Won Upon a Time in La Liga

Won Upon a Time in La Liga

Won Upon a Time in La Liga
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สิ้นสุดการรอคอย 18 ปีของ แอตเลติโก มาดริด เสียที ถึงแม้ว่าแมตช์ดังกล่าว ที่สนามเหย้าของคู่ปรับเฉพาะกาลอย่าง "ต่างดาว" บาร์เซโลน่า นั้น พวกเขาจะไม่ได้เล่นเหนือกว่าเจ้าบ้านเลย

แม้จะเสียประตูไปก่อน แต่ลูกทีมของ "เอล โชโล่" ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ก็โชว์สปิริตทีมให้เห็นแล้วว่า ทำไมพวกเขาถึงมาอยู่จุดนี้ได้

เจ้าถิ่นพยายามเอาเปรียบทุกอย่าง เช่นการอนุญาตให้ขายตัวแก่แฟนบอลทีมเยือน ที่จะมาเชียร์ทีมรักในถิ่นคัมป์ นู นั้น แค่ 447 ที่นั่งเท่านั้นเอง สี่ร้อยสี่สิบเจ็ดที่นั่งถ้วน ทั้งที่ความจริงแล้ว อ่างยักษ์ที่เป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในสเปนนั้น จุถึง 99,354 ที่นั่ง

ลูกโหม่งตีเสมอของโกดิน คือประตูสู่แชมป์ลา ลีกา

แต่ 11 ผู้เล่นรวมถึง "เอล โชโล่" เอง ทำให้แฟนบอลเกือบ 99,000 ของเจ้าบ้าน ต้องเงียบกันในครึ่งหลัง เกือบ 45 นาที

โชคดีที่ได้ ดิเอโก้ โกดิน ยอดปราการหลังจากอุรุกวัยที่ฤดูกาลนี้โชว์ฟอร์มได้ดีมากๆ มาโขกตีเสมอให้กับทีมได้ ในนาทีที่ 49 ทำให้ปีนี้ แชมป์ได้ตกเป็นของ แอตเลติโก มาดริด อย่างเป็นทางการ

ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาทำได้ ต้องย้อนไปในปี 1995-1996 ของ ราโดเมียร์ อันทิช ปรมาจารย์ของ "เอล โชโล่" นั่นเอง

จริงๆแล้ว ถ้า แอต.มาดริด ไม่พลาดในนัด เจอกับ เลบานเต้ และ มาลาก้า สองนัดก่อนหน้านี้ พวกเขาน่าจะได้เดินเข้าป้ายแบบสบายๆไปตั้งแต่ วันที่ 4 พฤษภาคม หรืออย่างช้าก็ วันที่ 12 กลับเป็นว่าการทำแต้มหล่นสองนัดดังกล่าว เหมือนกับทางลาลีกาขอชะลอการฉลองแชมป์ไว้ เพื่อเรียกเรตติ้งในนัดสุดท้ายหรือไม่นั้น ก็ทำให้สื่อทั่วไปคิดกันได้

ถึงอย่างไรก็ตาม แชมป์ปีนี้ควรค่าแล้ว สำหรับแอตเลติโก มาดริด จากการแพ้ในลีกน้อยที่สุด คือ 4 นัดเท่านั้น ขณะที่ ทั้ง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลน่า แพ้ 5 นัดเท่ากัน และที่สำคัญที่สุดคือ พวกเขาไม่แพ้ใครในบ้านเลยนับตั้งแต่เปิดซีซั่น ทำสถิติเทียบเท่ากับ บาร์เซโลน่า ในปี 2009/2010 ยุคของเป็ป กวาร์ดิโอล่า ส่วนอีกหนึ่งสถิติที่น่าสนใจก็คือ แอต.มาดริด มีเปอร์เซ็นต์การครองบอลไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ในค่าเฉลี่ยรวม 38 นัด โดยทำได้แค่ 49.53 สวนทางกับการทำฟุตบอลในลีกสเปน ที่เน้นการครองบอล ตั้งแต่ในระดับสโมสร จนถึงระดับทีมชาติชัดเจน

ดิเอโก้ ซิเมโอเน่ มีลุ้นถ้วย UCL อีกใบ

ขอแสดงความยินดีกับ สาวกแอต.มาดริด ทุกคน ขอที่เป็นปีทองของเขานั้น ยืนยาวต่อไป เพื่อเพิ่มศักยภาพลีกให้ มีการขับเขี้ยวกันมากขึ้น แล้วผมก็เชื่อว่า ถ้าหากดิเอโก้ ซิเมโอเน่ ยังคงทำทีมต่อไป ไม่ว่าซูเปอร์สตาร์คนไหนจะย้ายออก มันจะไม่ทำให้ทีมด้อยลงแน่นอน


แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook