพรั่ง แต่ผลงานของสาลิกาดงก็ย่ำแย่ไม่แพ้กัน ทำให้เกมนี้ถือเป็นการแย่งชิง 6 คะแนน เพื่อความอยู่รอดของทั้งคู่ สิงห์ผงาดได้เล่นในถิ่นคงต้องเดินเกมบุกเพื่อหวังหยิบ 3 แต้มให้ได้ แต่นักเตะใหม่ๆ ของทีมเยือนน่าจะมาช่วยจุดประกายอะไรได้บ้าง และอาจจะทำให้ทีมกลับสู่ชัยชนะได้อีกครั้ง
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
วิลล่า (4-4-2): แบรด กูซาน; แมทธิว โลว์ตัน, คีแรน คลาร์ก, รอน ฟลาร์, โจ เบนเน็ตต์; ชาร์ลส์ เอ็นซ็อกเบีย, แอชลี่ย์ เวสต์วู้ด, แบร์รี่ แบนแนน, สตีเฟ่น ไอร์แลนด์; กาเบรียล อั๊กบอนลาฮอร์, คริสเตียน เบนเทเก้
ผู้จัดการทีม: พอล แลมเบิร์ต
นิวคาสเซิล (4-2-3-1): ทิม ครูล; มาติเยอ เดอบูชี่, มาปู ย็องก้า-เอ็มบิวา, ฟาบริซิโอ โคลอชชินี่, ดาวิเด้ ซานตอน; เวอร์นอน อนิต้า, มุสซา ซิสโซโก้; โยอัน กูฟฟร็อง, โยฮัน กาบาย, โจนาส กูเตียร์เรซ; ปาปิสส์ ซิสเซ่
ผู้จัดการทีม: อลัน พาร์ดิว
ฮอตสกอร์: นิวคาสเซิล ชนะ 2-1
(10) สโต๊ค – วีแกน (19)
เวลา: 02.45 น.
สนาม: บริทานเนีย สเตเดี้ยม
ผู้ตัดสิน: ไมค์ โจนส์
ถ่ายทอดสด: ทรูสปอร์ต 7
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
สโต๊ค
26 ม.ค. 56 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 0-1 (เหย้า) เอฟเอคัพ
19 ม.ค. 56 แพ้ สวอนซี 1-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
15 ม.ค. 56 ชนะ คริสตัล พาเลซ 4-1 (เหย้า) เอฟเอคัพ
12 ม.ค. 56 แพ้ เชลซี 0-4 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56 เสมอ คริสตัล พาเลซ 0-0 (เยือน) เอฟเอคัพ
วีแกน
26 ม.ค. 56 ชนะ แม็คเคิลส์ฟิลด์ 1-0 (เยือน) เอฟเอคัพ
19 ม.ค. 56 แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 2-3 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
15 ม.ค. 56 ชนะ บอร์นมัธ 1-0 (เยือน) เอฟเอคัพ
12 ม.ค. 56 เสมอ ฟูแล่ม 1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56 เสมอ บอร์นมัธ 1-1 (เหย้า) เอฟเอคัพ
ผลการพบกันนัดแรก
1 ก.ย. 55 วีแกน 2-2 สโต๊ค
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
31 มี.ค. 55 พรีเมียร์ลีก วีแกน 2-0 สโต๊ค
31 ธ.ค. 54 พรีเมียร์ลีก สโต๊ค 2-2 วีแกน
22 พ.ค. 54 พรีเมียร์ลีก สโต๊ค 0-1 วีแกน
4 ธ.ค. 53 พรีเมียร์ลีก วีแกน 2-2 สโต๊ค
9 ก.พ. 53 พรีเมียร์ลีก วีแกน 1-1 สโต๊ค
12 ธ.ค. 52 พรีเมียร์ลีก สโต๊ค 2-2 วีแกน
ความพร้อม-สภาพทีม
สโต๊ค
อัสเมียร์ เบโกวิช นายประตูมือหนึ่ง จะกลับมาลงเฝ้าเสาตามเดิม หลังปล่อยให้ โธมัส โซเรนเซ่น รับหน้าที่ในบอลถ้วยตามธรรมเนียมไปแล้ว
ส่วน เกล็นน์ วีแลน มิดฟิลด์ทีมชาติไอร์แลนด์ พร้อมลงเล่นได้ตามปกติ หลังไม่ถูกเฉ่งฐานเปิดปุ่มเสียบคู่แข่งในเกมเอฟเอคัพ
เจฟฟ์ คาเมรอน กองหลังทีมชาติสหรัฐฯ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่แฮมสตริง จนถูกพักไว้ในเกมล่าสุด น่าจะกลับมาลงสนามได้ตามเดิม ขณะที่ แอนดี้ วิลกินสัน และ ไรอัน ช็อตตัน ต่างก็คืนความฟิตกลับมาลงเล่นได้ทั้งคู่ในเกมที่แล้ว และต้องลุ้นว่าใครจะได้โอกาสลงยืนในแนวรับอีกในเกมนี้
เกมนี้ ชาร์ลี อดัม มิดฟิลด์ตัวเก่ง คงจะกลับมาเป็นจอมทัพอีกครั้ง หลังถูกพักไว้ในเกมล่าสุด ส่วนแนวรุกยังต้องเบียดแย่งตำแหน่งกันต่อไประหว่าง ปีเตอร์ เคราช์ กับ เคนวิน โจนส์ ว่าใครจะได้ลงยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า
มาร์ก วิลสัน แบ็กซ้ายตัวหลัก และ รอรี่ ดีแล็ป มิดฟิลด์ตัวเก๋า เป็นสองนักเตะที่ยังพักยาวอยู่เช่นเดิม
ผู้เล่นบาดเจ็บ: รอรี่ ดีแล็ป (น่อง), มาร์ก วิลสัน (ขา)
ความพร้อม-สภาพทีม
วีแกน
เดอะลาติกส์ คงจะปรับทัพขนานใหญ่ในเกมนี้ หลังเปลี่ยนแปลงผู้เล่นกว่าค่อนทีมในเกมเอฟเอคัพ
เฟรเซอร์ ฟิฟวี่ มิดฟิลด์ดาวรุ่ง เป็นคนเดียวที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนเพิ่มมาจากเกมล่าสุด ส่วนนักเตะที่พักยาวอยู่ก็ยังไม่มีใครกลับมาเสริมทีมได้เช่นเดิม โดย อันโตลิน อัลคาราซ เซ็นเตอร์แบ็กทีมชาติปารากวัย ระดับความฟิตยังคงไม่ถึง แม้จะหายจากการพักยาวเพราะเจ็บโคนขาหนีบกลับมาลงซ้อมได้ซักพักแล้วก็ตาม
โฆเอล โรเบลส ผู้รักษาประตูตัวใหม่ที่ถูกดึงมาเสริมทัพในช่วงเปิดตลาดหน้าหนาว ได้ลงประเดิมสนามไปแล้วในเอฟเอคัพ แต่อาลี อัล ฮับซี่ นายทวารทีมชาติโอมาน จะกลับมาลงเฝ้าเสาตามเดิมในเกมนี้
อันเจโล เฮนริเกซ กองหน้าดาวรุ่งที่ยืมตัวมาจากแมนฯ ยูไนเต็ด และโรเจอร์ เอสปิโนซ่า มิดฟิลด์ทีมชาติฮอนดูรัส คงจะต้องกลับไปนั่งรอโอกาสที่ข้างสนามตามเดิม หลังได้ลงเล่นเป็นตัวจริงในบอลถ้วยมาแล้ว
ส่วน อารูน่า โกเน่ กองหน้าทีมชาติไอวอรี โคสต์ ยังคงอยู่ระหว่างไปทำศึกแอฟริกัน เนชั่นส์ คัพ
ผู้เล่นบาดเจ็บ: เฟรเซอร์ ฟิฟวี่, เบน วัตสัน (ขา), อิวาน รามิส, อัลเบิร์ต ครูซาท (เข่า), อันโตลิน อัลคาราซ (โคนขาหนีบ), อาเดรียน โลเปซ (แฮมสตริง), เรียว มิยาอิจิ (ข้อเท้า), ไมค์ พอลลิท (สะโพก)
วิเคราะห์รูปเกม
สโต๊คฟอร์มยังไม่กระเตื้อง หลังเจองานหนักในเกม เอฟเอ คัพ และถูกแมนฯ ซิตี้บุกมาเชือดคารัง ทำให้ผลงานช่วงหลังยังคงย่ำแย่เป็นส่วนใหญ่ นัดนี้ได้ลงเล่นในรังบริทานเนีย สเตเดี้ยมอีกครั้ง แม้จะไม่ขลังเหมือนเคยแล้ว แต่รับการมาเยือนของทีมรองบ๊วยอย่างวีแกนคงต้องหยิบ 3 คะแนน ให้ได้ แม้จะเป็นรองเล็กน้อยเพราะลาติกส์พักนักเตะไว้เกือบหมดในเกมล่าสุด และทีมเยือนก็ต้องสู้เต็มที่เพื่อหนีตาย ทำให้นัดนี้น่าจะยื้อกันสนุก แต่ช่างปั้นหม้อยังน่าจะรีดพลังออกมาได้ในยามจำเป็น และใช้ความแน่นอนกว่าเบียดเข้าป้ายได้ในที่สุด
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
สโต๊ค (4-2-3-1): อัสเมียร์ เบโกวิช; เจฟฟ์ คาเมรอน, ไรอัน ชอว์ครอสส์, โรเบิร์ต ฮูธ, แอนดี้ วิลกินสัน; เกล็นน์ วีแลน, สตีเว่น เอ็นซองซี่; โจนาธาน วอลเตอร์ส, ชาร์ลี อดัม, แมทธิว เอเธอริงตัน; ปีเตอร์ เคราช์
ผู้จัดการทีม: โทนี่ พูลิส
วีแกน (3-5-2): อาลี อัล ฮับซี่; เอ็มเมอร์สัน บอยซ์, แกรี่ คัลด์เวล์, เมย์นอร์ ฟิเกรัว; รอนนี่ สตัม, ฆอร์ดี้ โกเมซ, เจมส์ แม็คคาร์ธี่, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์, ฌอง โบเซชูร์; ชอน มาโลนี่ย์, ฟรังโก้ ดิ ซานโต
ผู้จัดการทีม: โรเบอร์โต้ มาร์ติเนซ
ฮอตสกอร์: สโต๊คชนะ 2-0
(11) ซันเดอร์แลนด์ – สวอนซี (9)
เวลา: 02.45 น.
สนาม: สเตเดี้ยม ออฟ ไลท์
ผู้ตัดสิน: อังเดร มาร์ริเนอร์
ถ่ายทอดสด: ทรู 10
ผลงาน 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม
ซันเดอร์แลนด์
19 ม.ค. 56 ชนะ วีแกน 3-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
15 ม.ค. 56 แพ้ โบลตัน 0-2 (เหย้า) เอฟเอคัพ
12 ม.ค. 56 ชนะ เวสต์แฮม 3-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
5 ม.ค. 56 เสมอ โบลตัน 2-2 (เยือน) เอฟเอคัพ
2 ม.ค. 56 แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สวอนซี
23 ม.ค. 56 เสมอ เชลซี 0-0 (เหย้า) ลีกคัพ
19 ม.ค. 56 ชนะ สโต๊ค 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
16 ม.ค. 56 แพ้ อาร์เซนอล 0-1 (เยือน) เอฟเอคัพ
12 ม.ค. 56 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
9 ม.ค. 56 ชนะ เชลซี 2-0 (เยือน) ลีกคัพ
ผลการพบกันนัดแรก
1 ก.ย. 55 สวอนซี 2-2 ซันเดอร์แลนด์
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา
21 ม.ค. 55 พรีเมียร์ลีก ซันเดอร์แลนด์ 2-0 สวอนซี
27 ส.ค. 54 พรีเมียร์ลีก สวอนซี 0-0 ซันเดอร์แลนด์
19 มี.ค. 26 ดิวิชั่น 1 ซันเดอร์แลนด์ 1-1 สวอนซี
6 พ.ย. 25 ดิวิชั่น 1 สวอนซี 3-0 ซันเดอร์แลนด์
20 ก.พ. 25 ดิวิชั่น 1 ซันเดอร์แลนด์ 0-1 สวอนซี
26 ก.ย. 24 ดิวิชั่น 1 สวอนซี 2-0 ซันเดอร์แลนด์
ความพร้อม-สภาพทีม
ซันเดอร์แลนด์
แมวดำพร้อมใช้งานนักเตะชุดเดิมๆ อีกครั้ง โดยสองกองหลังตัวหลักอย่าง คาร์ลอส กูเอยาร์ และแดนนี่ โรสยังคงไม่ฟิตกลับมาจากอาการบาดเจ็บที่แฮมสตริง
ส่วน ลี แคตเตอร์โมล มิดฟิลด์กัปตันทีม ก็ยังต้องพักรักษาอาการบาดเจ็บที่เข่าเช่นเดิม ขณะที่ เวส บราวน์ กองหลังตัวเก๋าอีกคน ก็ยังสลัดปัญหาเรื้อรังแบบเดียวกันกลับมาไม่ได้
เกมนี้ คาเดอร์ มันกาเน่ กองหลังชาวเซเนกัล อาจจะมีชื่ออยู่ในทีมด้วยเป็นนัดแรก หลังระดับความฟิตน่าจะอยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอแล้ว จากการได้ลงซ้อมมาพักหนึ่ง นับตั้งแต่ถูกยืมตัวมาจากทีม อัล ฮิลาล
อัลเฟรด เอ็นดิยาย มิดฟิลด์ตัวใหม่อีกคน ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงนัดแรกในเกมที่แล้ว และน่าจะมีลุ้นได้ลงเล่นตรงกลางสนามอีกครั้งในเกมนี้
ผู้เล่นบาดเจ็บ: คาร์ลอส กูเอยาร์, แดนนี่ โรส (แฮมสตริง), ลี แคตเตอร์โมล, เวส บราวน์ (เข่า)
ความพร้อม-สภาพทีม
สวอนซี
หงส์ขาวพร้อมใช้งานนักเตะชุดเกือบฟูลทีม โดยชิโก้ เซ็นเตอร์แบ็กชาวสเปน ฟิตกลับมาลงเล่นได้แล้วในเกมลีกคัพเมื่อสัปดาห์ก่อน ทำให้มีเพียง เคมี่ อกุสติน มิดฟิลด์ชาวดัตช์ ที่ยังไม่หายเจ็บข้อเท้ากลับมา และ นีล เทย์เลอร์ แบ็กซ้ายทีมชาติเวลส์ ที่พักยาวทั้งฤดูกาลไปนานแล้วเพราะข้อเท้าหัก คี ซอง ยอง มิดฟิลด์ทีมชาติเกาหลีใต้ มีอาการเจ็บเล็กน้อยมาจากเกมล่าสุด ทำให้อาจจะไม่ถูกเสี่ยงใช้งานในเกมนี้
ไมเคิล เลาดรู๊ป ต้องตัดสินใจว่าจะส่ง แดนนี่ เกรแฮม หัวหอกตัวเป้า ลงสนามเป็นตัวจริงหรือไม่ เพราะกำลังถูกซันเดอร์แลนด์จ้องตะครุบตัวอยู่ หลังจากเสียตำแหน่งในทีมไปในฤดูกาลนี้ เพราะมิชูย้ายเข้ามายิงถล่มทลาย
มิเชล ฟอร์ม นายประตูมือหนึ่ง จะกลับมาลงเฝ้าเสาตามเดิม หลังเปิดโอกาสให้แกร์ฮาร์ด เทรมเมล ได้ลงทำหน้าที่ในบอลถ้วยไปแล้ว
ผู้เล่นบาดเจ็บ: คี ซอง ยอง, เคมี่ อกุสติน, นีล เทย์เลอร์ (ข้อเท้า)
วิเคราะห์รูปเกม
ซันเดอร์แลนด์ได้เปรียบเรื่องความสดเพราะได้พักยาวมาตั้งแต่เกมลีกนัดที่แล้ว ส่วนสวอนซีมีเตะลีกคัพในช่วงกลางสัปดาห์ก่อน โดยทั้งคู่ไม่มีคิวเตะเอฟเอคัพในนัดล่าสุดเพราะตกรอบเร็วไปแล้วทั้งคู่ เกมนี้คงหวังจะเก็บคะแนนสำคัญกันให้ได้ แมวดำผลงานยังคงลุ่มๆ ดอนๆ แต่ได้ลงเล่นในรังสเตเดี้ยม ออฟ ไลท์คงไม่ง่ายที่หงส์ขาวจะบุกมากะซวกได้ง่ายๆ แม้ว่าผลงานจะวูบวาบกว่า นัดนี้เกมน่าจะบดบี้กันในแดนกลางเพื่อชิงความได้เปรียบ และเจ้าถิ่นน่าจะมีเปรียบนิดๆ แต่ก็จะประมาทเกมรุกของทีมเยือนไม่ได้ ทำให้คงไม่กล้าผลีผลามและเกมอาจจะลงเอยด้วยการเจ๊ากันไป
รายชื่อผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม:
ซันเดอร์แลนด์ (4-4-2): ซิมง มินโญเลต์; เคร็ก การ์ดเนอร์, จอห์น โอเชีย, ไตตัส บรัมเบิ้ล, แจ๊ค โคลแบ๊ค; อดัม จอห์นสัน, เซบาสเตียน ลาร์สสัน, อัลเฟรด เอ็นดิยาย, เจมส์ แม็คคลีน; สเตฟาน เซสเซญง, สตีเว่น เฟล็ตเชอร์
ผู้จัดการทีม: มาร์ติน โอนีลล์
สวอนซี (4-2-3-1): มิเชล ฟอร์ม; อังเคล รานเคล, ชิโก้, แอชลี่ย์ วิลเลี่ยมส์, เบน เดวี่ส์; ลีออน บริตตัน, ปาโบล เอร์นานเดซ; นาธาน ดายเออร์, โจนาธาน เด กุซมัน, เวย์น เราท์เลดจ์; มิชู
ผู้จัดการทีม: ไมเคิล เลาดรู๊ป
ฮอตสกอร์: เสมอ 1-1