ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ว่าที่จอมทัพแห่งแอนฟิลด์

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ว่าที่จอมทัพแห่งแอนฟิลด์

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ว่าที่จอมทัพแห่งแอนฟิลด์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : การย้ายมาร่วมทัพ ลิเวอร์พูล ของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ถือเป็นดีลการซื้อขายที่ผมสนใจมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะในขณะที่สโมสรยักษ์ใหญ่รายอื่นทำตัวเป็นคลื่นใต้น้ำ พลพรรค "หงส์แดง" กลับได้ยิ้มแย้มกับการเสริมขุมกำลังด้วยแข้งมากพรสวรรค์

ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ เป็นรายแรกที่ตบเท้าเข้าสู่แอนฟิลด์ และเริ่มตอบแทนเม็ดเงินทุกเพนนีด้วยผลงาน 3 ประตูจาก 4 นัด หลังที่ว่างในทัพ เชลซี เหลือเพียงแค่ม้านั่งสำรอง

รายล่าสุดคือ คูตินโญ่ เพลย์เมกเกอร์อนาคตไกลที่กำลังจะย้ายมาสวมเสื้อ "หงส์แดง" ในเร็ววัน ซึ่งตอนนี้เหลือเพียงรอใบอนุญาตทำงานในอังกฤษ และคาดว่าคงไม่มีปัญหาอะไร

ที่สำคัญคือผมมองว่านี่คือดีลที่ดีที่สุดของ ลิเวอร์พูล ในรอบหลายปีเลยก็ว่าได้ เพราะเห็นได้ชัดว่าพวกเขาพึ่งพา หลุยส์ ซัวเรซ มากเกินไปในจังหวะจบสกอร์ แถมยังมีหน้ามาบ่นว่า ดาวยิงอุรุกวัย ขยันเลี้ยงไปหาพระแสงอะไร

ผมตอบให้เลยว่าหาก ซัวเรซ ทำหน้าที่เหมือนเฉกเช่นกองหน้าที่คอยรอจบสกอร์ในเขตโทษ ป่านนี้จะยิงทะลุ 10 ลูกหรือเปล่ายังไม่แน่ใจ เพราะจะหาใครมาป้อนบอลให้พี่แก

คำตอบที่ตามมาคือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด? ลูคัส เลว่า? จอนโจ้ เชลวี่ย์? โจ อัลเลน? จอร์แดน เฮนเดอร์สัน?...ผิดทั้งเพ ที่ถูกที่สุดคือ "ไม่มี"

แต่สาวก "หงส์แดง" กำลังจะได้คุยโวเต็มปากเต็มคำเสียที เมื่อได้ชายที่ชื่อ คูตินโญ่ มารับบทจอมทัพในเร็ววันนี้ เป็นมิดฟิลด์ตัวรุกตามธรรมชาติที่มีหน้าที่สนับสนุนกองหน้า วิสัยทัศน์ย่อมแตกต่างกับพวกตัวเชื่อมเกมที่กล่าวมา

เหตุไฉนผมจึงมั่นใจว่า ลิเวอร์พูล ได้เพชรล้ำค่ามาอยู่ในมือ ทั้งที่ คูตินโญ่ แทบไม่ได้เป็นตัวหลักของ อินเตอร์ มิลาน ด้วยซ้ำ แถมแข้งบราซิเลียนก็ไม่ค่อยถูกโฉลกกับพรีเมียร์ลีกเสียด้วย

คำตอบนั่นง่ายนิดเดียว ลองไปถาม เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ กุนซือ เซาแธมป์ตัน ดูสิครับ ถ้าไม่เจ๋งจริงมีรึสโมสรอย่าง "นักบุญ" จะกล้าทุ่มเงินดึงเพลย์เมกเกอร์มาอีกราย หลังเพิ่งทุบสถิตินำ กาสตัน รามิเรซ เข้ามาเมื่อช่วงซัมเมอร์

แน่นอนครับว่าผมไม่ค่อยได้ติดตามฟอร์มการเล่นของ คูตินโญ่ มากนัก แต่ผลงาน 5 ประตูจากการลงสนาม 16 นัดให้ เอสปันญ่อล เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ผมมองว่าน่าประทับใจใช่ย่อย

จุดเด่นที่สุดของ คูตินโญ่ คือทักษะการครองบอลที่ไม่เป็นสองรองใคร ส่วนเทคนิคก็ถ่ายทอดสายเลือดบราซิเลียนมาแบบไม่ผิดเพี้ยน แถมยังมีลูกขยัน และเปี่ยมด้วยสัญชาติญาณกระหายชัยชนะ

นอกจากนี้ สิ่งที่ผมชื่นชอบเป็นพิเศษคือการที่เขาเป็นผู้เล่นซึ่งรู้ว่าจังหวะไหนควรยิง จังหวะไหนควรจ่าย เป็นเซนต์ที่นักฟุตบอลระดับโลกหรือว่าที่ระดับโลกพึงมี

พูดมาดูดีไปเสียหมด แต่มันเป็นความจริงที่ไม่อาจปฏิเสธ ขนาดสาวก "ปืนใหญ่" อย่างผมยังแอบเสียดาย และไม่บ่อยครั้งที่จะออกมาเขียนถึงผู้เล่นคู่แข่งอย่างออกรสเยี่ยงนี้ เนื่องจากคอยเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งเป็นส่วนใหญ่ (ฮา)

ข้อเสียเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ประวัติของ คูตินโญ่ ด่างพร่อยคืออาการบาดเจ็บที่ตามหลอกหลอนต่อเนื่อง ซึ่งคงได้แต่หวังว่าวิทยาศาสตร์การกีฬาของวงการลูกหนังเมืองผู้ดีจะรับมือปัญหานี้ได้

อย่างไรก็ตาม ค่าตัว 8.2 ล้านปอนด์แลกกับดาวรุ่งผู้ที่ได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นดาวดังในอนาคตย่อมถูกเหมือนได้เปล่า หลังทุ่มไปกว่า 100 ล้านปอนด์แลกกับดึงดาวร่วงมานั่งตบยุง ทั้งที่ไม้ตียุงตามตลาดนัดราคาไม่ถึงร้อย

พูดไปพูดมาพลันนึกขึ้นได้ว่าเก่งขนาดนี้ อินเตอร์ ขายทำไม? ปล่อย เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ไป กาลาตาซาราย โอกาสตรงนั้นควรเป็นพื้นที่ของ คูตินโญ่ หรือเปล่า

ทบทวนเหตุผลร้อยแปดพันเก้าสุดท้ายไม่ซับซ้อนซ่อนเงื่อนแต่อย่างใด "เงิน" ไงครับพี่น้อง เพราะตอนนี้วงการลูกหนังแดนมะกะโรนีถังแตกกันแทบทุกราย นำนโยบายรัดเข็มขัดมาใช้ตัวเป็นเกลียว

ถ้า ลิเวอร์พูล อยู่ในอิตาลี บางที อินเตอร์ อาจขายแค่ครึ่งตัวหรือคำศัพท์อย่างเป็นทางการคือขอสิทธิการเป็นเจ้าของร่วม เผื่อดังขึ้นมาส่วนแบ่งจะได้มากหน่อย แต่ถ้าดับค่อยโยนขี้ เอ๊ย! โยนสิทธิที่เหลือให้

แหม่...คิดกันไปได้ นักฟุตบอลนะครับไม่ใช่หมู หมา กา ไก่ จะมาแบ่งขายเป็นกิโล (ฮา)

กลับเข้าเรื่องกันต่อ น่าสนใจมากที่สื่อต่างประเทศมองว่า คูตินโญ่ จะปรับตัวเข้ากับพรีเมียร์ลีกได้ไม่ยาก แถมยังยกให้มีทักษะเหนือกว่า ออสการ์ ของ เชลซี ด้วยซ้ำ พร้อมกล่าวติดตลกว่างานนี้บรรดากองหลังในอังกฤษคงได้เต้นแซมบ้ากันจ้าละหวั่น

เป็นช่วงเวลาพอเหมาะพอเจาะที่ ลิเวอร์พูล กำลังกลับไล่ล่าพื้นที่บิ๊กโฟร์อีกครั้ง การเข้ามาของ คูตินโญ่ คงช่วยผ่อนคลายความคาดหวังจากแฟนบอลต่อ ซัวเรซ ได้เยอะ และอาจเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ช่วยให้ทีมได้ไปลุยยุโรป(ถ้วยใหญ่)

แถมเป็นหนึ่งในผู้เล่นสายเลือดใหม่ของสโมสรที่จะก้าวไปพร้อมกับกุนซือหนุ่ม เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ร่วมกับขุมกำลังอย่าง ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ซูโซ่ และ ฟาบิโอ บอรินี่

เห็นใครๆ เขาบอกว่า ลิเวอร์พูล ชุดนี้มีอนาคต ขอแค่ให้เวลา ร็อดเจอร์ส สักปีสองปี วันเวลาที่สดใสอยู่ไม่ไกลแค่เอื้อม แต่ผมมองว่าจอมทัพหมายเลข 10 คือสิ่งที่พวกเขาขาดหายไป

ผมชื่นชม ลิเวอร์พูล ที่พยายามเน้นการต่อบอลภาคพื้นดินอันสวยงาม แต่พี่ท่านจะอาศัยแค่มิดฟิลด์ตัวเชื่อมเกมที่เอาแค่ไม่เสียบอลไม่ได้ อย่าง โจ อัลเลน ผมมองว่าธรรมดา จับบอลได้คืนหลังตลอด ปล่อยให้กองหลังเปิดเกม แล้วกองกลางจะมีสกิลพาสซิ่งไว้ทำหอกอะไร

นักเตะสไตล์ คูตินโญ่ ที่ไปกับบอลได้ดี สามารถลากบอลทำเกมจากกลางสนามได้ นี่คือผู้เล่นที่ทุกสโมสรสมควรมีอย่างน้อยหนึ่งคน เพื่อพลิกสถานการณ์ด้วยความสามารถเฉพาะตัว เปลี่ยนจากรับเป็นรุก แต่เปลี่ยนจากรุกเป็นรับอย่าง อเดล ทารับต์ ไม่ไหวน่ะ (ฮา)

สุดท้ายหวังว่า คูตินโญ่ จะไม่ทำให้ผมหน้าแหกหมอไม่รับเย็บ หากดันทะลึ่งโชว์ฟอร์มออกทะเล แต่ขอแนะนำให้ท่านผู้อ่านไปหาเสพคลิปของเจ้าหนูรายนี้โดยพลัน

เพราะพรุ่งนี้คุณจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง!!!

เรื่องโดย "จูลส์ริเม่ต์"

ฟิลิปเป้ คูตินโญ่

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ

อัลบั้มภาพ 12 ภาพ ของ ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ว่าที่จอมทัพแห่งแอนฟิลด์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook