รองเท้าทองคำยุโรป
ตอนนี้ 5 ลีกดังก็ปิดฉากกันไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แชมป์, ทีมไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปและตกชั้นก็ได้กันหมดแล้ว เช่นเดียวกับการประกาศรางวัลต่างๆ มากมาย
อันที่จริงก็มีอีกรางวัลหนึ่งที่เดิมทีไม่ค่อยมีใครให้ความสนใจมากนัก เพราะมันเห็นกันอยู่โต้งๆ ก็คือ รางวัลรองเท้าทองคำยุโรป ที่จะมอบให้กับกองหน้าที่ยิงประตูในลีก คูณกับค่าสัมประสิทธิ์แล้วได้คะแนนเยอะที่สุดในยุโรป ซึ่งในปีนี้มันเป็นประเด็น เพราะคนที่ได้เท่ากันดันมีสองคนก็คือ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ จาก เรอัล มาดริด และหลุยส์ ซัวเรซ ดาวยิงชาวอุรุกวัยของ สโมสรลิเวอร์พูล
มีการถกเถียงกันอย่างรุนแรงจากติ่งของทั้งสองฝั่ง ทางฝั่ง โรนัลโด้ ก็บอกว่า เจ้า CR7 สมควรได้รางวัลนี้มากกว่า เพราะลงสนามน้อยกว่า โดยลงไป 30 นัด ยิงได้ 31 ประตู
ไม่ต้องเถียงกัน ยิงเท่ากันก็รับตำแหน่งร่วมไปเลย
พูดแบบนี้มีหรือที่ แฟนๆ ลิเวอร์พูล จะยอม ก็ออกมาโต้กลับว่า ซัวเรซ ควรจะได้รางวัลนี้แต่เพียงผู้เดียว เพราะประตูที่ทำได้ไม่มีจุดโทษเจือปนแม้แต่ประตูเดียว แถมแอสซิสต์เยอะกว่าอีกต่างหาก ทำให้ติ่งทั้งสองฝ่ายเปิดสงครามน้ำลายกันอย่างเมามันส์
คืออยากจะบอกว่า รางวัลนี้ถ้าทำประตูเท่ากันเขาก็ให้ทั้งคู่ล่ะครับ ถ้าลองย้อนกลับไปเมื่อปี 2005 ที่ เธียร์รี่ อองรี จาก อาร์เซน่อล และดีเอโก้ ฟอร์ลัน จาก บียาร์เรอัล ที่ยิงไปคนละ 25 ประตูเท่ากัน ส่วนรองเท้าทองคำก็ทำเป็นสองชุด ให้ทั้งคู่ไปครอง
อองรี ฟาดไปหนึ่งสมัยปี 2005
ซึ่งกรณีโด้ กับ ซัวเรซ ก็ถือว่าเหมาะสมดี ที่ทั้งคู่จะได้รางวัลร่วมกัน ไม่รู้ว่าติ่งทั้งสองฝ่ายจะดิ้นหาบอลเก็งกิไปเพื่ออะไร ดูแล้วก็เพลีย
เอาล่ะ ทีนี้มาที่ประวัติคร่าวๆ ของรางวัลนี้กันดีกว่าครับ รางวัลนี้เดิมทีจะมอบให้กับนักเตะที่ยิงประตูมากที่สุดในลีกยุโรป โดยนับที่จำนวนประตูเท่านั้นไม่ได้มีค่าสัมประสิทธิ์มาคูณเพิ่มแต่อย่างใด โดยเริ่มครั้งแรกเมื่อฤดูกาล 1967-68 ซึ่งคนที่ได้ก็คือ "ไอ้เสือดำแห่งโมซัมบิก" ยูเซบิโอ ตำนานลูกหนังทีมชาติโปรตุเกส ผู้ล่วงลับ
ในตอนแรกมันก็โอเคอยู่ เพราะว่าก็จะมีซูเปอร์สตาร์อย่าง แกร์ด มุลเลอร์ จาก บาเยิร์น มิวนิค มาคว้ารางวัลได้ 2 สมัย แต่ปัญหาใหญ่ของรางวัลนี้คือ เกิน 80 เปอร์เซ็นต์ ที่คนได้รางวัลจะมาจากลีกเล็กๆ ที่มาตรฐานไม่เท่าลีกดังๆ แต่ดันยิงประตูได้เยอะ และมันดันมีเกือบทุกปีซะด้วย
ฟอร์ลันซิวไปสองสมัย (ครั้งแรกรับร่วมกับอองรี)
กองหน้าจาก ลีกไซปรัส, โรมาเนีย, จอร์เจีย, อาร์เมเนีย, เวลส์ หรือจะเป็น บัลแกเรีย ต่างเคยได้สัมผัสรองเท้ารองทำยุโรป เช่นเดียวกับพวกตำนานทั้งหลาย จึงทำให้รางวัลนี้ดูด้อยค่าลงไปถนัดตา
จนกระทั่งในฤดูกาล 1996-97 ยูฟ่า จึงได้มีการออกกฎค่าสัมประสิทธิ์เข้ามา โดย นักเตะจากลีกใหญ่ จะได้คะแนนคูณ 2 จากประตูที่ทำได้ ส่วนลีกรองๆ ก็จะเป็น 1.5 หรือไม่ก็คูณ 1 ทำให้รางวัลนี้ กลับมาดูทรงคุณค่าอีกครั้ง โดยคนแรกที่ได้ก็คือ โรนัลโด้ ตำนานดาวยิงชาวบราซิล ที่ตอนนั้นอยู่กับ บาร์เซโลน่า
หลังจากนั้นก็จะมีนักเตะนอกจาก 5 ลีกดัง เข้ามาเป็นคว้ารองเท้าทองคำกันประปราย ซึ่งก็ต้องยิงกระฉูดจริงๆ อย่าง เฮนริค ลาร์สสัน ในปี 2001 กับ กลาสโกว์ เซลติกส์ หรือจะเป็น มาริโอ ยาร์เดล จาก เอฟซี ปอร์โต้
ส่วนช่วงหลังต้องยอมรับว่าเป็นยุคของ ลา ลีกา และสองปีศาจอย่าง ลิโอเนล เมสซี่ และโรนัลโด้ อย่างแท้จริง โดย 7 ปีหลังสุด ทั้งสองคนผลัดกันได้รางวัลนี้ไปคนละ 3 สมัย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดร่วมกัน
พี่อ้วนเขาเก็บอย่างดีเพราะมันเป็นคู่แรกของยุโรปหลังการปรับกฎ
ในขณะที่ ลา ลีกา สเปน ก็กลายเป็นลีกที่เป็นขาประจำของรางวัลนี้ เมื่อ 6 ปีหลังสุด เจ้าของรางวัลรองเท้าทองคำ ล้วนแล้วแต่มาจากลีกนี้ทั้งสิ้น โดยที๋โนเนมที่สุดนับตั้งแต่มีการเอาค่าสัมประสิทธิ์มาคูณก็คงจะเป็นช่วงปี 2000 ที่ เควิน ฟิลลิปส์ ดาวยิงจากซันเดอร์แลนด์ได้ไปครอง โดยปีนั้น "เจ้าหลอดไฟ" ยิงไปทังสิ้น 30 ประตู ด้วยกัน
นี่ล่ะครับ แม้จะเป็นรางวัลที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึง แต่ก็ถือว่า มีหลายอย่างที่น่าสนใจเลยทีเดียว
The Nut