10 นักเตะถูกแสนถูกแต่โคตรคุ้ม Part 1
เวทีฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2013-14 เข้ามาถึงช่วงโค้งสุดท้ายแล้ว
มีนักเตะหลายต่อหลายคนที่เปิดตัวอย่างอลังการ ไม่ว่าจะเป็น เมซุต โอซิล, มารูยาน เฟลไลนี่, อัลบาโร่ เนเกรโด้, อังเดร ชูร์เล่ รวมไปถึงช่วงกลางปีอย่าง ฆวน มานูเอล มาต้า ซึ่งบางคนก็คุ้มค่าบ้าง ไม่คุ้มค่าบ้าง ยังพิสูจน์ตัวเองไม่ได้บ้าง ก็ต้องรอดูกันต่อไปยาวๆ
แต่ในบรรดานักเตะหลายต่อหลายร้อยคนในจำนวน 20 ทีม มีส่วนหนึ่งที่เรียกกันว่า "แข้งราคาถูก แต่โคตรคุ้ม" อยู่ในนั้น ซึ่งวันนี้ ผมขอนำข้อมูลจาก www.caughtoffside.com ซึ่งเป็นเจ้าประจำที่จัดอันดับในหัวข้อต่างๆ มาให้ได้ชมกัน ไม่ให้เสียเวลา เราไปดู 10 อันดับนักเตะสุดคุ้มประจำฤดูกาลนี้กันดีกว่าครับ!!
10. โลอิก เรมี่ (นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด)
หัวหอกชาวฝรั่งเศสวัย 27 ปี ที่ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด พยายามแล้วพยายามอีก ในการคว้าตัวมาจาก ควีนสปาร์ค เรนเจอร์ส แต่ด้วยเรื่องของเงินๆ ทองๆ ที่มันตกลงกันไม่ได้ ทำให้เขาย้ายเข้าสู่ถิ่นเซนต์ เจมส์ พาร์ค ในรูปแบบการยืมตัวจนจบซีซั่น ซึ่งก็ได้พิสูจน์ออกมาแล้วว่า เขาไม่เหมาะกับศึกเดอะ แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ แน่นอน
เห็นลูกนี้แล้วสาลิกาจะไม่ซื้อขาดให้มันรู้ไป
ฤดูกาลนี้ "สาลิกาดง" เล่นไปแล้ว 30 นัด ผลงานชนะ 14 เสมอ 4 แพ้ 12 ยิงได้ 38 ประตู โดยที่ เรมี่ ลงเล่นไป 23 เกม ยิงได้ถึง 13 ลูก ผลงานอันยอดเยี่ยมขนาดนี้ ยังไม่รู้ว่าจบฤดูกาลเขาจะยังเป็นหนึ่งในลูกทีมของ อลัน พาร์ดิว หรือไม่ แต่ที่รู้แน่ๆ คือการที่ นิวคาสเซิ่ลฯ อยู่ครึ่งบนของตารางได้ ก็เพราะกองหน้าผิวสีรายนี้มีส่วนเต็มๆ
9. ฟาบิโอ บอรินี่ (ซันเดอร์แลนด์)
นักเตะผู้โชคร้ายในถิ่นแอนฟิลด์ ย้ายจาก อาแอส โรม่า มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 10.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 577.5 ล้านบาท) เป็นนักเตะคนแรกที่ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส กุนซือคนเก่งทุ่มเงินซื้อเข้ามา ซึ่งหลังจากเจ้าตัวย้ายสังกัด ก็ได้เป็นกองหน้าทีมชาติอิตาลีตัวจริงทันที แต่ด้วยความอาภัพของเขา ลงเล่นได้ไม่เท่าไหร่ ก็ดันมาบาดเจ็บ จนฟอร์มการเล่นไม่เหมือนเดิม
ประตูเพิ่มค่าตัวให้ "แมวดำ" ในนัดชิงลีกคัพกับเรือใบ
ทำให้ซีซั่นนี้ เขาถูกปล่อยตัวไปอยู่กับ ซันเดอร์แลนด์ ในรูปแบบการยืมตัวหนึ่งฤดูกาล แม้จะไม่โดดเด่นในเรื่องการทำประตูนัก แต่เจ้าตัวมักจะเบิกสกอร์สำคัญๆ ได้เสมอมา ที่สำคัญคือการที่เป็นกองหน้าตัวเป้า แต่กลับใช้ตัวเองเป็นศูนย์กลาง แถมยังเข้าขากับ อดัม จอห์นสัน ได้อย่างยอดเยี่ยม จนกระทั่งพลิกจากบ๊วยของตาราง ขึ้นมาได้หายใจหายคอ พร้อมกับยิงประตูใส่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในนัดชิงชนะเลิศศึก แคปิตอลวัน คัพ ได้อีกด้วย แต่น่าเสียดายที่มันไม่เพียงพอกับการให้เขาคว้าแชมป์แรกในเกาะอังกฤษ
8. เลอันโดร บากูน่า (แอสตัน วิลล่า)
เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แอสตัน วิลล่า ดำเนินการควักเงินเพียง 8.8 แสนปอนด์ (ประมาณ 48.4 ล้านบาท) เพื่อเอาไปให้ เอฟซี โกรนิงเก้น ในฮอลแลนด์ และลากตัว เลอันโดร บากูน่า เข้ามาสู่ถิ่นวิลล่า พาร์ค ซึ่งปัจจุบัน เขากลายเป็นนักเตะที่ครบเครื่องคนหนึ่งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้วยการที่เป็นนักเตะสารพัดประโยชน์ที่นอกเสียจากลงสนามเป็นกองกลางได้แล้ว ยังเล่นแบ็กขวา แทนที่ของ แม็ทธิว โลวตัน ที่ได้รับบาดเจ็บไปช่วงหนึ่งอีกด้วย
ฟรีคิกงามหยดเพิ่มความคุ้มค่าขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ เจ้าตัวยังสามารถเล่นในตำแหน่งปีกขวาให้กับทีม หรือแม้แต่กองกลาง พร้อมกับมีการยิงฟรีคิกที่เฉียบขาด ซึ่ง 2 ใน 5 ประตูที่เจ้าตัวทำได้ นั้นก็มาจากการซัดลูกนิ่ง ซึ่งทำให้ บากูน่า กลายเป็นแบ็กขวาที่ทำประตูได้มากสุดในยุโรป ณ ตอนนี้
7. เดยัน ลอฟเรน (เซาธ์แฮมป์ตัน)
เซ็นเตอร์แบ็กรายนี้ ย้ายจาก โอลิมปิก ลียง เข้าสู่ถิ่นเซนต์ แมร์รี่ แบบช็อกโลกด้วยค่าตัว 8.5 ล้านปอนด์ (467.5 ล้านบาท) ซึ่งแน่นอนว่าดูจะเป็นค่าตัวที่แพงไปหน่อยสำหรับการจ่ายเงินซื้อนักเตะของทัพ "นักบุญ" แต่ เดยัน ลอฟเรน ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า 8.5 ล้านนั้นมันสามารถถอนทุนคืนได้หมด ตั้งแต่ครึ่งฤดูกาลแรกที่เขาลงเล่น
เป็นกองหลังก็ทำประตูได้นะครัช
แข้งชาวโครแอตวัยเพียง 24 ปี ได้แสดงให้เห็นถึงความฉลาดและการกัดไม่ปล่อยของเจ้าตัว ซึ่งเป็นจุดเด่นในตัวของ ลอฟเรน เป็นอย่างมาก และได้เห็นกันจากการที่สามารถติดทีมชาติเป็นตัวจริงไปแล้วหลายต่อหลายนัด พร้อมกับพาทีมไม่แพ้บิ๊กเนมอย่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล หรือจะเป็นการทำให้ต้นสังกัดเคยก้าวขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 ของตารางมาแล้ว ส่งผลให้เขาเข้ามาอยู่อันดับที่ 7 ของชาร์ตนี้ได้นั่นเอง
6. สตีเว่น คอลเกอร์ (คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้)
จากกองหลังที่ถูกทิ้งขว้างของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เข้ามาสู่ถิ่น คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ สเตเดี้ยม ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 440 ล้านบาท) ซึ่งได้กลายเป็นตัวหลักให้กับทีมเป็นที่เรียบร้อย คอลเกอร์ สั่งสมประสบการณ์กับหลายต่อหลายสโมสรไม่ว่าจะเป็น เยโอวิล ทาวน์, บริสตอล ซิตี้ และสวอนซี ซิตี้ ทำให้เจ้าตัวมีความแข็งแกร่งอย่างเต็มเปี่ยม และปัจจุบันได้กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดให้กับทีมด้วยจำนวน 4 ประตูอีกด้วย
ประกบ อเดบายอร์ เพื่อนร่วมทีมเก่า
แม้ว่า "บลูเบิร์ดส" จะต้องตกชั้นหรือไม่ หลังจากจบซีซั่น เขาก็ได้ถือว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมไม่ได้แย่ไปกว่านี้ ซึ่งมันพิสูจน์ได้จากการที่ทีมได้ยื่นปลอกแขนกัปตันทีมให้กับเขาสวมใส่ในฤดูกาลนี้ แถมมันยังเป็นข่าวที่ดีมากๆ ของทีมชาติอังกฤษ ที่กำลังเข้าสู่ในยุคผัดเปลี่ยนยุคในแผงกองหลัง ที่จะมีเขาเข้าไปเป็นตัวเลือกให้ รอย ฮ็อดจ์สัน ได้อีกหนึ่งคน
นี่ก็คืออันดับ 10-6 นักเตะถูกแสนถูก แต่ "โคตร" สำคัญในทีมต่างๆ ซึ่งหลายต่อหลายคนอาจจะไม่มีชื่อนักเตะเหล่านี้อยู่ในใจก็เป็นได้ หรืออาจจะตรงใจกับใครบางคนในทุกๆ อันดับเลยก็น่าจะมีอยู่ สัปดาห์หน้า เราจะมาว่ากันต่อถึงอันดับที่ 5-1 ซึ่งต้องรอติดตามเพราะผมคาดว่าน่าจะตรงใจใครหลายคนกันบ้างล่ะ!!
P.D. เรียบเรียง