เช็กบิลสิงโตคำราม VS แซมบ้า...???

ฟุตบอล : เช็คเรตติ้งฟุตบอลนัดกระชับมิตรทีมชาติอังกฤษ 2-1 ทีมชาติบราซิล

แจ็ค วิลเชียร์...

คงต้องหยิบยกมาพูดถึงเป็นคนแรก หลังจากสิ้นยุคของ พอล แกสคอยน์ ทีมชาติอังกฤษหารใครไม่ได้เลยที่จะขึ้นมาเป็นตัวชูโรงแทน แจ็ค วิลเชียร์ ได้รับการคาดหวังมาก่อนหน้านี้นานแล้ว แต่เพราะอาการบาดเจ็บทำให้ไม่มีโอกาสได้ทำงานตรงนี้สักเท่าไหร่

เกมกับแซมบ้าเป็นการกลับมาครั้งสำคัญของมิดฟิลด์จากอาร์เซนอลส่งผลให้ความคาดหวังกลับมาจริงจังกันอีกแล้ว น่าจะเป็นมิดฟิลด์อัจฉริยะคนต่อไป

วิลเชียร์ คือสุดยอดแห่งการเล่นชิ่ง 1-2 เมื่อนำการเล่นจากทีมอาร์เซนอลมาสู่ทีมชาติทำให้เกมแดนกลางของสิงโตคำรามดูดีขึ้นมาเยอะ แน่นอนไม่มีใครในทีมชุดนี้ทำได้ดีกว่าเขาในเรื่องของการทำชิ่ง ไปทั่วในแดนกลางเพื่อมองหาช่องว่างเจาะเข้าช่องแบ็กโฟร์ของบราซิล

ทำสถิติกันต่อไป

ว่ากันว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด สามารถที่จะเล่นให้ทีมชาติอังกฤษต่อไปได้อีก 30 นัด ในบทบาทของมิดฟิลด์ตัวรับที่ยืนอยู่หน้าแบ็กโฟร์ ธรมมชาติในการเล่นของเจอร์ราร์ด จะลุยขึ้นหน้าอยู่เสมอ และการทำหน้าที่อยู่หน้าแนวรับตลอดเวลาแม้จะไม่ใช่งานที่ดีที่สุดของกัปตันหงส์แดงแต่สามารถทำหน้าที่ได้ดี

หน้าที่ตรงนี้อาจจะยืดเวลาในการเล่นทีมชาติออกไปอีกและนั่นคงไม่นานจะผ่านสถิติ 115 นัดของ เดวิด เบ็คแฮม ไปได้ไม่ยาก โดยมีพวกพลังงานเยอะๆอย่าง ทอม เคลฟเวอร์ลีย์ กับ แจ็ค วิลเชียร์ คอยรับช่วงต่ออยู่ใกล้ๆ

อยู่กันยาวๆ...

รอย ฮอดจ์สัน กุนซือสิงโตคำราม ถึงกับเอ่ยปากให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด ยืนระยะตัวเองเอาไว้ให้ได้ เพื่ออยู่ช่วยงานกันจนถึงทัวร์นาเมนต์ฟุตบอลโลกที่บราซิล

เรื่องของสกอร์ แลมพ์ เป็นมิดฟิลด์ที่เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ ไม่ต้องซื้อหาทว่ามิดฟิลด์จากทีมเชลซีมอบให้ฟรีๆ ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่านี่คือนักเตะที่เชลซีไม่ยอมมอบสัญญาฉบับใหม่ให้ ด้วยเหตุผลอะไรไม่แน่ใจเหมือนกัน

คนเฝ้าเสา...

ก่อนเกมอุ่นเครื่องระหว่างทีมชาติอังกฤษกับบราซิล มีการพูดถึงสีสันต่างๆมากมาย แน่นอนไม่ค่อยมีการพูดถึงตำแหน่งผู้รักษาประตูกันสักเท่าไหร่ไม่ว่าจะเป็น โจ ฮาร์ท หรือ ชูลิโอ เซซาร์

ทว่านี่คือสองผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ ลีก ตอนนี้ การเซฟจังหวะสังหารจุดโทษของ โรนัลดินโญ่ ตั้งแต่ต้นเกมนั่นคือสิ่งที่ โจ ฮาร์ท แสดงให้เห็นว่าเขาคือคนที่น่าไว้ใจมากที่สุด และยังคงมีความกระตือรือร้นเต็มเปี่ยมไม่ได้เฉื่อยชาลงไปแต่อย่างใด

นอกจากนี้ยังมีสิ่งจูงใจที่อาจจะทำให้แฟนบอลสิงโตคำรามอดคาดหวังไม่ได้ว่า อนาคตข้างหน้าในทัวร์นาเมนต์จริง หากมีการตัดสินด้วยการดวลจุดโทษกันอีกไม่ว่าจะเจอกับทีมไหน น่าจะมีโชค มีเรื่องราวดีๆเกิดขึ้นกับทีมชาติอังกฤษบ้าง

ในขณะที่ ชูลิโอ เซซาร์ ยังคงชัดเจนเช่นกันกับการโชว์ผลงานการเฝ้าเสา ถ้าคิวพีอาร์สามารถอยู่รอดในพรีเมียร์ ลีก ได้ในฤดูกาลนี้ ปัจจัยที่สำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งก็คือ มีเขาเฝ้าเสานั่นเอง

เชลซี...

มีนักเตะเชลซีลงสนามถึง 6 คน จากเกมอุ่นเครื่องของทั้ง 2 ทีม ดาวิด หลุยซ์,รามิเรซ,ออสการ์,แลมพาร์ด,แอชลีย์ โคลและแกรี่ เคฮิลล์ ล้วนแล้วแต่เป็นนักเตะคุณภาพทั้งสิ้น

ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฟอร์มของสิงห์บลูถึงไม่คืบหน้า ยังไงก็ช่วยๆ ราฟาเอล เบนิเตซ กันหน่อยเผื่ออะไรจะดีขึ้นมาบ้าง

เนย์มาร์...

หลายคนบอกเอาไว้ว่า เวมบลีย์จะเป็นเวทีที่ เนย์มาร์ ใช้แสดงผลงานให้บรรดายอดทีมในยุโรปได้มีโอกาสเห็นความสุดยอดกันถนัดตา ปฏิเสธไม่ได้ว่าในทีมแซมบ้าชุดนี้ เนย์มาร์ คือเป้าสายตาคือจุดโฟกัสของทุกคนอย่างแท้จริง

น่าเสียดายไม่น้อยที่ไม่สามารถเป็นได้อย่างที่คาดหวัง แน่นอนเขาคือสุดยอดดาวรุ่งที่มีฝีเท้าระดับโลก ทว่าเกมอุ่นเครื่องที่ผ่านมา เนย์มาร์ ไม่สามารถผลิตผลงานหรือเล่นได้ตามจังหวะของตัวเอง

คงต้องให้เครดิต เกล็น จอห์นสัน ด้วยเช่นกัน แบ็กขวาจากทีมหงส์แดงต้องรับมือ เนย์มาร์ โดยเฉพาะ เรื่องปกติธรรมดาของ เกล็น จอห์นสัน ที่เราเห็นกันเป็นประจำคือฟอร์มเอาแน่นอนไม่ค่อยจะได้ บ่อยครั้งที่ตื่นตกใจและเอาคู่แข่งไม่อยู่

จอห์นสัน ดูนิ่งและมั่นใจมากกับการทำหน้าที่จัดการ เนย์มาร์ ไม่ค่อยมีอาการเหวอให้เห็นเป็นเซอร์ไพรส์ไปเลย แถมยังเติมเกมให้กับ ธีโอ วัลค็อตต์ ได้อีกต่างหาก

โรนัลดินโญ่...

แตกต่างไปจากคนเดิมในช่วงรุ่งๆเยอะเหมือนกัน พลาดการยิงจุดโทษ ส่ง โจ ฮาร์ท เป็นฮีโร่ไปเลย นั่นหมายความว่า โรนัลดินโญ่ อยู่ภายใต้ร่มเงาของตัวเองอย่างสิ้นเชิง

น่าคิดเหมือนกันว่ากว่าจะถึงคิวฟุตบอลโลกในบ้านตัวเอง โรนัลดินโญ่ จะยังคงหลงเหลือส่วนที่ดีๆให้เห็นกันแค่ไหน ที่แน่ๆเกมในเวมบลีย์ไม่มีอะไรที่น่าประทับใจควรค่าแก่การจดจำหรับเขาเลย

มากกว่าเวิลด์ทัวร์...

ป้ายโฆษณาบ่งบอกชัดเจนว่านี่คือส่วนหนึ่งของ "บราซิล เวิลด์ทัวร์" ทว่าของจริงแตกต่างออกไปไม่เหมือนกับการเจอสวีเดน,โปแลนด์หรือเกมทัวร์เอเชีย

อังกฤษค่อนข้างเอาจริง เพราะจั่วหัวกันไว้แล้ว เป็นเกมครบรอบ 20 ปีการเสียชีวิตของ บ็อบบี้ มัวร์ และเป็นเกมฉลอง 150 ปี ของเอฟเอ ความจริงจังของนักเตะแซมบ้าจึงแตกต่างออกไป มุ่งมั่นและพยายามกันเต็มที่แม้ว่าจะไม่ถึงกับเต็มร้อยหรือเกินร้อย

อีกทั้งเรื่องของเวลาที่ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆกับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก ซึ่งบราซิลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากแชมป์ หลุยซ์ เฟลิเป้ สโคลารี่ มีความกดดันมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

อย่างไรก็ตามทีแซมบ้าที่เราจะได้เห็นในทัวร์นาเมนต์จริงย่อมแตกต่างไปจากนี้แน่นอน ถึงช่วงเวลานั้นถ้าเจอกับอังกฤษอีกครั้งคาดหวังยากแน่ว่าจะมีสกอร์แบบนี้ เพราะฉะนั้น รอย ฮอดจ์สัน เองมีงานที่ต้องจัดการเช่นกัน ทำอย่างไรเกมของสิงโตคำรามจึงสามารถอยู่ในระดับนี้หรือดีไปกว่า ไม่ใช่เดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่อย่างที่ผ่านมา

เรื่องโดย "ดามัน"