แดง(ต้อง)เดือด

แดง(ต้อง)เดือด

แดง(ต้อง)เดือด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฟุตบอล : หากจะพูดถึงบิ๊กแมตช์ในแต่ละลีก ไม่ว่าจะเป็นลีกอังกฤษ, สเปน, เยอรมัน หรือ อิตาลี ผมเชื่อมั่นเลยว่าหนึ่งในบิ๊กแมตช์ที่ประชาชนชาวไทยให้การติดตามจำนวนมากเลยก็ว่าได้ นั่นคือศึกวัน "แดงเดือด" ที่เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบกับ ลิเวอร์พูล ซึ่งทั้งคู่เตรียมจะฟาดแข้งกันวันอาทิตย์ 20.30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

ใจจริงแล้วผู้เขียนไม่ได้นึกถึงการเขียนเรื่องนี้เลยสักนิดเดียว แต่ทันใดนั้นเหมือนมีอะไรดลบันดาลให้พี่ต้นหินเดินเข้ามา ... แล้วถามว่า "แดงเดือด" ไปดูที่ไหน พร้อมมีคำตอบมาให้เสร็จสรรพ โดยที่ผมยังไม่ได้เอ่ยปาก นั่นก็คือ "ดูที่ออฟฟิศนี่แหละ" มันส์แน่ๆ

เมื่อผมได้ยินเช่นนั้น ผมก็ลองหลับตาจินตนาการตามไปถึงเมื่อแมตช์นั้นเริ่มขึ้น ราวกับว่าเกมการแข่งขันกำลังเตะกันอย่างดุเดือด เสียงกองเชียร์กึกก้องจากทั้ง 2 ทีม ที่ผมยังจำได้ดี ครั้งได้ไปนั่งดูตามร้านอาหาร ผมก็มั่นใจเหมือนกันว่าการเชียร์ที่ "ออฟฟิศ" บรรยากาศคงจะไม่ผิดแปลกกับสถานที่อื่นๆเท่าไหร่นัก ต่อให้ท่านเชียร์อยู่บ้านก็ตามเถอะ มันก็คงจะมีอารมณ์ร่วมอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

แดงเดือด 

ช่วงผีฟอร์มผีก็ทำอะไรหงส์ตอนฟอร์มตกไม่ได้เพราะฉะนั้นคู่นี้ไม่มีตรรกะและคาดเดาได้ยาก

สาเหตุที่ "หงส์แดง" กับ "ปีศาจแดง" กลายมาเป็นที่สนใจของแฟนบอลทั่วโลก เพราะเหมือนพวกเขาศัตรูคู่แค้นกันอย่างตั้งใจ ก็มีที่มาจากการปฏิวัติอุตสาหกรรม ราวๆ คริสต์ศตวรรษที่ 18 เพราะทั้ง 2 เมือง ต่างก็พยายามชิงดีชิงเด่นกันในฐานะเมืองสำคัญทางเศรษฐกิจของภูมิภาคตะวันตกเฉียงเหนือของแดน "ผู้ดี" แต่ผมจะไม่พอย้อนเรื่องราวเรื่องเหล่านี้ เพราะถ้าเท้าความวันเดียวคงไม่จบ !

ดังนั้นเป็นอันเข้าใจกันว่าผมจะขอพูดถึงเฉพาะเกมลูกหนังก็แล้วกันนะครับ

ผมคงจะไม่ย้อนไปไกลถึงความสำเร็จต่างๆ ของทั้ง ลิเวอร์พูล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในอดีตให้มันมากความ แต่ผมจะปลุกระดมความเดือดพล่านสมัยยังที่เป็นพรีเมียร์ลีก ก็แล้วกัน

นับตั้งแต่ชายที่มีนามว่า เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เข้ามากุมบังเหียน "ปีศาจแดง" ในปี 1986 และก็ได้ทำให้ขั้วอำนาจการคว้าแชมป์ลีกเปลี่ยนทิศทางมาอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ สมัยที่ดิวิชั่น 1 เปลี่ยนมาเป็น พรีเมียร์ลีก เพราะ "เซอร์" พา แมนฯ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์เป็นว่าเล่น พร้อมเบียดแซงหน้า ลิเวอร์พูล ขึ้นไปสู่บังลังค์คว้าแชมป์ลีกแดน "ผู้ดี" สูงสุด เป็นสมัย ที่ 20 เรียบร้อย

แดงเดือด

แม้เดอะค็อปจะเห็นสถิติแล้วน้อยใจ แต่มันคือเรื่องจริงทำใจและยอมรับเชื่อว่าเราจะดีขึ้น

ซึ่งมันเหมือนเป็นสิ่งที่สาวก "ปีศาจแดง" รอคอยมานานแสนนาน เพราะในอดีตพวกเขาคงจะทนขมขื่นอยู่ไม่น้อย เมื่อสาวก "เดอะ ค็อป" เคยชูป้ายเหยียดหยามเชิงประมาณว่า พวกเอ็งไม่มีวันแซงหน้า ลิเวอร์พูล ที่เป็นแชมป์ 18 สมัยได้หรอก อย่างไรก็ตามสุดท้ายตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทำได้แล้วนะครับ !

แต่แล้วดูเหมือนซีซั่นนี้ มันจะกลับตาลปัตรกันอย่างสิ้นเชิงเหมือนที่ผ่านมาๆ เพราะ "ปีศาจแดง" ที่เคยเป็นทีมลุ้นแชมป์ทุกปี ได้ขาดชายที่ชื่อว่า "เซอร์" ไปแล้ว และได้กลายเป็นแค่ทีมที่มีลุ้นไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เท่านั้น ขณะที่ "หงส์แดง" กลายเป็นทีมที่มีลุ้นแชมป์ขึ้นมาซะอย่างงั้น (ใกล้เคียงสุดๆ ก็คือเมื่อปี 2009 ได้อันดับ 2)

แดงเดือด

การเจอกันเมื่อต้นฤดูกาล หงส์แดง ได้เฮก่อนในยกแรกนะครัช

ด้วยเหตุปัจจัยหลายๆอย่าง ที่ทำให้ฟอร์มของ ลิเวอร์พูล ในซีซั่นนี้ ดีขึ้นผิดหูผิดตา ก็คือการประสานงานร่วมกันของ SAS (ซัวเรซ และสเตอร์ริดจ์) ที่ซัลโวรวมกันไปแล้ว 42 ประตู ผิดกับคู่หูของ แมนฯ ยูไนเต็ด เวย์น รูนี่ย์ และโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ที่ยิงรวมกันเพียง 22 ประตู เท่านั้น ซึ่งอาจเป็นเหตุผลให้ "ปีศาจแดง" ฟอร์มตกลงไปอย่างน่าใจหาย

แต่สาวก "เร้ด เดวิลส์" อาจจะพาลไปถึงการทำทีมของ เดวิด มอยส์ ก็ได้นะ ....

แมตช์นี้ที่ทั้งคู่พบกัน แม้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีฟอร์มไม่น่าประทับใจ และต้องรั้งอยู่อันดับ 6 แถมมีคะแนนตามหลัง "หงส์แดง" รองจ่าฝูง ถึง 11 คะแนน แต่เชื่อเถอะว่า "แดงเดือด" นัดนี้ จะเป็นยังคงเดือดพล่านอยู่เช่นเดิม เรียกได้ว่าใส่กันไม่ยั้งแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องศักศรีดิ์เอย การทำอันดับไปเล่น "ยูซีแอล" เอย ล้วนแต่มีความสำคัญกับ 2 ทีม ทั้งสิ้น

อีกทั้งเหล่าแฟนบอลของทั้ง 2 ทีม นี่แหละก็เป็นเชื้อไฟชั้นดี ที่จะให้เกมวัน "แดงเดือด" มันระอุเร้าร้อนยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงก่อนวันแข่งขัน กองเชียร์ทั้ง 2 ทีม มักจะสาดสงครามน้ำลายกันอย่างสนุกสนาน ! เชิงประมาณว่า "ทีมเอ็งนะแพ้ข้าแน่"

แดงเดือด

หลังจบเกมจะต้องมีการถ่มถุยกันแน่นอนเอากันพองามนะครับจะได้มีเพื่อนเชียร์ไปอีกหลายปี

หากท่านผู้อ่านเป็นแฟนบอลของทั้ง 2 ทีมนี้ หรือเพื่อนรอบข้างเป็นกองเชียร์ของ 2 ทีมนี้ ลองถามตัวเองหรือเพื่อนของคุณดูว่า "แดงเดือด" ที่จะคิกออฟเวลา 20.30 น. จะยอมละสายตาไม่ดูแม้แต่วินาทีเดียวได้หรือไม่ !

สุดท้ายแล้วไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร แฟนบอลของทั้ง 2 ทีม ควรจะหยอกล้อกันอยู่ในขั้นตอนที่พอเหมาะพอเจาะ จงจำไว้เสมอ ฟุตบอล มีแพ้ มีชนะ กันได้ตลอดเวลา

HaiiHowdy

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook