เพชรฆาตกระสุนด้าน
ฟุตบอล : เมื่อครั้งที่เจ้าตัวย้ายจากอริคั่วแชมป์อย่าง อาร์เซน่อล มาซบอก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 22.5 ล้านปอนด์เมื่อต้นฤดูกาล ก็สามารถเข้าไปอยู่ในอ้อมอกอ้อมใจของสาวก "ปีศาจแดง" ได้อย่างรวดเร็วด้วยพลังการทำประตูที่ฉกาจฉกรรจ์
แต่ไม่รู้ว่าเทพองค์ใดเล่นตลกที่ทำให้ ปืนกระบอกนี้ของท่านซาตานก็กระสุนด้านเสียดื้อๆ
ช็อต คือ การติดขัดในอะไรสักอย่าง อาการช็อตเกิดขึ้นได้กับทุกคน อาจเป็นเงิน หรืออาจเป็นฟอร์มการเล่น ที่นักเตะบางคนที่ทำผลงานดีๆ อยู่ก็หยุดไปเสียดื้อๆ แบบนี้ก็เรียกช็อตเหมือนกัน
โรบิน ฟาน เพอร์ซี ดาวยิงขวัญใจคนใหม่ของพลพรรคกองเชีย "อสูรโลกันต์" ในฤฤดูกาลนี้ ช่วงแรกของซีซั่นก็ทำผลงานได้ตื่นตาตื่นใจ เรียกได้ว่าทำเอาเหล่าสาวกท่านซาตานแห่ง โอล แทร็ฟฟอร์ด ลืมกองหน้าเบอร์หนึ่งของทีมในฤดูกาลที่แล้วอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ที่เจ็บไปในช่วงนั้นเสียสนิทเลยทีเดียว
นอกจากจะยิงในนัดแรกที่ลงสนามเป็นตัวจริงให้ทีมแล้ว นัดที่สอง ยังบรรจงกดแฮตทริกให้สาวกน้อยใหญ่ได้ดูเป็นขวัญตาในถิ่น เซนต์ แมรี่ ซะอย่างงั้น นับแต่นั้นมาก็ยิงนัดละลูกๆ อย่างต่อเนื่องจนทะลวงตาข่ายของคู่แข่งทัพ "ปีศาจแดง" ในลีกไปถึง 19 ประตู เป็นว่าที่ดาวซัลโวสูงสุด
และเป็นผู้ที่ถูกคาดว่าน่าจะรับรางวัล ผู้เล่นยอดเยี่ยมของ สมาคมนักเตะอาชีพได้แบบเกือบจะแน่นอน
แต่แล้วมหกรรมการระเบิดตาข่ายของ "เดวิล กัน แมน" เจ้าของหมายเลข 20 แห่งทัพ "อสูรแดง" ก็ปิดตัวลงแบบดื้อๆ นัดสุดท้ายที่เจ้าตัวใส่สกอร์ให้ต้นสังกัดได้คือเกมกับ เอฟเวอร์ตัน เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ แล้วจากนั้นก็เงียบหายไป จวบจนบัดนี้เป็นเวลาเกินกว่าหนึ่งเดือนแล้วที่ "อาร์วีพี" ยัดลูกบอลไปกองก้นตาข่ายคู่แข่งไม่ได้เลย
แต่หากนับย้อนไปนานกว่านั้น อดีตดาวซัลโวลีกเมื่อฤดูกาลก่อน ถลุงประตูให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้เพียง 2 ประตูเท่านั้น ใน 13 นัดหลังสุด หรือตั้งแต่เมื่อกลางเดือนมกราคม เรียกได้ว่า การทำประตูของเจ้าตัวหายไปแบบงมกลับมาแทบไม่เจอ และ 19 ประตูของ "อาร์วีพี" ก็หยุดอยู่แค่นั้น
และก็โดน หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้าผู้แบก ลิเวอร์พูล ไว้บนบ่า ยิงแซงไปเรียบร้อย และไม่เพียงแค่ "หม่อมเหยิน" เท่านั้น แต่กองหน้าตัวความหวังของ "ปีศาจแดง" กลับโดน แกเร็ธ เบล ปีกตัวจี๊ดของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไล่ทำผลงานมาทาบ จนทั้งหมดทั้งมวลกลายเป็น 3 พระหน่อผู้มีโอกาสคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีจนได้
ทว่าการ "ปืนฝืด" ของหัวหอกทัพ "อสูรแดง" อาจไม่เป็นที่กล่าวขวัญนัก เมื่อผลงานในสนามของดาวเตะชาวดัตช์ก็ถือได้ว่ายังไม่น่าเกลียด ด้วยการมีส่วนร่วมกับเกม และยังเป็นเพชรฆาตหน้าปากประตูที่ไม่มีคู่แข่งรายใดกล้าปล่อยให้มีโอกาสสับไกลเป็นอันขาด อยู่เหมือนเดิม
แต่การที่เจาะประตูไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเหตุผลกลใด หรือจะเป็นการเล่นตลกของซาตานตนไหน ที่ไม่อนุญาตให้กองหน้าเลือดกังหันลมผู้นี้ส่งลูกไปกองก้นตาข่ายคู่แข่งได้เลย
ฟาน เพอร์ซี่ ยังเป็นตัวหลักในแนวรุกของ "ปีศาจแดง" เพราะศักยภาพของเจ้าตัวไม่ได้มีดีเพียงการยิงประตู อาจจะผิดแผกกับหัวหอกเพื่อนร่วมชาติคนก่อนของทัพ "อสูรแดง" อย่าง รุด ฟาน นิสเตลรอย เพราะนอกจากการสับไกในเขตโทษแล้ว
นอกเขต "อาร์วีพี" ก็ครบเครื่องไม่แพ้กัน รวมทั้งฟรีคิก หรือการพาบอลไปกับเท้า และการจ่ายบอลสร้างโอกาสให้เพื่อ ก็ทำได้แม่นยำไม่แพ้กัน เรียได้ว่าแม้ไม่ยิง แต่ก็ยังอันตรายเกือบทุกรูขุมขน
ก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยออกมาให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องจังหวะในการเล่นของตัวเองว่า ต้องการลงสนามอย่างต่อเนื่องแบบไม่ต้องการพักแม้แต่การเจอกับทีมขนาดเล็ก โดยให้เหตุผลกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือของทีมว่า จังหวะการเล่นของตนจะเสียไปหากต้องนั่งข้างสนาม
แต่ทว่า "ป๋า" ก็ไม่อาจเสียงให้ดาวเตะระดับความหวังของทีมต้องโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานแบบไม่จำเป็นได้ ทำให้ต้องให้ "อาร์วีพี" ลงเล่นในฐานะตัวสำรอง และตัวจริงที่จะถูกถอดออกในท้ายเกมหลายครั้งในช่วงหลัง ซึ่งอาจมีส่วนให้จังหวะที่ว่าเสียไปก็ได้
แต่ก็อย่างว่า การที่ทีมมีแมตช์การเล่นมะรุมมะตุ้มกันเข้ามาแน่นเอี๊ยดในช่วงหลังปีใหม่ ทำให้ต้องมีการพักนักเตะไว้บ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็อยากโอดครวญเสียจริงๆ ว่า หากยอดดาวยิงวัย 29 ปีสวมวิญญาณเพชรฆาตเสียสักหน่อยในเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก "ปีศาจแดง" อาจไม่ต้องมาตกรอบเช่นนี้ก็ได้
ณ ตอนนี้ ฟาน เพอร์ซี่ ได้โอกาสหายหน้าไปจากเพื่อนๆ ในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เพื่อไปร่วมทีมชาติฮอลแลนด์ ทำศึกฟุตบอลโลกรบอคัดเลือกบ้าง โดยมีคู่แข่งเป็น เอสโตเนีย และ โรมาเนีย ในวันที่ 22 และ 26 มีนาคม ซึ่งอาจเป็นโอกาสอันดีให้เจ้าตัวจูนจังหวะให้คงที่ แล้วกลับมาพังประตู เพื่อเพิ่มโอกาสให้ "ปีศาจแดง" คว้าแชมป์ในซีซั่นนี้ให้จงได้
นับว่าเป็นโชคดีของ แมนฯ ยูฯ ที่มีนักเตะให้ฝากความหวังในการทำประตูได้หลายคน แม้ไม่มี ฟาน เพอร์ซี่ เป็นผู้ทำประตู แต่ก็ยังมี เวย์น รูนีย์, ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ และ แดนนี่ เวลเบ็ค เป็นคนทำหน้าที่แทนได้
ขณะที่พิษสงของเท้าซ้าย "อาร์วีพี" ก็ยังน่ากลัวเหมือนเดิม ต้องมารอดูว่า เมื่อจบฤดูกาลแล้ว จะกลับมาทำประตูได้อย่างต่อเนื่องแล้วคว้าดาวซัลโวลีก คว้าแชมป์ลีก และผู้เล่นยอดเยี่ยม เป็นเกียรติประวัติให้กับตัวเองได้หรือเปล่า
เวลานี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการอีกเพียง 13 แต้ม หรืออย่างน้อยๆ 4 นัด เพื่อการันตีแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 20 ขณะที่เกมการแข่งขันในลีกยังเหลืออีก 8 นัด
ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแน่ หากเพชรฆาตกระสุนโลกันต์คนนี้ลั่นกระสุนสั่งตายใส่คู่แข่งให้สิโรราบแทบเท้าซ้ายเหมือนตามมาตรฐานของตัวเอง
เรื่องโดย "FIATTA"