คสช.11
เดี๋ยวๆ เห็นหัวข้ออย่างนี้ อย่าเพิ่งเรียกผมไปรายงานตัวนะครับท่าน! คสช. ในความหมายของกระผมย่อมาจาก "คณะนักเตะแขวนสตั๊ดแห่งชาติ" นะครัชช โปรดฟังอีกครั้ง! แหะๆ
รูดม่านลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ 5 ลีกดังของยุโรปในฤดูกาลนี้ มีทั้งทีมที่สมหวัง ทีมที่ผิดหวัง คละเคล้ากันไป ฤดูกาลจบลง มีดาวรุ่งดวงใหม่ฉายแสงเจิดจรัสขึ้นมาประดับวงการมากมาย แต่ก็อย่าลืมว่ามีแข้งเก๋าที่เราคุ้นชินกันในช่วง 10-20 ปีหลัง ทนฝืนสังขารของตัวเองต่อไปไม่ไหว พาเหรดประกาศยุติอาชีพค้าแข้งกันเป็นแถว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างมาก ที่จะไม่ได้เห็น ลีลาการเล่นของพวกเขาอีกต่อไปแล้ว ฉะนั้นวันนี้เรามาจัดทีม รวมดาวแข้งเก๋าที่ประกาศแขวนเกือกไปในฤดูกาลนี้กันดีกว่าครับ
ผู้รักษาประตู
ชื่อ : โรเชริโอ เซนี่
สัญชาติ : บราซิล
อายุ : 41 ปี
สโมสร : เซา เปาโล
ลงเล่นทั้งสิ้น : 1,146 นัด ยิงได้ 116 ประตู
ท่านผู้อ่านบางคนที่ไม่รู้จักนายด่านชาวบราซิลเลี่ยนรายนี้มาก่อน อาจกำลังคิดในใจว่า ข้อความด้านบนตรง "จำนวนการทำประตู" มันผิดหรือเปล่า? มั่วหรือเปล่า? อย่ามโนหน่า! โกลล์บ้าอะไรจะยิงได้เป็นร้อยลูก มากกว่ากองหน้าร่างโย่งชื่อย่อ อ.ด.ค.ล ที่ทีมดังในเกาะอังกฤษบางทีมทุ่มซื้อตัวมาด้วยราคา 35 ล้านปอนด์ แต่ยิงได้แค่ 11 ลูกซะอีก (แอบจิกเล็กน้อย 555). ... คำตอบคือไม่ได้มโนครับ นายทวารจอมเก๋ารายนี้ มีการยิงฟรีคิกที่เฉียบขาดเป็นจุดเด่น รวมไปถึงการยิงลูกโทษที่คมกริบ ส่งผลให้เซนี่ ทำประตูได้เป็นกอบเป็นกำ และกลายเป็นเจ้าของสถิติผู้รักษาประตูอาชีพที่ทำประตูได้มากที่สุดในโลก ซึ่งคาดว่าสถิตินี้คงยากที่จะหาคนมาทำลายมันลงอย่างแน่นอน.
แบ็กขวา
ชื่อ : ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ
สัญชาติ : อาร์เจนติน่า
อายุ : 40 ปี
สโมสร : ทอเลอร์ เอสคาลาด้า (1 ปี) , บานฟิลด์ (2 ปี) , อินเตอร์ มิลาน (19 ปี)
ลงเล่นทั้งสิ้น : 858 นัด ยิงได้ 21 ประตู
แม้กัปตันทีมมาดเท่ห์แห่งทัพ "งูใหญ่" จะปิดฉาก 19 ปี ในถิ่น จูเซ็ปเป้ เมอัซซ่า ในฐานะผู้เล่น ทว่าความผูกพันธ์กับทีม ก็ทำให้บอร์ดบริหารมอบตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาของสโมสรให้เจ้าตัวดูแลต่อ โดยตลอดอาชีพการค้าแข้งของแบ็กชาวอาร์เจนไตน์ คว้าแชมป์มาประดับบารมีได้ทั้งสิ้น 12 รายการ ประกอบไปด้วย สคูเด็ตโต้ 5 สมัย, โคปา อิตาลี 4 สมัย, ยูฟ่า คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ ฟีฟ่า คลับ เวิล์ด คัพ อีกอย่างละ 1 สมัยด้วยกัน
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
ชื่อ : คริสเตียน คิวู
สัญชาติ : โรมาเนีย
อายุ : 33 ปี
สโมสร : เรซิต้า , ยูนิเวอร์ซิตาเตีย ไคโคว่า , อาแจ็กซ์ , โรม่า , อินเตอร์ มิลาน
ลงเล่นทั้งสิ้น : 486 นัด ยิงได้ 27 ประตู
เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บบริเวณเท้าเรื้อรังทำให้ คิวู จำต้องประกาศยุติอาชีพการค้าแข้งค่อนข้างเร็ว หากเทียบกับแข้งรายอื่นๆ โดยเขาไม่ได้ลงสัมผัสสนามให้กับทัพ "งูใหญ่" เลยแม้แต่เกมเดียว ในฤดูกาลที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตลอด 19 ปีบนถนนสายลูกหนัง กองหลังชาวโรมาเนียรายนี้ ก็ถูกยกให้เป็นหนึ่งในปราการด่านสุดท้ายที่แข็งแกร่งรายหนึ่งของยุคเลยทีเดียว
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ
ชื่อ : กาเบรียล ไฮน์เซ่
สัญชาติ : อาร์เจนติน่า
อายุ : 36 ปี
สโมสร : นีเวลล์ โอลด์บอย , บายาโดลิด , ปารีส แซงต์-แชร์กแมง , แมนฯ ยูไนเต็ด , เรอัล มาดริด , โอลิมปิก มาร์กเซย , โรม่า , นีเวลล์ โอลด์บอย (รอบ 2)
ลงเล่นทั้งสิ้น : 421 นัด ยิงได้ 23 ประตู
"ทนพิษบาดแผลไม่ไหว" ต้องขอมอบคำนี้ให้กับการแขวนสตั๊ดของอดีตแบ็กซ้าย "ปีศาจแดง" รายนี้เลยครับ อาการบาดเจ็บเป็นของคู่กายของ ไฮน์เซ่ มาโดยตลอด พอๆ กับเจ้าคิวู ด้านบนเลย ทำให้เจ้าตัวขอไม่ฝืนสังขารประกาศเลิกเล่นไปในวับ 36 ขวบ หลังจาก กลับมารับใช้ต้นสังกัดแรกในชีวิตการค้าแข้งอย่าง นีเวลล์ โอลด์บอย อีกครั้งเป็นคำรบที่ 2 และนี่คือส่วนนึงของบทสัมภาษณ์ที่เจ้าตัวยอมรับว่าร่างกายของเขาไม่ไหวที่จะลงเล่นอีกต่อไปแล้ว "ผมอยากจะบอกว่าหลังจบฤดูกาลนี้ ผมคงจะไม่สามารถเล่นให้กับสโมสรได้อีกต่อไป ผมไม่สามารถต่อสู้กับความเป็นจริงของสภาพร่างกายผมได้อีกแล้ว"
ปล.แม้ว่า ไฮน์เซ่ จะเล่นตำแหน่งแบ็กซ้ายเป็นหลัก แต่เขาก็สามารถโยกมาเล่นเซนเตอร์ ได้เหมือนกันนะ อีกอย่างที่ผมจับ ไฮส์เซ่ มาเป็นเซ็นเตอร์ก็เพราะ. .. .. ผมนึกคนอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ ฉะนั้น เข้าใจตรงกันนะ!! 5555
แบ็กซ้าย
ชื่อ : เวย์น บริดจ์
สัญชาติ : อังกฤษ
อายุ : 33 ปี
สโมสร : เซาธ์แฮมป์ตัน , เชลซี , แมนฯ ซิตี้ , เรดดิ้ง
ลงเล่นทั้งสิ้น : 467 นัด ยิงไป 9 ประตู
อดีตแบ็กซ้ายทีมชาติอังกฤษผู้นี้ ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่โดนโรคเดี้ยงเล่นงาน จนต้องแขวนสตั๊ดก่อนวัยอันควร แม้ว่าเขาจะโลดแล่นอยู่บนโลกลูกหนังมายาวนานถึง 16 ปี อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าเมื่อพูดถึง "เวย์น บริดจ์" สิ่งแรกที่ผู้คนส่วนใหญ่มักนึกถึงคงไม่ใช่ผลงานในสนามเป็นแน่ แต่เป็นอะไรท่านผู้อ่านลองตอบกันดูสิ๊ครับ. .... .. .. . . ติ๊กต๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ . .. .. ใช่แล้วครับชื่อของ "จอห์น เทอร์รี่" ต้องลอยขึ้นมาก่อนแน่ๆ (ผมคิดว่าหลายท่านคงคิดเหมือนกัน) เหตุการณ์ช็อกวงการลูกหนังดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2010 โดยอดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษนามว่า เทอร์รี่ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมทีมของ บริดจ์ ในขณะนั้น รับบทเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด แอบไปมีสัมพันธ์สวาทกับแม่ของลูกหรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า "เมีย" ของ เวย์น บริดจ์ นั่นเอง!!
ปีกซ้าย
ชื่อ : ไรอัน กิ๊กส์
สัญชาติ : เวลส์
อายุ 40 ปี
สโมสร : แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ลงเล่นทั้งสิ้น : 963 นัด ซัดไป 168 ประตู
ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่า ไรอัน กิ๊กส์ คือผู้เล่นที่ผมเชิดชูและเทอดทูนมาตั้งแต่จำความได้ เขาคือคนที่ทำให้ผมเริ่มต้นดูฟุตบอล วันที่เขาประกาศแขวนสตั๊ด ผมก็ไม่สามารถกั้นน้ำตาเอาไว้ได้ ตอนนี้ไอดอลของผมได้เลิกเล่นไปแล้ว แต่ความรักของผมในตัวเขายังคงมีอยู่เต็มเปี่ยม .. .. พอๆ เลิกดราม่า เข้าเรื่องดีกว่า ผมจะมาเล่าเรื่องตัวเองเพื่อ!? ตำนาน "ปีกพ่อมด" รายนี้ คือบุคคลผู้ถือครองสถิติไว้มากมายจนยากที่จะบรรยายหมด คือนักเตะที่คว้าแชมป์มามากมาย คืออัจฉริยะลูกหนังตัวจริง คือตำนานหมายเลข 11 ตลอดกาลของทัพ "ปีศาจแดง" คือแบบอย่างที่ดีในสนามของนักบอลรุ่นหลัง ทว่าขอย้ำว่าเฉพาะในสนามเท่านั้น! ที่ต้องบอกอย่างนี้ก็เพราะว่า จุดด่างพร้อยเดียวของปีกขนดก วัย 40 ปี รายนี้ก็คือ การแอบไป บ๊ะๆ โอ้ว บ๊ะๆ กับเมียของน้องชายแท้ๆ นั่นเอง ซึ่งถ้าอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมท่านผู้อ่านก็หาเอาในกูเกิ้ลละกันนะครับ เนื่องจากผมไม่อยากจะพูดถึงด้านลบของไอดอลผมมากนัก!! ฮ่าๆๆ ลำเอียงฝุดๆ โดยในฤดูกาลหน้า กิ๊กส์ซี่ จะก้าวขึ้นมารับตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทีมของ หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือป้ายแดงของทัพ "ปีศาจแดง"
กองกลาง
ชื่อ : ฮวน เซบาสเตียน เวรอน
สัญชาติ : อาร์เจนติน่า
อายุ : 39 ปี
สโมสร : เอสตูเดียนเตส, โบค่า จูเนียส์, ซามพ์โดเรีย, ปาร์ม่า, ลาซิโอ, แมนฯ ยูไนเต็ด, เชลซี, เอสตูเดียนเตส (รอบ 2), แบรนเซ่น, เอสตูเดียนเตส (รอบ 3)
ลงเล่นทั้งสิ้น : 630 นัด ยิงได้ 78 ประตู
ก่อนหน้านี้ ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์รายนี้ เคยประกาศเลิกเล่นไปแล้วครั้งนึง เมื่อปี 2012 ก่อนที่ ความคิดถึงมันห้ามไม่ไหว มันคงห้ามไม่ไหว. ..เปลี่ยนใจหยิบสตั๊ดกลับมาใส่ ลงเล่นให้กับ เอสตูเดียนเตส ซึ่งเป็นทีมตั้งแต่เยาวชนอีกครั้งเมื่อปีที่ผ่านมา โดย เวรอน เริ่มอาชีพค้าแข้งกับ เอสตูเดียนเตส เมื่อปี 1994 ก่อนจะมาโด่งดังเป็นพลุแตก ตอนย้ายมาเล่นให้กับ ปาร์ม่า และ ลาซิโอ หลังจากนั้นก็ได้ย้ายมาค้าแข้งใน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กับ "ปีศาจแดง" และ เชลซี แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จนัก. เอกลักษณ์โดดเด่นของเขาก็คือการ ดึงถุงเท้าลงต่ำ และผูกผ้าไว้ใต้เข่าขวาเสมอยามลงเล่น
กองกลาง
ชื่อ : คลาเรนซ์ เซดอร์ฟ
สัญชาติ : ฮอลแลนด์
อายุ : 38 ปี
สโมสร : อาแจ็กซ์, ซามพ์โดเรีย, เรอัล มาดริด, อินเตอร์ มิลาน, เอซี มิลาน, โบตาโฟโก
ลงเล่นทั้งสิ้น : 889 นัด ยิงได้ 135 ประตู
เซดอร์ฟ ตัดสินใจยุติอาชีพการค้าแข้งกับ โบตาโฟโก เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา และก้าวขึ้นมารับตำแหน่งกุนซือของทัพ "ปีศาจแดง-ดำ" ทันที หลังจากที่ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี กุนซือคนเก่าโดนไล่ออกไป เนื่องจากผลงานของทีมย่ำแย่ ซึ่งตั้งแต่ เซดอร์ฟ เข้ามาคุมทีม เอซี มิลาน ผลงานก็กระเตื้องขึ้นมาเล็กน้อย แต่ก็ไม่วายมีข่าวลือว่าเขากำลังจะโดนเด้งออกจากตำแหน่งในเร็ววันนี้ โดยสมัยที่เขายังเป็นนักเตะอยู่ เซดอร์ฟ ถือว่าเป็นกองกลางตัวฉกาจคนนึง คอยจ่ายบอลสวยๆ ให้เพื่อนร่วมทีม,ตัดเกม และคุมเกมในแดนกลางได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
กองกลาง
ชื่อ : จูนินโญ่
สัญชาติ : บราซิล
อายุ : 39 ปี
สโมสร : วาสโก ดา กามา, ลียง, อัล-การาฟา, วาสโก ดา กามา (รอบ 2), นิวยอร์ค เร้ดบลูส์, วาสโก ดา กามา (รอบ 3)
ลงเล่นทั้งสิ้น : 841 นัด ยิงได้ 210 ประตู
แม้ชื่อเสียงจะไม่โด่งดังเท่า "เดวิด เบ็คแฮม" แข้งซุปเปอร์สตาร์แดนผู้ดี แต่ถ้าพูดถึงความสามารถในการยิงฟรีคิก จูนินโญ่ ก็ไม่ได้ด้อยกว่า เบ็คแฮม เลย จุดเด่นของกองกลางชาวแซมบ้ารายนี้ ก็คือการปั่นฟรีคิกอันเฉียบคม เรียกได้ว่าคู่ต่อสู้แทบไม่กล้าทำฟาล์วในระยะอันตรายเลย หากมี จูนินโญ่ ลงเล่นอยู่ในสนาม
ปีกขวา
ชื่อ : เคร็ก เบลลามี่
สัญชาติ เวลส์
อายุ : 34 ปี
สโมสร : นอริช ซิตี้, โคเวนทรี, นิวคาสเซิ่ล, แบล็คเบิร์น, ลิเวอร์พูล, เวสต์แฮม, แมนฯ ซิตี้, ลิเวอร์พูล (รอบ 2), คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้
ลงเล่นทั้งสิ้น : 546 นัด ยิงได้ 170 ประตู
หลังจากที่ เบลลามี่ หมดสัญญากับ คาร์ดิฟฟ์ เขาก็ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในอังกฤษ รวมทั้งทีมในศึกเมเจอร์ลีก สหรัฐฯ ที่ต้องการคว้าตัวไปร่วมทีม แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจแขวนสตั๊ดในวัย 34 ปี ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็วทีเดียว หากเทียบกับแข้งรายอื่นๆ ที่ไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน โดยอดีตกองหน้าชาวเวลส์ ที่ระยะหลังหันมาเอาดีในการเล่นเป็นปีกแทน ได้เปิดเผยว่าเขาจะเริ่มเรียนหลักสูตรการเป็นโค้ช และอยากจะผันตัวเป็นกุนซือในอนาคตอีกด้วย
กองหน้า
ชื่อ : ริวัลโด้
สัญชาติ : บราซิล
อายุ : 42 ปี
สโมสร : ซานตา ครูส, บาร์เซโลน่า, เอซี มิลาน, โอลิมเปียกอส, โมกิ มิริม
ลงเล่นทั้งสิ้น : 813 นัด 380 ประตู
ริวัลโด้ ถือว่าเป็นตำนานนักเตะจอมพเนจรคนนึง. . .. เกริ่นหัวอย่างนี้ ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยพเนจรตรงไหนฟะ ข้างบนเขียนมาแค่ 5 ทีมเอง? ต้องอธิบายอย่างนี้ครับเนื่องจากตัวรุกชาวบราซิลเลี่ยนรายนี้ ย้ายทีมรวมกันถึง 16 ครั้ง ฉะนั้นผมจึงขออนุญาติเขียนเฉพาะต้นสังกัดแรก ต้นสังกัดสุดท้าย และต้นสังกัดที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขาเท่านั้นละกันนะครับ ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมการย้ายทีมทั้ง 16 ครั้ง ขอเชิญให้บริการ วิกิพีเดีย เช่นเคยครับ (จริงๆ แล้วยอมรับก็ได้ว่า ผมขี้เกียจพิมพ์ฮะ) และไหนๆ ทุกท่านก็เข้าไปดูว่า 16 ทีมดังกล่าวมีอะไรบ้าง ก็แฉลบไปดูประวัติผลงานด้วยเลยละกันนะครับ ผมจะได้ไม่ต้องสาธยายสรรพคุณของดาวเตะชื่อก้องรายนี้ให้ยืดยาว เพราะเกียรติประวัติและความเก่งกาจของเจ้า "นิเชา" เยอะมากจริงๆ (ขี้เกียจอีกแล้ว 5555)
โฉมหน้าทีม คสช-11 (คณะนักเตะแขวนสตั๊ดแห่งชาติ 11)
หลังจากจัดทีมชุดนี้เสร็จ ผมมีความรู้สึกว่า หากย้อนกลับไปสัก 10 กว่าปีที่แล้ว ทีมนี้มีสิทธิ์เป็นแชมป์ยุโรปได้สบายๆ เลยนะเนี่ย! และนอกจาก 11 คนนี้แล้ว ยังมีแข้งดังอีกหลายรายที่ประกาศเลิกเล่นไปในปีนี้อีก เช่น พาร์ค จี-ซุง , เดโก้ และ เควิน ฟิลลิปส์ เป็นต้น บางรายเลิกเล่นไปแต่ก็ยังวนเวียนอยู่ในวงการฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็นโค้ช, กุนซือ, นักวิจารณ์ หรืออะไรก็ตาม บางรายก็หันหลังให้โลกลูกหนังไปเลย แม้ตัวจะจากสนามไป แต่ผมเชื่อว่าความสุขที่พวกเขามอบแฟนบอล จะยังคงติดอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไปครับ
เรียบเรียงโดย : ชิน ชินพัฒน์