5 เรื่องต้องรู้ หลัง บาร์ซา สอนบอล หมาป่า 4-1
เกมที่ คัมป์นู จบลงไปอย่างสวยงามสำหรับเจ้าบ้าน หลังเอาชนะคู่แข่งจากอิตาลีไปขาดลอยถึง 4-1 ตุนความได้เปรียบสุด ๆ ในเกมต่อไป
แต่ก่อนจะไปถึงเลกสองในวันอังคารหน้า เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าหลังเกมนี้จบลง มันมีประเด็นอะไรให้พูดถึงกันบ้าง
6. สโมสร บาร์เซโลนา ยังให้การสนับสนุนต่อประเด็นการเมืองต่อไป
ก่อนหน้านี้ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เคยถูกติงจากสมาคมฟุตบอลอังกฤษเรื่องการแสดงออกทางการเมือง หลังเจ้าตัวติดริบบิ้นสีเหลืองอันเป็นการแสดงสัญลักษณ์ไม่เห็นด้วยกับรัฐบาลสเปนที่คุมขังนักการเมืองท้องถิ่นของแคว้นกาตาลุนญา บ้านเกิดของเป๊ป และสโมสรบาร์เซโลนา
เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง มีข่าวว่าทางเยอรมนีประกาศขอหมายศาลส่งตัวนักการเมืองกาตาลุนญากลับไปรับโทษที่สเปน ทำให้ชาวกาตาลุนญาเริ่มกลับแการเมืดงจุดยืนทางการเมืองกันอีกครั้ง
ถ้าใครที่ไม่เคยรู้มาก่อนอาจมีสงสัยว่าทำไมเกมนี้เราถึงเห็นธงสีเหลือง-แสดอยู่เต็มสนาม ทั้ง ๆ ที่ โรมา ใช่สีแดงเลือดหมู-ขาว ส่วน บาร์เซโลนา ใช้สีน้ำเงิน-เลือดหมู
นั่นก็เพราะว่าสีเหลือง-แสดคือสีประจำแคว้นกาตาลุนญา และทางสโมสร บาร์เซโลนา ก็ออกมาสนับสนุนแนวทางการเมืองของแคว้นตัวเองมานานแล้ว
คราวนี้ก็เช่นกัน พวกเขายินยอมให้มีการติดธง ริบบิ้น ลูกโป่ง หรือข้อความแสดงการสนับสนุนแคว้นของพวกเขาต่อไป
หลายฝ่ายอาจจะคิดว่าฟุตบอลกับการเมืองควรแยกจากกัน แต่คงไม่ใช่กับ บาร์เซโลนา ในเมื่อสโมสรใช้ฟุตบอลเพื่อสัญลักษณ์ทางการเมืองมาแต่ไหนแต่ไร
บาร์เซโลนาคือกาตาลุนญา และกาตาลุนญาก็คือบ้านเกิดของบาร์เซโลนา มันแยกกันไม่ได้
5. ดาวยิงที่ชื่อ Own Goal
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ บาร์เซโลนา ได้ประตูในฤดูกาลนี้จากการทำเข้าประตูตัวเองไปแล้ว 5 ลูกด้วยกันในรายการนี้ มากกว่า หลุยส์ ซัวเรซ เสียอีก
ประตูจาก ดานิเอเล เด รอสซี และ คอสตาส มาโนลาส ช่วยให้ บาร์เซโลนา ได้ประตูจากการทำเข้าประตูตัวเองมากสุดในรายการนี้ต่อฤดูกาลไปแล้ว
สถิตินี้บอกอะไร บาร์เซโลนาคือทีมที่ขย่มขวัญแนวรับคู่แข่งได้แบบสุด ๆ ไปเลยยังไงล่ะ ทั้ง เด รอสซี และ มาโนลาส ตัดสินใจที่จะต้องแหย่ขาสกัดบอลเพราะไม่อยากให้ลูกหลุดไปอยู่กับผู้เล่น บาร์ซา ถึงจะเสี่ยงทำเขาประตูตัวเอง แต่มันก็อาจจะมีโอกาสรอดมากกว่าให้บอลไปอยู่ในเงื้อมมือ (หรือเท้า) ของผู้เล่นเจ้าบ้านมากกว่า
4. อิเนียสต้ายังคงแกร่งเช่นเคย
การเล่นของ อิเนียสต้า ในเกมลีกที่ผ่านมาไม่สามารถซื้อใจแฟนบอลได้มากนัก ซึ่งนัดนั้นจบลงที่ บาร์ซา ตาม เซบีญา ถึง 0-2 ก่อนจะมาตีเสมอได้ช่วงท้ายเกม
แต่เมื่อพวกเขาได้ เซร์คิโอ บุตเก็ตส์ กลับมา อิเนียสต้าก็มีอิสระในการเล่นมากขึ้น และนั่นดูทำให้มิดฟิล์กเฒ่าจะแสดงศักยภาพที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่
วิสัยทัศน์และความแม่นยำในการจ่ายบอลของเขายังคงยอดเยี่ยม เกือบทำแอสซิสต์สวย ๆ ได้ช่วงต้นครึ่งแรก หาก หลุยส์ ซัวเรซ ไม่ล้ำหน้าเสียก่อน และลูกจ่ายของเขายังทำให้ เด รอสซี ต้องเข้าสกัดจนเป็นการทำประตูตัวเองไปด้วย
3. เสี่ยงดวงกับ เซเมโด้
การที่ ลิโอเนล เมสซี และ เซร์คิโอ บุตเก็ตส์ กลับมางสนามได้ถือเป็นข่าวดี แต่สำหรับ เนลสัน เซเมโด้ แล้ว หลาย ๆ คนคงสงสัยกับการตัดสินใจครั้งนี้ของ บัลเบร์เด้
แบ็คขวาวัย 24 ไม่ค่อยได้รับโอกาสเท่าไหร่นักในฤดูกาลนี้จากโค้ช มักตกเป็นตัวสำรองของ แซร์จี้ โรแบร์โต้ เสียมาก แต่เกมวันนี้ บัลเบร์เด กลับดัน โรแบร์โต้ ขึ้นไปเป็นมิดฟิลด์ริมเส้นแทนคนอื่นอย่าง เดมเบเล เดนิส ซัวเรซ หรือ อังเดร โกเมส แล้วส่ง เซเมโด้ ประจำการด้านหลังแทน
เกมนี้ เซเมเโด้ มีทำเสียวให้แฟนบอลบาร์ซาเป่าปากเหมือนกัน เขาสกัด เซโก้ ล้มลงตรงกรอบเขตโทษพอดี ซึ่งโชคดีที่มันไม่เสียลูกโทษ แถมเสียเปรียบเกมบุกจากฝั่งซ้ายให้ อเล็กซานเดอรื โคลารอฟ อยู่บ่อย ๆ ซะด้วย
2. อุมติตี้ ยังรัก บาร์เซโลนา อยู่
แม้มันจะไม่ใช่เขาเองที่เป็นคนทำประตู แต่ทันทีที่บอลโดนมาโนลาสข้ามเส้นไป เขาวิ่งไปยังกองเชียร์ บาร์เซโลนา พร้อมกับการชี้ไปที่ตราสโมสรบนอกอย่างบ้าคลั่ง
ซามูเอล อุมติตี้ กำลังเจอมรสุมข่าวลือในช่วงนี้ หลังเจ้าตัวจกเป็นข่าวอยากย้ายทีมเหลือเต็มประดา ซึ่งก็มี แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ความสนใจอยู่
ด้วยฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาและต่อเนื่อง เจ้าตัวก็อยากจะอัพค่าเหรื่อยเพิ่มขึ้นอีกหน่อย แต่ทางสโมสรกลับไม่คิดเช่นนั้น
เมื่อสโมสรไม่สนับสนุน เขาก็ออกมาประกาศว่าพร้อมจะไป นั่นทำให้เขาถูกตราหน้าว่าเป็นพวกเห็นแก่เงินอีกราย
แต่ดูท่าแล้วมันคงไม่ใช่อย่างนั้นเสมอไป อุมติตี้ ยังมีใจให้ บาร์เซโลนา อยู่ แต่คนเรามันก็ต้องกินต้องใช้นี่นะ ถ้าฟอร์มการเล่นดีมันก็ควรต้องตอบแทนหรือเปล่าล่ะ
เรื่องนี้คงต้องให้บอร์ดบริหารตัดสินใจกันไป แต่ฟอร์มแบบนี้ของ อุมติตี้ อาจจะทำให้บอร์ดเปลี่ยนใจเร็วขึ้นก็ได้ โดยเฉพาะเมื่อ แมนฯ ยู ออกมาประกาศโครม ๆ ว่าพวกเขากล้าจ่ายค่าเหนื่อยที่มากกว่าเสียด้วย
1. สองยักษ์ใหญ่จากสเปนยังครองบัลลังก์จ้าวยุโรปต่อไป
แม้ว่าชัยชนะในเกมนี้ของ บาร์เซโลนา อาจจะมาจากลูกเข้าประตูตัวเองเป็นส่วนใหญ่ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า หาก เด รอสซี และ มาโนลาส ไม่สกัดแล้ว ผู้เล่น บาร์เซโลนา จะยิงประตูไม่ได้ อันที่จริง เพราะ เด รอสซี และ มาโนลาส คิดมาแล้วนี่แหละว่าหากปล่อยไปจะต้องเสียประตูแน่ พวกเขาเลยต้องยอมเสี่ยงสกัดจนเป็นประตูตัวเองในที่สุด
บาร์เซโลนา กลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในเลกแรกของรอบ 8 ทีม ส่วน เรอัล มาดริด ซึ่งได้ฟอร์มสุดยอดของ คริสเตียโน โรนัลโด้ ช่วยถล่ม ยูเวนตุส ยับเยิน 3-0 ก็ยิงมากเป็นอันดับ 2
ยูเวนตุส กับ โรมา มีดีกรีเป็นถึงแชมป์กับรองแชมป์ กัลโช เซเรียอา เมื่อฤดูกาลที่แล้วเลยนะ ไม่ใช่ทีมกากแต่อย่างใด แต่พวกเขาก็ยังทำให้เห็นถึงความห่างชั้นกันขนาดนี้
เมื่อลองมองย้อนกลับไปในรายการนี้ เรอัล มาดริด ได้ถ้วย แชมเปี้ยนส์ลีก ในปี 2014 บาร์ซา ต่อในปี 2015 ก่อนเป็น มาดริดคั่ว 2 สมัยซ้อนในปี 2016 กับ 2017 ตอนนี้มี 2018 พวกเขาก็เตรียมตบเท้าเข้ารอบรองฯ ซะแล้ว
จากฟอร์มแบบนี้ ดูท่า ลิเวอร์พูล คงเป็นทีมเดียวที่อาจจะพอท้าชิงไหว หลังถล่ม ซิตี้ ยับ 3-0 เหมือนกัน ส่วน บาเยิร์น คงต้องรอไปก่อน